- 07 ก.พ. 2562
แกนนำนปช.ในนามพรรคไทยรักษาชาติ จะออกมาตั้งโต๊ะแถลงปฏิเสธความแตกแยกปัญหาภายในพรรค ยืนยันความแน่นแฟ้น แต่หลังฉากเรื่องนี้จะเป็นอย่งใด จะเข้าตำรา “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” หรือไม่นั้น
ความเคลื่อนไหวพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากได้ส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 108คน ให้แก่กกต. ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุคคลที่เคยทำงานใกล้ชิดกับนายทักษิณ-นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2พี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเครือข่ายลูกหลานคนใกล้ชิดตระกูลชินวัตร
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์จากนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่าบุคคลที่มีโอกาสจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประมาณ 35-40คน จนเกิดกระแสข่าวรอยแตกร้าวเกิดขึ้นภายในพรรคไทยรักษาชาติ ระหว่างคนใกล้ชิด-เครือญาติตระกูลชินฯ กับบรรดาแกนนำนปช. -คนเสื้อแดง อยู่ในสภาวะเสี่ยงมาก ต่อการได้เก้าอี้ส.ส. ที่อยู่ในลำดับดีที่สุดคือ "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" อยู่ในลำดับ 7 ตามด้วย นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ลำดับที่ 17 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ลำดับที่ 25 นายก่อแก้ว พิกุลทอง ลำดับที่ 29 นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ลำดับที่ 40 นายพายัพ ปั้นเกตุ ลำดับที่ 41 นายเหวง โตจิราการ (หมอเหวง) ลำดับที่ 55 และนาย วิภูมิแถลง พัฒนภูมิไท ลำดับที่ 56
จนล่าสุดแกนนำนปช. อยู่ไม่ติดต้องยกขบวนออกมาแถลงกันเลย นำโดย นายณัฐวุฒิ นายนายก่อแก้ว นายวิภูมิแถลง และหมอเหวง ขณะที่นายวีระกานต์ติดภาระกิจต่างจังหวัด
โดยนายณัฐวุฒิระบุ.. จากกระแสข่าวเรื่องความแตกร้าว ความรู้สึกจากกรณีการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ จากเนื้อหาข่าวพาดเพิงมายังที่นปช.เป็นส่วนใหญ่ ตนยืนยันว่าข่าวที่ออกมา ไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใด ซึ่งไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงว่า เกิดกระแสไม่พอใจ จะยุติการปฏิบัตหน้าที่ หรือถึงขั้นจะลาออกจาบัญชีรายชื่อ สมาชิกพรรคแต่อย่างใด ไม่มีเรื่องพวกนี้
พวกตนมาที่นี่ ก็ที่จะตัดสินใจเดินเข้ามา ได้ปรึกษาหารือกัน มีคำถามเดียวที่จะต้องการความชัดเจนจากพรรคไทยรักษาชาติ ก็คือ พรรคการเมืองนี้ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการใช่หรือไม่ และเมื่อได้คำตอบว่า ใช่ พวกตนจึงมา
นายณัฐวุฒิ ระบุอีกด้วยว่า ได้พูดตั้งแต่วันแรกที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคว่า เราไม่ได้พกเงื่อนไขอื่นมาด้วย ไม่ได้พกข้อเรียกร้อง ความต้องการทางการเมืองเข้ามาที่นี่ ดังนั้นพวกตนไม่ได้มาเพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของพวกตนเอง มาเพราะต้องรับผิดชอบต่อความคาดหวังของประชาชน ซึ่งคาดหวังว่า การเลือกตั้งจะนำพาบ้านเมืองกลับมาสู่วิถีทางประชาธิปไตย แล้วประชาธิปไตยจะเป็นพื้นฐานสำคัญ ให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ และเชื่อมั่นว่าพรรคไทยรักษาชาติทำได้จึงมา ทำหน้าที่อยู่ด้วยกัน
“พวกตนเดินหน้า ไม่มีตะกอนในหัวใจ พวกตนยืนยันว่า หลักการประชาธิปไตยคือภาระหน้าที่ของพวกเรา.และการผนึกกำลังกันของคนรุ่นใหม่ กับคนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ในพรรคไทบรักษาชาติ จะคือคำตอบการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความอยู่ดีกินดี สร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชน” นายณัฐวุฒิกล่าว
ที่น่าจับตาคงหนีไม่พ้นหมอเหวง แม้จะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างของสังคม แต่ในการเลืกอตั้งครั้งนี้ ในนามพรรคไทยรักษาชาติ กลับถูกจัดอยู่ในลำดับที่55 จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ ถึงกระแสความแตกแยกดังกล่าว
ในการตั้งโต๊ะแถลงครั้งนี้ หมอเหวงระบุว่า ตนมองด้านบวก นี่คือเสียงสะท้อนของประชาชน ด้วยความรักเป็นห่วง ซึ่งตนไม่ได้มองด้านลบเลย ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นห่วงเป็นใหญ่ โดยตัวตนเป็นหลักฐานก่อนเลย วันนี้ตนตื่นตี4ด้วยความตั้งใจในการออกจากบ้านตี5 เผื่อไปถึงวัดตะกล่ำให้ทันในเวลา 6.30น. แล้วตนได้เดินกับพรรคจนทั่ววัด จากนั้นตนก็เดินต่อวัดเอี่ยมสมบัติ ตนก็เดินจนครบถ้วน และไปที่โรงเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดทุ่งลานนา ซึ่งตนได้ไปร่วมเดินจนครบถ้วน
สิ่งที่ตนต้องการสื่อสารนั้นก็คือพฤติกรรมของตนบอกได้ดีกว่าคำพูด ถ้าตนไม่เอาพรรคไทยรักษาชาติตนจะไปเดินทำไม ซึ่งต้องตื่นตั้งแต่ตี4 นอนน้อยมากและตนไปเดินด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส
“ข้อแรกสุด ท่านทั้งหลายที่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ สื่อฯ ได้โปรดสบายใจ ว่าตนไม่ไปไหน ตนอยู่ที่พรรคไทยรักษาชาติ และจะร่วมกิจกรรมพรรคต่อไป ” หมอเหวงกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับหมอเหวงแล้ว ต้องเรียกว่าประวัติทางการเมืองที่ไม่ธรรมดา หมอเหวงสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ยุค 14 ตุลา พ.ศ. 2516 เคยหนีเข้าป่าในยุค "ขวาพิฆาตซ้าย" 6 ตุลา พ.ศ. 2519 มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายเข้ม"
ครั้งหนึ่งเมื่อปี2549 หมอเหวงได้เคยขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขับไล่รัฐบาลทักษิณ ปราศรัยในฐานะประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย เป็นผู้ร่วมคัดค้านรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ประกาศไล่นายทักษิณดังลั่น ถึงขนาดประณามว่า "ทักษิณขายชาติ" แถมยังท้าทายให้ฟ้อง ด้วยความเชื่อมั่นในข้อมูลหลักฐานที่มี
แต่ไม่น่าเชื่อ เพียงเวลาไม่นานหมอเหวงกลับพลิกลิ้น กลืนน้ำลายตัวเองหันมาขึ้นเวทีคนเสื้อแดง อ้างความเป็นประชาธิปไตยต่อสู้เพื่อระบอบทักษิณให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ต่อมาหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 หมอเหวง ได้ทำการประท้วงต่อต้านคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ซึ่งได้ทำการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ. 2540 โดยเข้าร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้าน คปค. ซึ่งแปรสถานะเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นจุดเริ่มต้นและต่อมาเป็นแกนนำ นปช. แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ต่อสู้เพื่อระบอบทักษิณ
โดยตลอดการเคลื่อนไหวภายใต้ระบอบทักษิณ หมอเหวง ตก จำเลยหลากหลายคดี อาทิ ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ กรณีกลุ่ม นปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 เป็นต้น
ไม่รู้ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรที่ทำให้หมอเหวงเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้ ทั้งจากเสียงร่ำลือในเรื่อง ของปัจจัย.."ติดปลายนวม" หรือ ตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง นั้น ก็ยากจะปฏิเสธได้ ใช่หรือไม่??
ภาพจากเพจ พรรคไทยรักษาชาติ
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป 2554 หมดเหวง ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 19 ของพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 35 จนกระทั่ง ปัจจับน ได้สังกัดพรรคไทยรักษาชาติ พรรคลูก หลังจากลาออกจากพรรคแม่ อย่างพรรคเพื่อไทยในปี 2561
ทั้งนี้แม้หน้าฉาก บรรดาแกนนำนปช.ในนามพรรคไทยรักษาชาติ จะออกมาตั้งโต๊ะแถลงปฏิเสธความแตกแยกปัญหาภายในพรรค ยืนยันความแน่นแฟ้น แต่หลังฉากเรื่องนี้จะเป็นอย่งใด จะเข้าตำรา “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาต่อไป แต่เรื่องดังกล่าวทำให้ลำนึกไปถึง ถ้อยคำของนายทักษิณ ที่ ได้ วีดีโอลิงค์ มายังการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 ที่ยังติดหูหลายๆคน
“วันนี้เราเดินมาสุดทาง เหมือนพี่น้องขับเรือพาผมมาถึงฝั่ง ต่อไปเป็นการขึ้นเขา ซึ่งต้องขึ้นรถไป พี่น้องไม่จำเป็นต้องแบกเรือมาส่งผมบนเขา”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เพื่อไทย"เฉา "แก๊งแดง"ยกโขยงไขก๊อก มุ่งหน้าซบ "ไทยรักษาชาติ"
- ยกโขยง "เหวง-อ๋อย-เต้น" แห่ซบ "ไทยรักษาชาติ"!
- ยังไม่มีอะไร !!! สยบข่าว “สงกรานต์” ลงส.ส. “โฆษกไทยรักษาชาติ” บอกชัดแท้จริงไม่ฟันธงได้