"เลือกตั้ง" ยังไร้ข้อสรุป "วิษณุ" ยกเป็นหน้าที่ "กกต." หารือเพิ่มเติม...คาด "มีก่อนพระราชพิธี"

 

วานนี้ 3 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 18.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายวิษณุ เครืองาม เข้าร่วมหารือกับกกต.ถึงการกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสมไม่กระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งหลังการหารือ นายวิษณุ กล่าวว่า  ได้นำรายละเอียดขั้นตอนพระราชพิธีมาแจ้งต่อกกต.เพราะจากเดิมที่ทราบว่าจะมีพระราชพิธีระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.นั้น แต่ในรายละเอียดก่อนหน้านั้นประมาณ 15 วันจะมีพิธีการสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการ รวมถึงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้วก็จะยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกประมาณ 15 วันเช่นกัน

ดังนั้นหากยึดตามหมายกำหนดการเดิม คือวันที่ 24 ก.พ. กกต. ต้องประกาศผลภายใน 60 วัน คือไม่เกินวันที่ 24 เม.ย. จากนั้นภายใน 15 วันจะต้องเสด็จเปิดการประชุมสภานัดแรก ซึ่งก็จะตรงกันวันที่ 8 พ.ค. เมื่อกกต.ทราบขั้นตอนต่างๆ แล้วก็จะนำไปประกอบการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสม โดยในจุดนี้รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะมีอำนาจเพียงนำพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งส.ส. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเดิมคาดว่าจะประกาศในวันที่ 2 ม.ค. แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พ.ร.ฎ.ดังกล่าวกลับลงมา ขณะนี้จึงถือว่าอยู่ในพระราชอำนาจ ซึ่งรัฐบาลได้ทูลเกล้าฯไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.61 แต่เมื่อมีพ.ร.ฎ.ลงมาแล้ว กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้งภายใน 5 วัน จากนั้นจะประกาศวันรับสมัคร สถานที่รับสมัครและรายละเอียดอื่นๆ
 

 

ทั้งนี้การที่พ.ร.ฎ.ยังไม่ประกาศในราชกิจจาฯ ทำให้กกต.ไม่สามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้ แต่ก็จะเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้กกต.มีเวลาเตรียมการได้มากขึ้น เพราะลำพังวันเลือกตั้งจะมีเมื่อไหร่ไม่ได้มีผลต่อพระราชพิธีฯ และถึงอย่างไรการเลือกตั้งต้องมีก่อนพระราชพิธีฯแน่ เพราะอยู่ในช่วง 150 วันหลังวันที่ 11 ธ.ค. 61-9 พ.ค. 62 ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีผลบังคับใช้ ซึ่งความวิตกว่าอาจเกิดเหตุโกลาหล ทับซ้อนให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปให้พ้นพระราชพิธีฯนั้นทำไม่ได้ เพราะวันอาทิตย์สุดท้ายคือวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งวันนั้นจัดการเลือกตั้งไม่ได้เพราะจะมีการจัดพระราชพิธีฯ โดยการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปไม่ได้ เพราะจะเกินกรอบ 150 วัน

ในส่วนนี้นั้นเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนแล้ว ไม่สามารถใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ไขได้ ถ้าจะใช้กำหนดวันเลือกตั้งเดิมคือ 24 ก.พ. ก็ไม่กระทบกับพระราชพิธีฯ เรื่องการหาเสียงก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาลมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือระยะเวลาหลังการเลือกตั้งที่ยังมีกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งกกต.ต้องประกาศผลในวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการทำน้ำอภิเษกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธี กิจกรรมการเมืองกับกิจกรรมพระราชพิธีฯ จึงต้องไม่ทับซ้อนกัน

ส่วนคำถามที่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 10 มี.ค.หรือ 17 มี.ค. นายวิษณุ ให้คำตอบว่าม่ทราบ เพราะขึ้นอยู่กับกกต. สื่อฟังแถลงไม่นานก็สามารถจับประเด็นได้ เมื่อตนได้บอกรายละเอียดกับทางกกต.ไป เชื่อว่า กกต.คงมีคำตอบในใจว่าจะไปหารือกัน เพราะก่อนหน้านี้กกต.หารือกันแล้วว่าจะเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. เมื่อกกต.เห็นกรอบกระราชพิธีฯ 3 วันก็ยังยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 

แต่หลังจากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กกต. จึงจำต้องหารือเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ลงตัวและเหมาะสม ทั้งนี้นายวิษณุ ยืนยันว่าฐบาลไม่ได้แนะนำวันที่เหมาะสมในการจัดการเลือกตั้ง เบื้องตนที่เรายึดวันที่ 24 ก.พ.เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายพร้อมและจะเป็นวันที่เร็วที่สุด ส่วนจะเลื่อนวันที่เท่าไหร่ จะเลื่อนหรือไม่เลื่อนขึ้นอยู่กับกกต. และทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดต้องยกให้กกต.พิจารณากันเอาเอง แต่อย่างไรการเลือกตั้งจะต้องมีก่อนพระราชพิธีฯ