- 22 ม.ค. 2562
กลับมาเป็นกระแสข่าวฮือฮาอีกครั้ง สำหรับเจ้าแม่ซัวเถา อย่างอดีตนายกรัฐมนตรี “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลังจากมีการประโคมข่าวใหญ่โต ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธาน และผู้แทนโดยชอบธรรมของ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ จำกัด
กลับมาเป็นกระแสข่าวฮือฮาอีกครั้ง สำหรับเจ้าแม่ซัวเถา อย่างอดีตนายกรัฐมนตรี “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลังจากมีการประโคมข่าวใหญ่โต ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธาน และผู้แทนโดยชอบธรรมของ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ จำกัด (Shantou International Container Terminal) หรือ เอสไอซีที บริษัทบริหารท่าเรือในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน
แต่ทว่าเพียงชั่วพริบตาเดียววิมานในอากาศก็สลาย มลายลงในพริบตา เพราะล่าสุดมีกระแสข่าวมาว่า ขณะนี้ จีนได้ถอด น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลุดจากเก้าอี้ประธาน บ.ท่าเรือซัวเถาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงนับได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นCEO ที่มีอายุงานน้อยที่สุดเลยก็ได้ ข่าวการเข้าไปบริหารท่าในครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 62 จากการที่เว็บไซต์ www.thepaper.cn ของจีน รายงานข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ บุคคลหลบหนีคำพิพากษาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำคุก 5 ปีจากคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าว เข้าไปซื้อกิจการ บริษัทซัวเถาคอนเทนเนอร์เทอร์มินัล (Guangdong Shantou International Container Terminal) จำกัด ในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา
โดยระบุว่า บริษัทซัวเถาคอนเทนเนอร์เทอร์มินัลก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าร่วม 3พันล้านบาทไทย ตามข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ Shantou ได้เปลี่ยนจาก Lin Daqi เป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 61
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 62 เป็นที่น่าแปลกใจเมื่อไม่ปรากฏเนื้อหาดังกล่าว บนหน่เว็บไซต์ www.thepaper.cn โดยหลังจากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ที่ว่านี้ได้ลบข่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปแล้ว โดยขึ้นข้อความหน้าจอว่า มีบางอย่างผิดพลาด! ไม่พบบทความ อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันเป็นทางด้านของ สำนักข่าว เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานภาพเอกสารยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ถือหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต สัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับทฤษฎีที่ว่า เธอหลบหนีออกจากประเทศไทยในปี 2560 ผ่านทางประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แม้ว่าทางการกัมพูชาจะปฏิเสธเสียงแข็งก็ตาม
ท่ามกลางข้อครหา ล่าสุด 22 ม.ค. 2562 ปรากฏว่า บนเฟสบุ๊ก "กรุงเทพ กรุงเทพ" ที่ทราบกันดีว่าคล้ายเป็นกระบอกเสียงหรือเครือข่ายของอดีตนายกฯ อ้างว่า
หนังสือพิมพ์สืบค้นเว็บไซต์ของสำนักงานอุตสาหกรรม และการพาณิชย์แผ่นดินใหญ่ และพบว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคมปีนี้ ตัวแทนทางกฎหมายได้เพิ่ม เฉิน อุยตง อีกคน
ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับรองเลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยมณฑลกวางตุ้งในปัจจุบัน
( 發現今年1月12日,法人代表再新增了一位陳偉東,此人與現任廣東省紀委副書記同名同姓。)
คือเพิ่ม ตัวแทนทางกฎหมาย เข้ามาอีกคนนะครับไม่ได้มีรายงานว่า ปลด ยิ่งลักษณ์
ข่าวระบุว่ามีการขาย เทอร์มินัล ซัวเถา ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผู้ซื้อรายใหม่ "ศูนย์กลางทางการเงิน" พบว่านอกเหนือจากความสนใจของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคนใหม่แล้วกลุ่มผู้ซื้อยังเกี่ยวข้อง กับครอบครัวประธานาธิบดี บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับชาวสิงคโปร์ ที่เข้ามาครอบครองธุรกิจ
สำหรับ ลี กา-ชิง ได้ขายส่วนหนึ่งให้ครอบครัวของ Bush เขาบอกว่าเป็นธุรกรรมที่มีผลประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการขายสินทรัพย์ท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ มีบริษัท ทรัสต์สหรัฐ ที่ได้รับอนุมัติจากสหรัฐอเมริกา เข้ามาด้วย
ทั้งนี้หลัง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ในฮ่องกง รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชา ในการจดทะเบียนเป็นกรรมการเพียงผู้เดียวของ พี.ที.คอร์ปอเรชั่น (P.T.Corporation Company) บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกง เมื่อ 24 ส.ค.2560 หลังจากหนีออกจากไทยก่อนคำตัดสินคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ (Shantou International Container Terminals) หรือ SICT ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวในฮ่องกง ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์บริษัท ซัวเถา ได้เผยแพร่ข้อมูลการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการใหม่ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็น ชาวจีนที่ชื่อว่า เฉินอุยตง เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2561 นับรวมระยะเวลาไม่ถึงเดือน