- 12 พ.ค. 2562
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.62 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม Start up people หรือ กลุ่มรวมพลังประชาชน นำโดย “จ่านิว” หรือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ นายธนวัฒน์ วงไชย นักศึกษาคณะเสรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 ร่วมกันจัดกิจกรรม “ปิดสวติซ์ ส.ว. ไม่โหวดนายกฯ” บริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.62 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม Start up people หรือ กลุ่มรวมพลังประชาชน นำโดย “จ่านิว” หรือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ นายธนวัฒน์ วงไชย นักศึกษาคณะเสรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 ร่วมกันจัดกิจกรรม “ปิดสวติซ์ ส.ว. ไม่โหวดนายกฯ” บริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
พร้อมด้วย นางสาวณัฎฐา มหัทธนา หรือ “โบว์ คนอยากเลือกตั้ง” นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง และ ประชาชนประมาณ 120 คน รวมทำกิจกรรมต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. โดยได้จัดทำกล่องคล้ายตู้ไปรษณีย์ ให้กลุ่มผู้ไม่สนับสนุน คสช.ส่งจดหมายถึง สภาชิกวุฒิสภา หรือ สว.จำนวน 250 คน ที่ถูกแต่งตั้งโดยรัฐบาล ระงับการดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรี
นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว ในฐานะแกนนำกลุ่ม Start up people เปิดเผยการรวมตัวเป็นการกระตุ้น ปิดสวติซ์ ส.ว. ไม่ให้ไปโหวตนายกฯ โดยเป็นขบวนการของภาคประชาชน โดยต้องการแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าตามกลไกลของรัฐธรรมนูญนั้นจะอนุญาต ยินยอมให้มีบทบาทให้การเลือกนายกฯภายในระยะเวลา 5ปีได้ แต่เห็นว่า ส.ว. 250คนนั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และยังมาจากการแต่งตั้งโดยคสช. ดังนั้นตามกลไกลของระบบประชาธิปไตยทั่วโลก การในสมาชิกรัฐสภาเลือกนายกฯ หัวหน้าฝ่ายบริหา ส่วนส.ว.มีหน้าที่ในการตรวจสอบเท่านั้น
โดยต้องการให้ประชาชน แสดงเจตนาต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช.ด้วยการส่งจดหมาย ยื่นให้กับ สว. เพื่อปิดสวิทซ์ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เบื้องต้นต้องการจดหมายที่ได้จากประชาชน 1 หมื่นซอง ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนส่งจดหมายได้ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 23 พฤษภาคม ก็จะนำจดหมายทั้งหมดยื่นให้กับสว. หรือก่อนที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล
หลังจากนี้ ได้เตรียมจัดสถานที่การรวมตัวของกลุ่มที่ไม่สนับสนุน คสช.ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร คือบริเวณ หอศิลป์ และอนุสาวรีย์ชัยประชาธิปไตย ก่อนจะเดินทางไปในพื้นที่ตามต่างจังหวัดของแต่ละภาค ทั่วประเทศไทย
อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์ของกลุ่ม Start up people ยังระบุตอนหนึ่งว่า ส.ว. ที่มาจากการสรรหา โดยคสช.นั้น เข้าข่าย “ส.ว.พวกพ้อง” ที่เต็มไปด้วยญาติสนิท มิตรสหายของ คสช. ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ เข้าทำนองว่า “ประยุทธ์ เลือกประวิตร แล้วประวิตรก็ไปเลือกน้องของประยุทธ์ ญาติสนิทมิตรสหายของประวิตร และประยุทธ์ เพื่อกลับมาเลือกประยุทธ์ แล้วประยุทธ์ก็จะได้เลือกประวิตรอีกที”
การที่ คสช.แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็นประธานในคณะกรรมการสรรหา ส.ว. นั้นไม่ได้มีความเป็นกลางทางการเมือง แต่มีความใกล้ชิดกับคสช.และพรรคพลังประชารัฐอย่างชัดเจน การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 269(1) อย่างชัดแจ้ง และ สว.ที่มาจากการสรรหา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโมฆะ อีกทั้ง ส.ว. ทั้ง 250 คน ยังมีท่าที่เป็นปฏฺปักษ์ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย อย่างชัดแจ้ง
ขณะที่นายนครกล่าว่า “ถึงเวลาแล้วที่ฝ่ายเผด็จการจะต้องคืนอำนาจและ อธิปไตยให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ขอให้หยุดการสืบทอดอำนาจโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข-ข้อแม้ ซึ่งให้ประชาชนได้มีอำนาจในการปกครองประเทศในวิถีของประชาธิปไตย หากยังคงฝืนในการที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป ตนเชื่อว่า นี่คือรางแห่งหายนะของระบบเผด็จการ และคสช.”
ทั้งนี้มีการตั้ข้อสังเกตว่า “ปิดสวติซ์ ส.ว.” เป็นวาทกรรมที่พรรคอนาคตใหม่ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกด้วย