- 10 พ.ค. 2562
ลือหึ่ง!! "สมคิด" วางมือทางการเมือง?? ถอดรหัสสายสัมพันธ์ "กลุ่มสามมิตร" กับเสียงปริ่มน้ำของพรรคพลังประชารัฐ !?
เรียกได้ว่าใกล้จะถึงจุดหมายปลายและเริ่มปรากฏความชัดเจนมากขึ้น กับถนนการเมืองไทย ที่ดูเหมือนว่าพรรคพลังประชารัฐ จะมีโอกาสคว้าชัยเหนือพรรคอื่น และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต แต่หากพินิจอย่างละเอียดถี่ถ้วนอาจเป็นการประเมินในเบื้องต้น มิอาจด่วนสรุปได้ในทันทีทันใด
อีกทั้งยังมีกระแสข่าวลือว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มือดีที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ 'บิ๊กตู่' จะยุติบทบาททางการเมืองของตัวเอง จากองค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ว่า สถานะของพรรคพลังประชารัฐในเวลานี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ และมีโอกาสกี่มากน้อยที่ 'บิ๊กตู่' จะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย
อย่างไรก็ดี ต้องไม่ลืมว่า 4 แกนนำ พปชร. ที่เคยเป็น รมต. ขับเคลื่อนประเทศและถือเป็นเทคโนแครตมือดี ประกอบไปด้วย 'อุตตม - สนธิรัตน์ - สุวิทย์ - กอบศักดิ์' นั้น ย่อมมีโอกาสสูงที่จะนั่งกระทรวงอย่างแต่เดิม ในกรณีที่พรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาล
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีกระแสลือถึงการแบ่งเค้ก 4 กระทรวงใหญ่เกรดเอ อันประกอบไปด้วย 1.เก้าอี้นายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ 2.เก้าอี้ รมว.กลาโหม ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 3.เก้าอี้ รมว.มหาดไทย ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ 4.เก้าอี้รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
โดยที่ เก้าอี้ รมว.และ รมช. อาจมีการแบ่งสันปันส่วนให้แก่พรรคที่พร้อมร่วมรัฐบาล ที่จนถึงตอนนี้บางพรรคก็ยังแสดงออกคล้ายเหยียบเรือสองแคม อุบไต๋จนวินาทีสุดท้าย
กลับมาที่นายสมคิด ที่ดูเหมือนว่าสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องแทบจะในทุกความเคลื่อนไหวด้วยเพราะเก้าอี้รองนายกฯด้านเศรษฐกิจนั้น เปรียบเสมือนหัวเรือในการขับเคลื่อนประเทศในระดับองค์รวม และประวัติการทำงานของนายสมคิด ในช่วงที่ผ่านมาก็ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด
ทั้งในแง่ความสัมพันธ์กับกลุ่มก้อนในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้มากบารมีเจนจัดประสบการณ์ทางการเมืองในนาม 'กลุ่มสามมิตร' ประกอบไปด้วย สมศักดิ์ เทพสุทิน ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่มีฐานหลักมาจากกลุ่มวงน้ำยม และทั้งสาม ยังมีส่วนสำคัญยิ่ง ในการทำให้พรรคไทยรักไทยจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อปี 2544 จากการเดินได้สายรวบรวมบรรดา ส.ส. ในพรรคต่างๆ เพื่อเข้ามารวมกันในพรรคไทยรักไทย
อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดแล้วภายหลังสภาพการเมืองไทยต้องเผชิญวิกฤตและล้มลุกคลุกคลานอยู่เป็นเวลานาน จน พล.อ.ประยุทธ์ และคสช. เข้ามายุติความขัดแย้ง เรื่อยมากระทั่งก่อนเข้าช่วงเปลี่ยนผ่านในการเลือกตั้งปี 2562
นายสุริยะ เปิดเผยว่าจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสนับสนุนให้พล.อ.เป็นนายกฯอีกสมัย อีกทั้งยังได้เชิญ อดีต ส.ส. จากทางภาคอีสานกว่า 50 ชีวิต มาล่มหัวจมท้ายเสริมทัพกับพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย
พร้อมกับกล่าวถึงสาเหตุของการตัดสินใจครั้งนี้ว่า ก่อนหน้าตนนั้นได้ปรึกษาหารือกับนายสมคิด มาโดยตลอดและเห็นถึงความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงตัดสินใจที่จะช่วยเพราะเชื่อในความสามารถ และ มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล
ในแง่มุมหนึ่งจึงสะท้อนอย่างชัดเจนถึง บทบาททางของนายสมคิด ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอันนำมาสู่การผนึกกำลังอย่างมีเสถียรภาพของพรรคพลังประชารัฐ แต่ดูเหมือนว่าคำกล่าวของนายสุริยะ ที่แย้มพรายว่าจะมีคะแนนมากเพียงพอนั้น อาจนำมาสู่คำถามในเวลานี้ที่ว่า ประเมินตนสูงไปหรือไม่ เพราะ หลากหลายผู้สันทัดกรณีด้านการเมืองยันตรงกันว่า
แม้เวลานี้จะปรากฏตัวเลขว่าขั้วทางฝั่งพรรคพลังประชารัฐจะผนึกกำลังเชือดเฉือน ฟากฝั่งตรงข้ามที่อวดอ้างประชาธิปไตยมาตีกิน ได้ในที่สุด แต่ยังคงเป็นเสียงปริ่มน้ำ อีกทั้งตัวเลขดังกล่าวมาจากการรวมเอาจำนวน ส.ส. จากพรรคตัวแปร ที่ยังไม่มีความชัดเจน คือ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกลูกอมพะนำ ทำให้หลายคนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐยังไม่อาจเอ่ยได้อย่างเต็มปากได้ว่าเวลานี้ 'บิ๊กตู่' ลอยลำ ครองเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย
เพราะข้อเท็จจริงนั้นปรากฏชัดเจนแล้วว่า เสียงที่ปริ่มน้ำของพรรคพลังประชารัฐ สะท้อนว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรและยังต้องจับตาลุ้นระทึกกันอย่างต่อเนื่อง ท้ายสุดกับกระแสลือสะพัดว่า นายสมคิด ได้แจ้งกับผู้ใกล้ชิดว่า แม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เกิดขึ้น แต่สำหรับนายสมคิดแล้ว ก็จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น “ท่านบอกว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ อีก เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่ไหวแล้ว ท่านคงอยากจะพักผ่อนและรักษาสุขภาพแล้ว”
เช่นเดียวกับทีมงานของนายสมคิด ก็เริ่มมีการนัดหมายกลุ่มเพื่อนฝูงเพื่อเลี้ยงอำลาการทำงานร่วมกันแล้ว กระแสข่าวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 349 เขต กระทั่งต่อมา กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 149 คน
อย่างไรก็ตาม ... จริงหรือเท็จ ก็ได้แต่คาดเดากันต่อไป แต่หากเป็นเรื่องจริง ก็น่าตั้งข้อสังเกตว่าการสูญเสียมือดีด้านเศรษฐกิจผู้นี้ จะกระทบต่อการฟอร์มรัฐบาลชุดใหม่ หากพรรคพลังประชารัฐชนะขาดในศึกเลือกตั้ง หรือไม่?? หรือหากกระแสลือดังกล่าวไม่เป็นความจริงนายสมคิด จะนั่งอยู่ ณ แห่งหนใดในรัฐบาลชุดถัดไป การเมืองไทยเวลานี้จึงเต็มไปด้วยคำถามที่ชวนฉงนและน่าติดตามยิ่ง!!