ยกฟ้อง9พธม.ดาวกระจายไล่สมัคร ชี้ชุมนุมสงบตามสิทธิ สู้จนท.ไม่ได้เริ่มจากตัวผู้ชุมนุม

ยกฟ้อง9พธม.ดาวกระจายไล่สมัคร ชี้ชุมนุมสงบตามสิทธิ ต่อสู้ขัดขวางจนท.ไม่ได้เริ่มจากตัวผู้ชุมนุม

จากกรณีที่วันนี้(30 ม.ค.62) ศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือพธม. ชุมนุมดาวกระจายปี 2551 คดีหมายเลขดำ อ.3973/2558 ที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือ รัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี อดีตแกนนำ พธม.เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดฯเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนและก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร , ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

 

ทั้งนี้โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการโดยผู้กระทำคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , 215 , 216 กรณีที่มีการรวมตัวกันต่อต้านและขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2551 ซึ่งอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2558 ระบุถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลลักษณะดาวกระจายนั้น พวกจำเลยใช้รถบรรทุกเป็นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ , สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. , กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงการคลัง และสำนักงานอัยการสูงสุด ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ทำให้โรงเรียน และสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ใกล้ชุมนุมต้องหยุดการเรียนการสอนหลายครั้งเนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยจากการชุมนุมดังกล่าว นอกจากนี้พวกจำเลยยังได้เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลอีกด้วยในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 25 พ.ค.- ต.ค. 2551 ซึ่งจำเลย อดีตแกนนำ พธม.ทั้งเก้าให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี โดยทั้งหมดได้รับการประกันตัวในชั้นพิจารณา

 

 

 

ยกฟ้อง9พธม.ดาวกระจายไล่สมัคร ชี้ชุมนุมสงบตามสิทธิ สู้จนท.ไม่ได้เริ่มจากตัวผู้ชุมนุม

 

สำหรับนายสนธิ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ จำเลยที่ 2 แม้จะได้รับการประกันตัวในคดีนี้ แต่ปัจจุบันนายสนธิ ถูกคุมขังในเรือนจำโทษจำคุก 20 ปีคดีทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535

 

อย่างไรก็ตามคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1-6 เนื่องจากเป็นการฟ้องจำเลยซ้ำกับคดี พธม.บุกรุกทำเนียบรัฐบาล หมายเลขดำ อ.4925/2555 ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-6 คนละ 2 ปี อัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 7-9 นั้น ศาลเห็นว่าการกระทำเป็นความผิดฐานมั่วสุม 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่ง แต่เห็นควรให้รอการกำหนดโทษจำเลยที่ 7-9 ไว้ก่อนมีกำหนด 2 ปี และในวันนี้ศาลเบิกตัวนายสนธิจากเรือนจำเพื่อมาฟังคำพิพากษา ขณะที่อดีตแกนนำ พธม. อีก 8 คนก็ได้เดินทางมาศาลด้วย

 

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว พิพากษาแก้เป็นยกฟ้องจำเลยทั้ง 9 คน โดยเห็นพ้องกับศาลชั้นต้นกรณีจำเลยที่ 1-6 เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ส่วนจำเลยที่ 7-9  ก็ไม่มีความผิดฐานก่อความวุ่นวายตามมาตรา 215 ด้วย แม้โจทก์จะยกกรณีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอนเวทีและเต๊นท์ของผู้ชุมนุม ศาลเห็นว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เริ่มจากผู้ชุมนุม และการตรวจค้นพบเหล็กแป๊บและขวานในพื้นที่หลังผู้ชุมนุมถอยออกไปก็ไม่ได้ค้นจากตัวผู้ชุมนุม มีข้อสงสัยว่าไม่ใช่ของผู้ชุมนุม จึงเป็นการใช้สิทธิชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ

 

ยกฟ้อง9พธม.ดาวกระจายไล่สมัคร ชี้ชุมนุมสงบตามสิทธิ สู้จนท.ไม่ได้เริ่มจากตัวผู้ชุมนุม