- 15 ม.ค. 2562
"ทักษิณ" คิด เพื่อไทยทำ ประเทศชาติล่มจม ยังมีหน้ามาเสนออะไรอีก ?
... กลัวว่ากระแสจะหายไปสาบสูญไปหรืออย่างไร ... สำหรับ "นาย ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ปัจจุบันเป็นนักโทษหนีคดี ... ถึงแม้ว่าตัวจะหลบผลกรรมที่ก่อไว้ ถึงต้องเนรเทศตัวเองออกจากประเทศไทยไปแล้ว ก็ยังมิวายคอยสั่งการเข้ามาจากแดนไกล คอยจุดชนวนให้เป็นประเด็นขึ้นในหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา เฉกเช่น กรณีล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา "นายทักษิณ" เรียกเรตติ้งวิงวอนให้ประชาชนเข้ามาดูรายการที่เขาจัด โดยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thaksin Shinawatra ใจความว่า " เรียนพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน Good Monday รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกกับดร.ทักษิณ ชินวัตร
เกิดขึ้นเพราะผมเสียดายเวลา 12 ปีที่อยู่ในต่างประเทศ ได้เห็นความเจริญและความล้าหลังของหลายประเทศในโลก ได้พูดคุยกับผู้นำประเทศทั้งปัจจุบันและอดีต ผู้นำทางธุรกิจ นักวิชาการ นักเทคโนโลยีทั่วโลก จึงอยากจะมาเล่าสู่พี่น้องคนไทยทุกคน ที่ทุกวันจันทร์เราตื่นมาทำงานเราอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เราทำมาหากินทุกวันนี้มันยังดีอยู่ไหม ต้องปรับเปลี่ยนอะไร เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน เผื่อความคิดและประสบการณ์ที่ผมนำมาเล่าสู่พี่น้องจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำมาหากินหรือการศึกษาอบรมให้กับลูกหลานได้บ้าง ผมก็ถือว่าเป็นความสุขใจแล้ว
ใน Good Monday วันแรกนี้ผมจะขอขยายความเรื่องที่พูดถึงเศรษฐกิจโลกในปี 2019 และ 2020 ที่จะกระทบกับธุรกิจรายย่อย ปากท้องและคุณภาพชีวิตของคนไทย ต่อจากนี้ผมจะพยายามมาพบกับท่านให้ได้ในทุกวันจันทร์ที่ Good Monday ตามลิงค์นี้ครับ https://thaksinofficial.com/good-m…/001-this-is-good-monday/ ด้วยรักและห่วงใยพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านครับ #ThaksinGoodMonday ..."
หากย้อนไปถึงพฤติการณ์ของ "นายทักษิณ" แต่ไหนแต่ไรมา "เขา" จะมีนิสัยใช้อำนาจชี้นิ้วบงการพวกพ้องบริวาร ให้ทำตามในสิ่งที่เขาต้องการอยากจะให้เป็น? ถึงตัวจะจำต้องระหกระเหินไปอยู่แดนไกล แต่ใจก็ยังไม่ไปไหน ยังแวะป่วนเมืองไทย เที่ยวคอยสั่งการตลอดๆ ทั้งนี้ ยังใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ปล่อยข่าวลวง และข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อโจมตี และให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม และในเวลานี้ยุคสมัยเปลื่ยนไป "ทักษิณ" จึงเปลื่ยนการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจากเดิม เป็นการโฟนอิน และ วิดีโอลิงค์ เป็น การโพสต์ผ่านเว็บไซต์แทน แต่ต้องอย่าลืมว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก! เพราะหากย้อนกลับไปดูจะพบว่า
ในวันที่ 24 มีนาคม 2552 ที่สนามกีฬากลาง จังหวัดพิษณุโลก "ทักษิณ โทรศัพท์โฟนอินกับชาวพิษณุโลก ว่า "ขอให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่แผ่นดินไทย เลิกระบบสองมาตรฐาน เลิกขบวนการไม่ยุติธรรม ที่ผ่านมาองค์กรอิสระทั้งหลายถูกสั่ง และเลือกเอาคนที่ปฏิปักษ์กับทางเรา แต่เป็นมิตรกับประชาธิปัตย์ แล้วอย่างนี้ประเทศจะอยู่อย่างไร"
โดยเนื้อหาในช่วงสุดท้าย ได้กล่าวไว้ว่า "ใครเอาผมกลับ คนนั้นมีบุญคุณกับผม ชีวิตที่เหลือจะชดใช้ให้หมด นั่นคือสิ่งที่ผมจะทำ ผมมั่นใจว่าพี่น้องรักประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายประเทศไทย ขอให้เรามารักษาประเทศไทย รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการแอบอ้างเยอะ แอบอ้างจนเจ้านายเสียหายหมด เพราะแอบอ้างเพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น และในวันที่ 26 มีนาคม (52) จะเปิดเผยถึงสาเหตุของการเมืองแตกแยก ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องนายกฯ มาตรา 7 จะเล่าให้ฟังทั้งหมด พี่น้องจะได้ฟังของจริง ผมรักษามารยาทมานาน หวังว่าจะสงบ แต่วันนี้จำเป็นต้องเขย่าเพื่อให้ตกตะกอน แยกดำแยกขาวให้ชัด แล้วบ้านเมืองถึงจะไปได้ ผมเชื่อว่าพี่น้องคงเข้าใจผมและสนับสนุนผม เพื่อให้ผมกลับมารับใช้อีกครั้งหนึ่ง วันนี้แดงทั้งแผ่นดินแล้ว
ถัดมา ช่วงกลางดึก ของ วันที่ 28 กันยายน 2552 "นายทักษิณ" โทรศัพท์โฟนอินมายังการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ จ. ปราจีนบุรี ซึ่งเขากล่าวเริ่มต้นว่า "คิดถึงบ้านครับ? อยากจะกลับไปเพราะรู้ว่าวันนี้บ้านเมืองเราแย่ อยากทำงานให้บ้านเมือง? อยากกลับช่วยทำงาน ผมเพิ่งเข้าทวิตเตอร์ทราบว่า 3 ปีนี้ บ้านเราไม่มีความสุข? ความสุขหายไปพร้อมอำนาจอธิปไตยประชาธิปไตย ซึ่งในบางช่วงบางตอน ระบุว่า "เมื่อใดก็ตามที่กองทัพไม่ยอมรับอำนาจประชาชน?? การบริหารประเทศก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะอำนาจจะอยู่ในมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเหนือประชาชน? จึงทำให้ความสุขของประชาชนหายไป การทำงานบริหารบ้านเมืองก็ไม่เพื่อประชาชน ซึ่งก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้? ผมเลยอยากบอกกองเชียร์เข้าใจว่า? วันนี้เราต้องยึดมั่นประชาธิปไตยคือประชาชน ไม่ใช้อำนาจนอกประชาธิปไตยมาดำเนินการแทนประชาชนอันนี้อันตรายมาก"
และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2552 ที่บริเวณสนามสามเหลี่ยมถนนท่าแฉลบ จ.จันทบุรี ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนร่วม 20,000 คน มาร่วมรับประทานอาหารโต๊ะจีน 500 โต๊ะ โดยนายประวัฒน์ อุตตะโมท อดีตส.ส.และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้นำโทรศัพท์มือถือ ที่ได้รับการโฟนอินจากนายทักษิณ พูดคุยกับคนเสื้อแดง ซึ่งนายทักษิณ กล่าวว่า อยากกลับบ้าน คิดถึงพี่น้องคนจันทบุรี ผลไม้แย่ ราตก คิดถึงอาหารหมูชะมวงจันทบุรี ตนยังไม่ป่วย สบายดี แต่อ้วนขึ้น อยากกลับบ้าน ทั้งนี้ในช่วงสุดท้ายเขา ยังกล่าวอีกว่า "ตนกลับมาไปดูขายเพชร และนึกอยากจะสนุก อยากกลับบ้าน และมาช่วยชาวจันทบุรีขายพลอยที่ย่ำแย่ในตอนนี้ พี่น้องต้องอดทนรียกร้องประชาธิปไตย เคยเลือกพรรคพลังประชาชนก็โดนอำมาตย์ยึด และรัฐบาลชุดนี้ก็ซื้อ ส.ส.ตนและขายตำแหน่งรัฐบาลประชาธิปปัตย์ บอกว่า ประชาชนต้องมาก่อน แต่ยังไม่เห็นเราต้องเอาความสุขกลับคืน ต้องใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 รัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่เอา เผด็จการเกิดจากทหาร ต้องเลือก ส.ส.ให้ตนจะได้กลับมาช่วยพี่น้องประชาชนต่อไป"
24 มีนาคม 2555 นายทักษิณ โฟนอินมาในเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ณ สำนักงานพรรคเพื่อไทย อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยบอกว่า "ขอให้คนเสื้อแดงใจเย็นๆ ผมกำลังคุยกับผู้พิพากษาอยู่ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยอีกไม่นานผมก็จะกลับมาบ้านแล้วเวลานี้ใครมีปัญหาเรื่องอะไร ให้ส่งเรื่องผ่าน ส.ส.ตี๋ใหญ่ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยให้เร็วที่สุด เรื่องนักโทษเสื้อแดง ขอให้ใจเย็นๆผมกำลังพูดคุยกับผู้พิพากษาอยู่ น่าจะเรียบร้อยทุกอย่างถ้ารัฐบาลไม่มีเงินประกันตัวเสื้อแดง ผมจะเอาเงินของผมไปประกันให้ทุกคนเอง และได้ประสานกับแกนนำคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา ถ้ากลับมาบ้าน จะไม่กลับมาแบบที่ ขวัญชัย พูด มันไม่เท่ ต้องกลับมาอย่างเท่ๆ แล้วจะบอกว่าจะกลับมาแบบไหนถึงจะเรียกว่าเท่..."
และคืนวันที่ 26 มกราคม 2556 ที่สนามหญ้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ถนนอุปราช ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี น.ส.อุบลกาญจน์ อมรสิน หรือดีเจสาวฝั่งโขง และนางบุญนิศา ไชยสาร หรือติ๋มแดงอุบล จัดเวทีรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญและจัดเลี้ยงปีใหม่ให้แก่กลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัด ระหว่างการพบปะสังสรรค์ของสมาชิกคนเสื้อแดงในเวลาประมาณ 21.55 น. "นายทักษิณ" ได้โฟนอินจากประเทศอังกฤษเข้ามาพูดคุยกับสมาชิกคนเสื้อแดงนานประมาณ 8 นาที โดยมีเนื้อหาขอร้องให้คนเสื้อแดงเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ให้ชนะการเลือกตั้งทุกครั้งเพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสกลับบ้าน ระหว่างนั้น ผู้จัดได้พูดถามไปว่า ท่านนายกฯจะกลับประเทศไทยเมื่อใด นายทักษิณ บอกอยากกลับทุกวัน แต่ "เขา" ยังไม่ให้กลับ
และที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงบางช่วงบางตอนที่ทางสำนักข่าวทีนิวส์ หยิบยกขึ้นมายกตัวอย่างเท่านั้น ยังไม่นับรวมในอีกหลายต่อหลายเหตุการณ์ ... อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากพฤติกรรมของ นายทักษิณ ที่ผ่านมานั้น เขามักจะใช้วาทศิลป์ในการหว่านล้อมเพื่อปลุกระดมมวลชน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จุดประสงค์ก็หาใช่อื่นใด หากแต่เป็นการปูทางให้ตนเองนั้นกลับมาเหยียบผืนแผ่นดินเกิดอีกครั้ง
ล่าสุดวันนี้ 15 มกราคม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงสีหน้าเอือมระอา พร้อมส่ายหน้าทันที เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเคลื่อนไหวของ "นายทักษิณ ชินวัตร" นักโทษหนีคดี ที่ประกาศนัดแนะกับประชาชนเจอทุกวันจันทร์ในรายการ "Good Monday" รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก
ขณะเดียวกัน ทางด้าน "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีดังกล่าว ว่า "แล้วควรจะฟังเขาหรือไม่? เขาอยู่นอกประเทศ จะไปทำอะไร จะมีคนฟังหรือไม่ ตนจะไปรู้หรือ พวกคุณต้องไปถามคนฟัง" และเมื่อถามว่า นายทักษิณพยายามที่จะชี้แนะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จะนำมาพิจารณาปรับใช้หรือไม่? "พล.อ.ประวิตร" ตอบว่า "แล้วอยู่ต่างประเทศจะไปแก้อะไรล่ะ?" สุดท้ายเมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลนี้ได้แก้ปัญหานี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้นายทักษิณ มาเสนอแนะใช่หรือไม่? "พล.อ.ประวิตร" ตอบกลับว่า "คนตั้ง 70 ล้านคน เขาพร้อมที่จะทำงานด้วย ทำให้กับประชาชนด้วยกัน ไม่ใช่ของใครคนเดียวที่หนีคดีไปอย่างนี้หรอก..."
นอกจากนี้ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) "พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์" ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีดังกล่าว ว่า "ไม่น่าจะมีอะไรซึ่งเขาก็ทำอยู่เรื่อยๆตาม Social Media ส่วนที่นายทักษิณจะจัดรายการในห้วงที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังอยู่ในช่วงวุ่นวายอยู่นั้น จะไปห้ามใครก็ได้ และเมื่อถามว่า คสช.จะต้องติดตามหรือไม่? "พล.อ.อภิรัชต์" ตอบว่า "คิดว่าคงมีคนติดตามข่าวสารแน่นอน"