- 07 ก.ย. 2559
ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th
ด้วยหัวใจ!!! "จิตตนาถ" ขอบคุณทุกแรงใจที่ส่งถึง "พ่อ" หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี ยันหัวใจของพ่อยังแกร่ง ที่ไม่หนีหน้าก็เพื่อคงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลสถิตยุติธรรมเอาไว้ และความกล้าจะไม่ทำให้คนรอบข้างต้องอายฟ้าดิน
วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเซ็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ได้นำเสนอข่าวชิ้นหนึ่ง ซึ่งเขียนโดย "จิตตนาถ ลิ้มทองกุล" บุตรชายของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยเอ่ยขอบคุณทุกแรงใจที่ส่งถึง "พ่อ" หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี จากคดีผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ที่อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ได้ร่วมทำสำเนารายงานการประชุมอันเป็นเท็จตามที่เป็นข่าวไปแล้ว
โดย "จิตตนาถ" ได้กล่าวถึง เบื้องลึกที่คุณพ่อได้หยัดยืน-น้อมรับกระบวนการยุติธรรมของไทย และแนวทางการทำงานในวันข้างหน้าของสำนักฯ ดังรายละเอียดทั้งหมด คือ
ผมขอกราบขอบพระคุณมิตรรักและผู้ที่ส่งกำลังใจมาให้แก่คุณสนธิทุกท่านอย่างสุดซึ้งจากใจครับ
วันนี้คุณสนธิยืนฟังศาลฎีกาพิพากษาคดีอย่างสงบนิ่งเข้มแข็ง อย่างเช่นเคยครับ
เมื่อวานก่อนขึ้นศาลคุณสนธิได้สั่งหลายเรื่องกับผมเอาไว้ในกรณีหากผลคดีจะออกมาดังในวันนี้ ดังที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วครับ
คุณสนธิได้บอกว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่านขอให้ดำรงสติ และเข้มแข็ง รักษาปณิธานของท่านที่ต่อสู้เพื่อชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และผลประโยชน์ของภาคประชาชนเอาไว้ตามกำลังและความสามารถที่เราพึงจะกระทำให้ดีที่สุดครับ
ผมกับคุณสนธิเราเป็นพ่อลูกกันมองตาก็รู้ใจ คิดอะไรตรงกันหลายเรื่องโดยที่หลายครั้งไม่ได้พูดคุยกัน และผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านวิกฤตร่วมกันมานับครั้งไม่ถ้วน แค่กอดกันอย่างแน่นหนึ่งครั้งก่อนที่ท่านจะเข้าสู่สถานภาพผู้ต้องขัง ก็ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งมวลให้กันและกันได้อย่างเกินพอแล้วครับ
จะมีแค่รู้สึกจุกน้ำตาเอ่ออยู่แค่ประโยคที่ท่านฝากถึง อ.จันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล คุณแม่ผมที่กำลังนอนรักษามะเร็งอยู่ในห้องไอซียูอยู่แค่ประโยคเดียวว่า
"บอกแม่ว่าป๋าไม่เป็นอะไร ให้แม่เข้มแข็งเอาชนะโรคร้ายให้ได้ มีชีวิตสู้ให้ถึงวันที่ป๋าจะได้ออกมาเจอแม่นะ"
ในส่วนของผมที่ตั้งแต่นี้จะต้องเป็นหลักต่อไป ความเข้มแข็งและปณิธานของคุณสนธินั้นได้ถ่ายทอดอยู่ในดีเอ็นเออย่างเต็มที่อยู่แล้ว และผมก็จะทำให้ดีที่สุดตามกำลังเท่าที่มีอยู่ ในรูปแบบที่เป็นตัวผมต่อไป ตามที่ท่านได้เอ่ยเอาไว้กับผมว่า "ทุกอย่างแล้วแต่ปั๊บจะจัดการแล้วนะ"
ผมถือเสียว่าคุณสนธิ ได้เข้าไปปฏิบัติธรรมฝึกจิตตามคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ ตามปกติที่ท่านทำเป็นนิตย์อยู่แล้วในชีวิตประจำวันมาพักใหญ่จะเปลี่ยนก็เพียงสถานที่เท่านั้น
เมื่อมองกลับมา คนที่ชีวิตเปลี่ยนจริงๆคงจะเป็นผมเสียมากกว่าที่นับแต่นี้คงต้องรับภาระแทนท่านอย่างเต็มตัว และต้องต่อสู้กับโรคร้ายร่วมกับคุณแม่ต่อไป และประคับประคองท่านให้เอาชนะมันจนกว่าพวกเราจะได้พบกันในโลกภายนอกอย่างมีความสุขกันอีกครั้ง
แน่นอนครับ มีคนรักคุณสนธิย่อมมีคนที่เกลียดคุณสนธิ หลายคนแสดงความสะใจทับถม ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา และผมเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร
เพราะในเรื่องนี้ท่านก็ได้แสดงให้ผมดูเป็นตัวอย่างแล้วว่า ไม่คิดจะหนี ไม่ยืดเยื้อคดี และน้อมรับการพิจรณาของศาลภายใต้พระปรมาภิไธย เพื่อคงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลสถิตยุติธรรมเอาไว้ ไม่เหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนที่พยามเลี่ยงหรือหลบหนีคดีอยู่ ซึ่งนอกจากจะเป็นปณิธานของท่านแล้ว ท่านยังบอกว่าเพื่อให้ผมและญาติพี่น้อง และบริวารสามารถเชิดหน้าต่อสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ผมเชื่อว่าคุณสนธิแม้จะอยู่ในที่คุมขังก็ยังสามารถทำประโยชน์หลายอย่างข้างในนั้นได้ โดยเฉพาะการให้ความรู้ ในส่วนข้างนอกสื่อในเครือผู้จัดการและnews1 จะยังทำหน้าที่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง สนับสนุนผู้นำให้เดินหน้าปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ที่ภาคประชาชนได้ต่อสู้มา และท้วงติงเมื่อเหลือบไรที่เกาะผู้มีอำนาจอาศัยช่องว่างในการคอร์รัปชัน เพราะเรายังเชื่อมั่นว่าปัญหาที่แท้จริงยังไม่โดนขจัดไป ไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นแค่สมบัติผลัดกันชม
ใครที่คิดว่าคุณสนธิเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว สื่อในเครือผู้จัดการเราจะเชื่อง คงจะคิดผิดละครับ และทุกท่านคงเห็นกันแล้วว่า ใครทำดีเราเชียร์ ใครทำเหี้ยเราแฉ ก็คงเป็นอย่างนี้จนกว่าเราจะเจ๊งละครับ เพราะคุณสนธิพร้อมติดคุกไม่หนีคดีไม่ยอมให้ผมและลูกน้องต้องอาย เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่ให้ท่านต้องอายเช่นกัน
ท้ายสุดนี้ ขอบพระคุณอีกครั้งสำหรับความห่วงใย และกำลังใจจากทุกท่านที่ส่งมาให้กันอย่างไม่ขาดสาย
จิตตนาถ ลิ้มทองกุล
ขอบคุณข้อมูล : MANAGER , แด่อดีตแกนนำพันธมิตรฯ