- 09 ม.ค. 2562
นายกรัฐมนตรี ลุยยาว ลาดกระบัง-หนองจอก วอนขอให้ปชช.รักกัน ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ พร้อมใจตะโกน"บิ๊กตู่สู้ๆ"
วันที่ 9 มกราคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานกำหนดการลงพื้นที่และพบปะประชาชนในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก ของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ โดยเวลา 13.00 น. ที่บริเวณคลองลำอ้อต้น แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังบรรยายสรุป เรื่อง การกำจัดผักตบชวาโดยชีววิธี (สารสกัดธรรมชาติ) ซึ่งนายกฯได้สอบถามสาวโรงงาน jcare ซึ่งผลิตสำลีและ อุปกรณ์การแพทย์ว่า ลำบากมากหรือไม่ ค่าแรงดีหรือไม่ มีงานก็ทำไปก่อน พร้อมทำสัญลักษณ์บอกรักทุกคน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมตลาดเกรียงไกร ซอยเคหะร่มเกล้า 35 พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ดีใจที่เป็นนายกฯแล้วมาได้ทุกที่ เขาบอกว่านายกฯเป็นคนตลก เป็นคนง่ายๆ และตนไม่ใช่เป็นนายกฯที่ใจร้ายอย่างที่ใครเขาพูด อย่าไปเชื่อเขา ตนอาจจะพูดไม่เพราะเท่าไหร่ แต่หัวใจซื่อสัตย์ ซื่อตรง ยืนยันวันนี้ไม่ได้มาแบบหาเสียง แต่มาเยี่ยมประชาชน พร้อมกันนี้นายกฯได้ร่วมทำไข่เค็มกับชาวบ้าน
ขณะที่ประชาชนตะโกนบิ๊กตู่สู้ๆ ซึ่งนายกฯได้ยิ้มอารมณ์ดี พร้อมขอบคุณน้ำใจไมตรีทุกคน และถามชาวบ้านกลับว่า จะให้สู้อะไร ก็สู้กับคนไม่ดี เรื่องความขัดแย้ง เรื่องการรับผลประโยชน์จะต้องไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันมีชาวบ้านคนหนึ่งได้ตะโกนเชียร์ขอให้เป็นนายกคนต่อไป ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นเครื่องขยายเสียงของนายกฯได้เกิดสะดุดเสียงขาดๆหายๆ นายกฯจึงหยอกว่า ท่าทางเครื่องขยายเสียงไม่ค่อยดี ไม่งั้นก็ผอ.เขตไม่ค่อยดี หรือผู้ว่าฯกทมไม่ค่อยดีหรือเปล่า ไมค์ต้องดีกว่านี้
ต่อมา นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนวันนี้ตนมาทำงานไม่ได้มาการเมือง เดี๋ยวจะโดนเขาว่าเอาอีก นายกฯอยากไปทุกที่เพราะรู้ว่าประชาชนยากลำบาก ขอให้อดทนกับตนนิดนึง รู้ว่าหลายอย่างเดือดร้อน เราวางพื้นฐานไปได้ทีละขั้น จะต้องดีขึ้น มันดีวันเดียวไม่ได้ อย่าไปเชื่อใครบอกจะดีวันนั้นวันนี้ ใครจะมาหาเสียงก็ชั่งน้ำหนักดูด้วยว่าทำได้หรือไม่ได้
ขณะเดียวกันในช่วงหนึ่งได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนนายกฯว่า ไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายกฯจึงพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า พูดแบบนี้ได้อย่างไรพูดแบบนี้เสียหาย ไม่ได้บัตรคนจน เพราะเอาไปให้แต่คนรวยหรืออย่างไร เขามีกฎเกณฑ์ของเขาว่ารายได้ 30,000 บาทไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ซึ่งมันก็มาจากภาษี นอกจากนี้ชาวบ้านยังร้องเรียนเรื่องพื้นที่ขายของบนทางเท้า ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า การจะขยับต้องดูด้วยว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ วันนี้ต้องให้โอกาสกับคนอื่น คนที่ใช้จราจรและทางเท้า ต้องไม่มีปัญหา และเป็นไปตามกฎหมาย
"คนที่ไม่ชอบผม ผมจะรักเขาให้มากขึ้น เพราะเขาโกรธและเกลียดผม ผมเกลียดต่อก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เพราะยังไงผมก็ต้องทำงานให้ท่าน นั่นคือรัฐบาล จะนักการเมืองหรือผมก็ต้องทำงานให้เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะมาเดินทำไม ไม่ได้หาเสียงหรอก ในเมื่อไม่รักผมอยู่แล้ว นายกฯเกลียดใครไม่ได้หรอก เพราะถ้าเกลียดก็ไม่อยากทำอะไรต่อให้ เว้นแต่คนไม่เคารพกฎหมาย"
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ความสงบสุขคือพื้นฐานของประเทศ จะทำอะไรก็ตามบ้านเมืองต้องสงบสุข ยิ่งปีนี้จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขอให้รักกัน และรักษากฎหมายเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อกัน แต่ถ้าเราไม่รักษากฎหมายมันก็ลำบาก นอกจากนี้ระหว่างการพูดคุยกับชาวบ้านยังมีชาวบ้านมาขอเบอร์โทรศัพท์ นายกฯได้หัวเราะและกล่าวว่าขอโทษที ก่อนจะเดินไปพบพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสอบถามว่าขายดีหรือไม่ และอย่ามาโทษว่าราคาสินค้าแพงเพราะรัฐบาลนี้ วันนี้ลงพื้นที่คนก็มาแออัดอยู่ที่ตลาด เดี๋ยวคนจะมาบ่นว่านายกฯมา ขายของไม่ได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การลงพื้นที่ตลาดเกรียงไกรครั้งนี้ มีชาวบ้านมาร้องเรียนเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนมาก บางคนขอให้เพิ่มเงิน และบางคนบอกว่ายังไม่ได้บัตร นอกจากนี้ยังมีคนพิการที่เข้ามาร้องเรียนว่ายังไม่ได้บัตรเช่นกันนายกรัฐมนตรีจึงรับเรื่องและส่งเรื่องต่อให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ รับไปดำเนินการ
จากนั้นเวลา 14.30 น. "พล.อ.ประยุทธ์" เดินทางต่อมาที่ตลาดสดหนองจอก มีประชาชนรอให้การต้อนรับประมาณ500คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่า ที่บอกว่าลุงตู่สู้ๆ ตนต้องสู้กับความยากจน ทั้งนี้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องทำต่อ อนาคตใครได้เป็นรัฐบาลแล้วไม่ทำจะได้หรือไม่ ตนไม่รู้เหมือนกัน ส่วนที่ประชาชนร้องขอให้เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 500 หรือ 1000 บาทนั้น ก็อยากจะให้ แต่ต้องขอเวลาหาเงินเพิ่มก่อน เพราะมีผู้ถือบัตรดังกล่าว 14.5 ล้านคน เมื่อคูณตัวเลขเป็นเงินกี่หมื่นล้าน รัฐบาลต้องบริหารภาษีตามกฎหมาย
ดังนั้น ขอให้ฟังที่นายกฯพูดด้วย เพราะนายกฯ ไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง ส่วนใครที่พูดให้เกิดความขัดแย้ง เกลียดชัง หรือพูดต้องการให้ล้มล้างอะไรก็แล้วแต่ ถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะตนไม่เคยพูดให้ร้ายใคร อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทดลองสวมแว่นสายตาที่มูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชน มาตั้งจุดบริการประชาชน โดยนายกฯ ได้ซื้อแว่นสายตายาว ค่าสายตาสายตา 250 พร้อมบริจาคเงิน 1,000 บาท โดยในตอนท้าย นายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนว่า "อย่ารังเกียจผมนะ"
ต่อมา เมื่อเวลา 15.30 น. "พลเอก ประยุทธ์" พร้อมคณะ เดินทางต่อไปที่โรงเรียนวัดใหม่เจริญราษฎร์ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการพบปะนักเรียนโรงเรียนวัดใหม่เจริญราษฎร์ จำนวน 70 คน โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตหนองจอก ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนหลวงแพ่ง (บำรุงรัฐกิจ) ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน เจ้าหน้าที่ที่มารอให้การต้อนรับ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานทางวิชาการของโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานเขตหนองจอก ได้แก่ 1) ผลผลิตทางการเกษตร นิทรรศการตามศาสตร์พระราชา ผลงานวิชาการของโรงเรียนฯ 2) นิทรรศการผลงานวิจัยอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และ 3) ชมการแสดงวัฒนธรรมชาวไทย รามัญ จากนักเรียนโรงเรียนวัดใหม่เจริญราษฎร์
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวพบปะและพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับนักเรียน พร้อมกล่าวแสดงความรู้สึกดีใจที่ได้มาพบ พร้อมกับขอให้ทุกคนตั้งใจเรียน มองเป้าหมายในชีวิตและทำตามความฝันให้ได้ ขอให้ใช้สติปัญญาในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน เพราะโลกในปัจจุบันนั้นเจริญขึ้น พร้อมกล่าวเน้นย้ำกับนักเรียนให้ความสำคัญกับการเรียนหนังสือเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้คนมีความรู้ ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ทั้งในห้องเรียนและประสบการณ์จากในชีวิตประจำวัน รวมถึงต้องทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง กินอาหารให้ครบห้าหมู่ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาแนวทางสร้าง เสริมคุณภาพชีวิตและมาตรฐานการศึกษาให้แก่นักเรียน เมื่อนักเรียนจบการศึกษาต้องมีงานทำ พร้อมขอให้ครูปรับตัวเรียนรู้ไปพร้อมกับนักเรียน รวมถึงปรับความคิดให้เข้ากับความคิดของเด็ก โดยสอนให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์ เกิดผลสัมฤทธิ์และแนวทางใหม่ ๆ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจหาวิธีการเรียนการสอนให้มีความน่าสนใจผ่านกิจกรรมนอกห้องเรียน เช่น การศึกษาเรียนรู้การทำนา หรือการทำการเกษตรอื่น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้กับนักเรียนอีกทางหนึ่งด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ชมการละเล่นสะบ้า เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวไทยรามัญ และการเล่นมอญซ่อนผ้าของเด็กนักเรียนก่อนเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ฯ เขตหนองจอกด้วยรถไถนาต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เปิดภาพบ้านพิษณุโลก !!! พล.อ.ประยุทธ์ เดินชมด้านในบ้านพักประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี หลังซ่อมเสร็จ