- 26 พ.ค. 2562
พล.อ.อู๊ด เบื้องบน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดเผยภายหลังทราบข่าว พล.อ.เปรม ถึงแก่อสัญกรรม
จากกรณีมีรายงานพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษ ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาล เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังจากมีอาการป่วยระบบหัวใจล้มเหลวและเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาล สิริอายุได้ 98 ปี
รายงานข่าวเปิดเผยว่า พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้ป่วยหมดสติอยู่ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์เวลา 05.00 น.วันนี้ คนในบ้านจึงได้แจ้งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ก่อนจะส่งรถพยาบาลพร้อมแพทย์และพยาบาลมายังบ้านพัก เมื่อมาถึงพบว่า พล.อ.เปรม หมดสติ จึงทำการปฐมพยาบาล และปั๊มหัวใจ ใส่เครื่องช่วยหายใจ ก่อนนำขึ้นรถพยาบาลมายังโรงพยาบาลทันที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล รีบนำเข้าห้อง CCU (ห้องผู้ป่วยวิกฤตหัวใจ) ชั้น 3 อาคารสมเด็จย่า ก่อนระดมทีมแพทย์ ทำซีพีอาร์ (ปั๊มหัวใจ) อยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ร่างกายไม่ตอบสนองก่อนที่ พล.อ.เปรมจะถึงอสัญกรรมในเวลาประมาณ 08.00 น. วันนี้
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ช่วงหัวค่ำวันที่ 25 พ.ค.ก่อนที่พล.อ.เปรมจะหมดสตินั้น ได้พูดคุยกับนายทหารคนสนิทและได้สั่งการเรื่องงานต่างๆ ก็ไม่มีท่าที่จะป่วยแต่อย่างใดก่อนเข้าไปนอนพักผ่อน และในเวลา 05.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ พล.อ.เปรม ตื่น ทหารที่อยู่ที่บ้านได้เข้าไปดูก็พบว่ายังนอนอยู่ ดูแล้วว่าผิดสั่งเกตจึงได้เรียก พล.อ.เปรม ก็ไม่ตื่น จึงได้เรียกแพทย์ที่ รพ.พระมงกุฎฯ มาดูอาการดังกล่าวก่อนนำส่ง รพ.
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว พล.อ.อู๊ด เบื้องบน อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดเผยภายหลังทราบข่าว พล.อ.เปรม ถึงแก่อสัญกรรม ว่า สิ่งที่ท่านได้ทำไว้ถือว่าเป็นประโยชน์และมีคุโณปการต่อแผ่นดินอย่างมาก เป็นแบบอย่างในหลายเรื่อง เช่น การเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ยึดมั่นการปฏิบัติเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่สำคัญคือไม่ทุจริตคอรัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง
ทั้งนี้ ตนเคยดำรงตำแหน่งนายทหารคนสนิทของท่านเมื่อปี 2514 ได้เห็นท่านผ่านเหตุการณ์วิกฤติหลายอย่างที่ต้องตัดสินใจ บุคลิกตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งในกองทัพจนมาเป็นนายกรัฐมนตรีทุกคนจะทราบดีว่าเป็นคนเงียบ แต่เด็ดขาด จะให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่พูดแทนท่าน เพราะท่านเห็นว่าถ้าพูดไปก่อน แล้วพูดผิดใครจะแก้แทนยาก ท่านก็จะพูดแต่เรื่องใหญ่ๆและเป็นทางการเท่านั้น
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ถูกเรียกว่า “ลูกป๋า” ท่านดูแลและให้ความเมตตาอย่างไร พล.อ.อู้ด กล่าวว่า สิ่งที่ท่านทำมีมากมาย ซึ่งไม่สามารถกล่าวตรงนี้ได้หมด เรียกได้ว่าท่านเปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง ให้คำสอนคำเตือนทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการมีสติ คิดพิจารณาแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ ซึ่งท่านสามารถผ่านวิกฤตการเมือง เหตุการณ์ปองร้ายมาได้ จนเป็นรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ใครจะเป็นแบบ “ป๋า” ได้อีก