- 24 พ.ค. 2562
ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในเบื่อนักการเมืองจริงๆ เชียร์ลุงตู่ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนชี้ขาดไปเลยว่าจะเอาข้างไหนก็เอาไปสักข้าง
ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในเบื่อนักการเมืองจริงๆ เชียร์ลุงตู่ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนชี้ขาดไปเลยว่าจะเอาข้างไหนก็เอาไปสักข้าง โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ระบุเอาไว้ว่า สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ ท่านผู้ชมจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่นะครับสำหรับผมแล้ว ถึงเวลานี้นะครบถ้าสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นอยู่อย่างนี้ เชียร์ให้พลเอกประยุทธ์ตั้งรัฐบาลขึ้นมาแล้วก็ยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนให้รู้แล้วรู้รอดไปครับ
เหตุผลฝ่ายที่ดูท่าว่าจะเป็นรัฐบาลก็วุ่นวายเสียเหลือเกิน ฝ่ายที่เป็นฝ่ายค้านนะครับก็พยายามกดดันสร้างสถานการณ์โน่นนี่นั่นไปตามเรื่องตามราว ทั้งหมดนะครับมาจากการที่ทั้งสองฝ่ายมีเสียงสูสีคู่คี่กัน ผมจะเรียนอย่างนี้นะครับในการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้นะครับถึงแม้ว่าจะค่อนข้างชัดเจนนะครับว่าฟากฝั่งพรรคพลังประชารัฐนะครับจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและผลักดันให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีได้
แต่ต้องยอมรับครับว่าที่วุ่นวายกันอยู่ในขณะนี้เพราะฝ่ายพรรคพลังประชารัฐไม่มีผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงปรากฏตัวออกมาเสียทีครับ มีแต่เพียงเงาเลือนรางนะครับ คนโน้นบ้างคนนี้บ้างนะครับปรากฏขึ้น ทั้งจากคนในพรรคพลังประชารัฐเองหรือคนที่มีบารมีเหนือหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและรวมความถึงนายทหารใหญ่บางคนเสียด้วยซ้ำไป ด้วยสภาพการณ์ของฝ่ายพลังประชารัฐที่เป็นแบบนี้นะครับทำให้พรรคที่จะเข้าร่วมรัฐบาลนะครับโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคเสาหลักอีกสองพรรคสับสนอลหม่าน งงๆ จะฟังใครดี
เดี๋ยวคนโน้นติดต่อมา คนนี้ติดต่อมา เอ๊ะใครเป็นผู้ที่มีอำนาจกันแน่ เรามาดูสถานการณ์ที่เป็นจริงนะครับ ทุกคนสัมผัสและก็รู้สึกได้ครับว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคือคุณอุตตม และคุณสนธิรักษ์นั้นเป้นคนที่อยู่ใต้บารมีของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิดเอาทั้งสองท่านมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ร่วมกันทำงานขับเคลื่อนการทำงานทางด้านเศรษฐกิจภายใต้แนวนโยบายที่ ดร.สมคิดผลักดัน จึงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะทำให้ประชาชนหรือผู้คนไม่คิดว่าทั้งสองคนนั้นอยู่ภายใต้บารมีของ ดร.สมคิดนะครับ
ดังนั้นนี่นะครับเมื่อมีข่าวแพร่กระจายออกไปในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลนะครับ เลขาธิการพรรค หัวหน้าพรรคส่งสัญญาณไปที่ใคร ใครก็ไม่อยากคุยด้วยนะครับ เพราะไม่รู้ว่ามีอำนาจจริงหรือไม่ แต่จะไปคุยกับคนอื่นก็ไม่รู้จะคุยกับใครนะครับ พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆได้รับการติดต่อมาจากหลากหลายคน หลายทาง ต่างก็อ้างกันว่าเป็นคนที่ได้รับสัญญาณมาจากผู้ใหญ่ อีแบบนี้แหละครับ มันถึงทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน แต่ทีนี้เรามาดูข้อเท็จจริงกันนะครับว่า พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา รวมทั้งพรรคเล็กๆอื่นนะครับต่างรู้ดีว่าใครเป็นผู้มีอำนาจจริงในการจัดตั้งรัฐบาล ทุกคนรู้ ด้วยเหตุผลนี้แหละครับ เมื่อมีการเจรจาติดต่อมาจากพรรคพลังประชารัฐนะครับ ทำให้พรรคใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์นะครับไม่มีท่าทีที่จะตอบสนองหรือตอบรับนะครับ
เพราะเอาเข้าจริงๆคนที่มีอำนาจจริงๆในการจัดตั้งรัฐบาลคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น เพราะจะต้องทำงานร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ รัฐมนตรีจากพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องมาทำงานร่วมกับพลเอกประยุทธ์นั้นจะต้องทำงานเข้าขา กระจาย และเดินไปตามทิศทาง โดยเฉพาะจากยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่ คสช. และพลเอกประยุทธ์วางเอาไว้ ดังนั้นผู้ที่มีอำนาจจริงๆคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
และหรือถ้าจะมีบุคคลอื่นซักคนนึง ก็น่าจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะนายทหารบางคนที่มีข่าวว่ามี สส. อยู่ในมือ เพราะในการบริหารจัดการการเลือกตั้งนนั้นนะครับ ได้มีการผลักดัน จัดการ สนับสนุนจนพรรคพลังประชารัฐประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง แต่บุคคลนั้นไม่มีตัวตน ไม่ได้ปรากฎตัวออกมา การเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก และเกิดข่าวสารที่สับสนวุ่นวาย ดังที่เราได้พบเห็นกันอยู่นี่แหละครับ ไม่เพียงเท่านั้นนะครับในพรรคพลังประชารัฐเองในขณะนี้มีการเคลื่อนไหวช่วงชิงตำแหน่งกัน ช่วงชิงตำแหน่งกันภายในพรรคอย่างเดียวไม่เพียงพอนะครับ ปล่อยข่าวออกสู่ภายนอก
และข่าวที่ปล่อยออกมาเพื่อที่จะได้มีโควต้าหรือมีตำแหน่งแห่งหนที่ตัวเองได้รับการตอบสนองตามที่ตัวเองต้องการ ก็ไปปล่อยข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลควรจะต้องได้กระทรวงเท่าโน้นเท่านี้ ควรเป็นกระทรวงนั้นกระทรวงนี้และกระทรวงเกรดเอเก็บไว้ที่ตัวเอง อีแบบนี้แหละครับ เรื่องราวทั้งหลายมันจึงไม่จบลงซะทีนะครับ ดังนั้นนี่นะครับถ้าข้างในยังไม่ลงตัวกันเอง แล้วไปปล่อยข่าวบีบพรรคร่วมรัฐบาล ถามจริงๆอำนาจในการต่อรองในวันนี้นี่นะครับอยู่ที่ใคร และด้วยเหตุผลนี้แหละครับทำให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยนี่นะครับ
ต้องจับมือกันโดยเปิดเผยให้สื่อเห็นว่าทั้งสองพรรคมีการพูดคุยรวมกันแล้วนะ จะเป็นขั้วที่สามหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่เสียงที่รวมกันแล้วใกล้เคียงกับพรรคพลังประชารัฐ การเจรจาต่อรองใดๆอย่าทำในรูปแบบเดิมที่ผ่านมา กดขี่ข่มเหงน้ำใจอย่างโน้นอย่างนี้ จะทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ ผมอยากจะเรียนแบบนี้นะครับว่าเมื่อคราวที่พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ท่านผู้ชมสังเกตไหมครับว่าจะมีผู้จัดการรัฐบาลที่เปิดเผยตัวตนออกมา
นั่นก็คือพลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ ตั้งแต่สมัยนายชวน เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งสองสมัย จนมาถึงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่เป็นผู้จัดการรัฐบาลก็คือสุเทพ เทือกสุบรรณ นะครับ ไม่ต้องพูดถึงพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทยครับ ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงก็คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นคือผู้จัดการตัวจริงที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายรู้ว่าใครเป็นคนมีอำนาจ ดังนั้นนะครับถึงเวลานี้ ใกล้จะถึงวันที่ 25 พฤษภาคม ที่จะต้องมีการเลือกประธานรัฐสภา และหลังจากนั้นจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไปนะครับ ระยะเวลาที่เหลืออยู่นะครับจำเป็นอย่างยิ่งครับที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจะต้องตั้งผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงออกมา
และทำให้สาธารณชนรู้ว่าคนๆนี้แหละเป็นผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงที่ได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่จำเป็นจะต้องจากพรรคพลังประชารัฐนะครับ เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วนะครับ เมื่อได้ผู้จัดการรัฐบาลที่เปิดเผยแล้วก็ดำเนินการเจรจา หาข้อสรุปโดยเปิดเผยกับพรรคการเมืองต่างๆนะครับ มีการพูดคุยแถลงข่าวให้ประชาชนรับทราบ ไม่มีการสับสนนะครับ แบบนี้แหละครับถึงจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลนี่นะครับ และสถานการณ์ทางการเมืองลดความวุ่นวายลงนะครับ
ให้เหลือเฉพาะการเคลื่อนไหวของฝากฝั่งพรรคฝ่ายค้านเท่านั้น และหากผู้จัดการรัฐบาลได้พยายามดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลแล้วนะครับ ข้อต่อรอง อำนาจในการต่อรองมากมายมหาศาล ผมคิดว่าอันนี้ชัดเจนที่พลเอกประยุทธ์จะต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าไม่ยอมก้มหัวให้กับบรรดานักการเมืองเหล่านี้ นั่นก็คือประกาศพร้อมยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน สวัสดีครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- "ธนาธร"ควง"ปิยบุตร" แต่งชุดขาวร่วมเปิดสภาฯ ยันไม่มีงูเห่าแน่นอน!
- อดีตผู้พิพากษาศาลฏีกา ยกเคสยิ่งลักษณ์ถึงธนาธร!หวังประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย
- "วิษณุ" ไขคำตอบ ศาลรธน.รับวินิจฉัย "ธนาธร" ถือหุ้นสื่อ ชี้ ร่วมพิธีเปิดสภาได้ แต่โหวตในสภาไม่ได้!!