“เพื่อไทย”เดินเกมลึกเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร หาก “พลังประชารัฐ”พลาดพลเอกประยุทธ์เหนื่อยแน่

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้นำเสนอในตอน เพื่อไทยเดินเกมลึกเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรหากพลังประชารัฐพลาด พลเอกประยุทธ์เหนื่อยแน่

กลับเข้าสู่เรื่องการเมือง เปิดมาวันจันทร์นี้ก็ดุเดือดเลือดพล่านแน่นอนครับ สถานการณ์การเมืองที่กำลังจ่ออยู่ในขณะนี้ก็คือการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวันที่ 24 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้นะครับจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ซึ่งจะต้องเปิดตามกฎหมายภายใน 15 วันตามที่กฎหมายกำหนดหลังจากที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

และในวันที่ 25 นะครับก็จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรครับ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในทางการเมืองในการต่อสู้กันในทางการเมืองระหว่างฝ่ายที่กำลังช่วงชิงในการจัดตั้งรัฐบาล ใครที่กุมตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ก็หมายความว่าเป็นผู้ที่มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้นะครับไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

 เพราะทั้งสองฝ่ายมีเสียงต่างกันแค่ 8 เสียงเท่านั้น คือฝ่ายหนุนพลเอกประยุทธ์มี 253 เสียง และฝ่ายเพื่อไทย อนาคตใหม่มี 245 เสียง ที่สำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งในขณะนี้เหมือนพรรคออกแตก คือในระหว่างที่มีการเลือกหัวหน้าพรรคนั้น ฝ่ายที่ชนะและฝ่ายแพ้ เสียงสูสีกันมากครับ

ฝ่ายที่หนุนคุณจุรินทร์มี สส. อยู่ 25 เสียง ส่วนฝ่ายที่พ่ายแพ้รวมกันแล้ว 27 เสียง นี่แหละครับ เสียง สส.ของพรรคประชาธิปัตย์หากจัดการภายในพรรคไม่ดีต้องถือว่าเป็นพรรคออกแตกครับ และที่สำคัญนะครับท่านผู้ชมครับในขณะนี้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเดินเกมสำคัญคือเสนอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคประชาธิปัตย์ก่อน มีการปล่อยข่าวเดินเกมนี้มาแล้วล่ะครับ

และหลังจากนั้นเลือกนายกจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่นะครับ นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยหยิบยื่นให้กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยแหล่งข่าวยืนยันว่าการเจรจานั้นบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะหนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกก็ได้ แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะโหวตให้ ซึ่งจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์แม้จะไปร่วมงานหนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็สามารถที่จะคุมเกมในทางการเมืองได้ พรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างไรไม่รู้ล่ะครับ

 

 แต่ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาดของพรรคเพื่อไทยซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนในบรรดาพรรคที่หนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในทันที เพราะว่าหลังจากที่มีการนำเสนอชี่อนะครับของนายบัญญัติ บรรทัดฐานออกไปแล้วนี่นะครับ ก็ปรากฏว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ 2 สส. จากพรรคเล็กและเป็นหัวหน้าด้วย เห็นชอบในกระแสที่เกิดขึ้นว่าควรที่จะให้นายบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นผู้ที่คุมเกมในสภาได้ มีความเหมาะสม มีประสบการณ์ เอาล่ะซิครับ อย่างนี้ถือว่าเข้าทาง เข้าเกมของพรรคเพื่อไทยในทันทีนะครับ

 

ในความจริงทางการเมืองนะครับ ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ พรรคไทยเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ประธานสภาต้องเป็น สส. ของพรรคนั้น ผมต้องเรียนทำความเข้าใจท่านผู้ชมซะก่อนนะครับ แม้มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสสูงยิ่งที่จะหนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของนายจุรินทร์ ลักษณะวิสิต หัวหน้าพรรค รวมทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของประชาธิปัตย์ ต้องเข้าใจว่าทิศทางของคุณชวน หลีกภัย คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินหน้าในอุดมการณ์ ไม่หนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจนะครับตามวาทะกรรมของฝ่ายพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่

ไม่ต้องการพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นหากนายบัญญัติ บรรทัดฐานเกิดขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรจริงๆ รับรองได้ครับ การเมืองปั่นป่วน พรรคพลังประชารัฐและพลเอกประยุทธ์อยู่ไม่เป็นสุข

 

และขณะเดียวกันนะครับ ก็ต้องหันกลับไปมองฝ่ายพรรคพลังประชารัฐซึ่งควรที่จะได้ สส.ของตัวเองเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะได้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วย ในขณะนี้ก็มีข่าวผู้ชิงกันอยู่ 2 คน คือนายสุชาติ ตันเจริญ สำหรับนายสุชาตินั้นมีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยหนุนด้วย เพราะนายสุชาติ ตันเจริญ เคยเป็น สส.กลุ่ม 16 เป็นเครือข่ายพวกเดียวกับเนวิน ชิดชอบ อีกคนหนึ่งก็คือนายวิรัช รัตนเศรษฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องถือว่าชื่อนี้มาแรงครับ ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายในพรรคพลังประชารัฐ

 

แต่สำหรับนายวิรัช รัตนเศรษฐ นี่นะครับ ขณะนี้กำลังมีปัญหาเรื่องคดีทุจริตสนามฟุตซอล ซึ่งอนุกรรมการของ ปปช.ได้สรุปสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังเสนอเข้าสู่คณะกรรมการ ปปช.ชุดใหญ่ อันนี้เป็นอุปสรรคแน่นอน ยังไม่สามารถที่จะหาข้อสรุปได้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคพลังประชารัฐจะเป็นใคร

แต่ถ้าเป็นนายสุชาตินะครับ ก็เป็นข้อสรุปที่พรรคพลังประชารัฐก็น่าที่จะพอใจพอสมควร เพราะนายสุชาติเคยเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรและถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ แต่ถ้าหวยไปออกที่นายบัญญัติ บรรทัดฐานนะครับ แน่นอนครับ พรรคพลังประชารัฐจะเหนื่อยมากนะครับ

 

เพราะโดยหลักการแล้วนะครับ ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้คุมเกมในสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นตัวแทนของพรรคหลักเท่านั้น อันนี้เป็นศึกยกแรกเท่านั้นนะครับในทางการเมืองที่จะต้องต่อสู้กัน ตำแหน่งประธานสภาจะนำไปสู่การชี้ขาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีความมั่นคง แต่ถ้าทั่วๆไปนะครับ บอกเลยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ปกติ เพราะวุฒิสมาชิกสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้

 

ดังนั้นเกมการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงตื่นเต้นและเร้าใจเพราะมีการนำเสนอเกมที่ซับซ้อนและทำให้เกิดความมึนงงในฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลเอง ต้องติดตามกันครับ สวัสดีครับ