"ทยา"สั่งสอนมารยาทเด็กเมื่อวานซื่น "ไฮโซลูกนัท" แสดงความไร้วุฒิภาวะ-อยากดังในเวทีการเมือง

สื่บเนื่องจากกรณีที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ทายาทนักธุรกิจเครือโนเบิล บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทย และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม New Dem   โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  ระบุว่า แหม่ นึกว่าวันก่อนจะถึงเวลาบอกลาการเมืองไทยไปซักพักใหญ่ๆ แต่.....(เนื่องจากไม่ได้ข้อสรุปอะไรในตอนนี้)
 
และแล้วก็มีคนจากพรรคพลังประชารัฐออกมากล่าวว่า ‘หากพรรคประชาธิปัตย์’ ไม่เข้าร่วมรัฐบาลจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหากบริหารประเทศไม่ได้จะขู่ยุบสภา ผมอยากบอกว่า

คุณพี่ครับ อายุเท่าไหร่แล้ว? หมาเลียตูดไม่ถึงแล้วมั้ย? หาเพื่อนเล่นด้วยไม่ได้เกิน 250 โวยวายขู่ยุบสภาเลยหรอ?

ผมสงสารแทนประเทศเรา ที่เสียเวลา เสียโอกาสที่จะพัฒนา ‘เพราะพวกไร้ความสามารถแต่เสือกอยากบริหารประเทศ’

สภาไม่ใช่โรงละครฉันใด ประชาธิปไตย ก็ไม่ใช่ตัวประกันของท่านฉันนั้นนะครับ จำไว้ให้ดีๆ

ผมอยากเตือนพรรคพลังประชารัฐว่าประชาชนทุกคนมีขีดจำกัดของตัวเอง หากวันไหนพวกเขาอดทนต่อไปไม่ได้แล้ว .......#หมดเวลาเกรงใจพลังประชารัฐ

 

ล่าสุดทางด้าน ( 30พ.ค.62 ) ทางด้านนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  ภรรยาของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Taya Teepsuwan ระบุว่า....

 

หากโพสต์นี้กล่าวถึงคนที่ให้สัมภาษณ์ในรายการเนชั่นทันข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ค. เกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ก้ออยากจะบอกเด็กเมื่อวานซืน ซึ่งลงสมัครเลือกตั้งล่าสุด ได้คะแนนเพียงแค่ 8,494 คะแนน เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ว่า...

 

1. ก่อนจะเขียนอะไรที่แสดงความไร้วุฒิภาวะ ควรไปฟังและอ่านทุกตัวอักษรก่อนที่จะมาโชว์ความเขลาทางปัญญาในที่สาธารณะชน ว่าณัฏฐพลไม่ได้พูดเรื่องการยุบสภาแต่อย่างใด และยังให้เกียรติพรรคร่วมมีเวลาในการตัดสินใจเพราะเป็นเรื่องภายในพรรค การออกมาพูดบิดเบือนข่าวเอาแต่ได้เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควร

 

2. ถ้าอยากจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ น้ำดี ก้อควรทำตัวให้น่าเคารพ ใช้ภาษาในที่สาธารณะอย่างสุภาพแม้มีความเห็นต่าง

 

3. การที่ครอบครัวมีสตางค์ เรียนจบเมืองนอกเมืองนา (เอ๊ะ แต่รู้สึกปริญญาตรีก้อไม่รู้จบยังนะ!) ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถพูดจาดูถูกคนอื่นได้

 

4. อยากฝากบอกว่า New Dem มีหลายคนที่มีความคิด มีความรู้จริง และมีการแสดงออกอย่างสุภาพ ในหลักการในสิ่งที่พวกเค้าเชื่อไม่ว่าจะเป็นพรหม ไอติม หมอเอ้ก ซึ่งการมีความเห็นต่างทางการเมือง เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่น้องๆเหล่านั้นแสดงออกอย่างสุภาพชน ผิดกับเด็กบางคน ที่เอาความผิดหวัง ความไม่ได้อย่างใจ มาแสดงออกด้วยความก้าวร้าว เสียไปถึง New Dem ในภาพรวมอีกต่างหาก

 

5. ถ้าอยากจะพูดถึงใคร ก้อแมนๆไปเลย เอ่ยชื่อออกมา ไม่ต้องเป็นนักเลงคีย์บอร์ดแบบอีแอบ กล้าๆ กลัวๆ ครั้งแรกพูดคำว่า “เือก” น่าจะหมายถึงตัวดิฉัน (เมื่อหลายเดือนก่อน) ส่วนครั้งนี้ก้อใช้คำว่า “เือก” อีก พ่วงด้วย “หมาเลียตูด” น่าจะหมายถึงตัวณัฏฐพล ฝากบอกนะ นักการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะเค้าไม่ใช้ศัพท์แสงหยาบคายออกสื่อกัน มันโชว์หลายๆอย่าง

 

 

6. ส่วนตัวรู้จักกับคุณแม่และคุณน้าของธนัตย์ดีตั้งแต่เรายังเด็กและให้ความเคารพทั้งพี่แหมว พี่บอยเสมอ แต่เห็นลูกชาย/หลานชายทำตัวกร่างอย่างนี้ บอกตรงๆว่า “เห็นใจค่ะ”

 

7. เสียดายที่เมื่อก่อนเคยร่วมเวทีกปปสด้วยกัน ธนัตย์ชอบมาขอขึ้นรถเวลาเราปราศรัย มาขอพูดบนเวที เรายังคิด เออ เด็กหนุ่มคนนี้มีความกล้า มีอุดมการณ์ดี หลังจากม๊อบจบ ที่บ้านเราจะมีแก๊งค์คนรักหมา พาสุนัขมาเล่นน้ำกันทุกวันอาทิตย์ ธนัตย์มักจะขอมาแจมด้วยทุกครั้ง บางทีแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ออกไปขี่รถเล่นกัน ธนัตย์ก้อจะมาขอไปด้วย ถ้ารู้ว่าเด็กก้าวร้าวคนนี้จะเล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ลักษณะนี้ คงไม่ให้เข้าบ้านแต่แรก! จริงๆน่าจะรู้ตั้งแต่วัยรุ่นคึกคะนองคนนี้เคยขับรถพอร์ชพุ่งเข้าชนเวทีเสื้อแดงเมื่อ 10 ปีแล้ว! (สรุปไม่รู้ว่าอยากเล่นการเมือง หรือ อยากดัง??)

 

8. ใช่ สภาไม่ใช่โรงละคร เพราะธนัตย์ไม่ได้เข้าไปนั่งในสภา ไม่งั้นมัน คือ โรงละครแน่นอน

 

สุดท้าย อยากจะบอกว่า จริงๆพยายามอดทนกับพฤติกรรมการใช้วาจาของเด็กคนนี้มาซักพัก และไม่อยากลดตัวลงไปให้ค่ากับ”เด็กมีปัญหา ที่อยากดังในเวทีการเมือง เพราะยังไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันด้วยตัวเอง ยืนอยู่ได้เพราะความสำเร็จของพ่อแม่” แต่คราวนี้มีการพาดพิงชัดเจน บิดเบือนข้อมูล สร้างความสับสนให้สังคมเลยต้องออกมาชี้แจง ส่วนจะเข้าใจหรือไม่ อันนี้คงคาดหวังยาก

 

ท้ายสุด...ฝากธนัตย์ไปฟังคำให้สัมภาษณ์ของณัฏฐพลอีกครั้ง ถ้าฟังไม่เข้าใจ อ่านการถอดเทปสัมภาษณ์ข้างล่างนี้ เผื่อจะตาสว่างขึ้นบ้าง #หมดเวลาเกรงใจ #โพสต์นี้ไม่เกี่ยวกับปชป #ส่วนตัวล้วนๆ

 

ทยา ทีปสุวรรณ

29 พ.ค. 62

 

ณัฏฐพลสัมภาษณ์และตอบคำถามพิธีกรมีใจความหลักดังนี้

 

1. เราผ่านขั้นตอนการเลือกประธานสภามาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี

2. พรรคพลังประชารัฐไปเชิญและเราให้เกียรติทุกพรรคการเมืองที่เราไปเชิญมาร่วมบริหารรัฐบาล ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการปรึกษาหารือกัน เพราะแต่ละพรรคก็มีความประสงค์จะผลักดันนโยบายที่เคยให้ไว้ต่อประชาชน

3. ผมมั่นใจว่าน่าจะมีการปรึกษาหารือและแนวทางทำงานร่วมกันได้ก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรี

4. โดยที่คุณสันติสุขได้ถามช่วงท้ายรายการ ถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย หากหาแนวทางทำงานกันไม่ลงตัว แม้ได้นายกรัฐมนตรีแล้ว และนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา เป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบว่า “ผมไม่อยากให้สถานการณ์ไปถึงจุดตรงนั้น เพราะประชาชนได้มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ไม่อยากให้การเดินไปข้างหน้าสะดุด แต่หากเป็นความจำเป็นก็เป็นดุลยพินิจของท่านนายกรัฐมนตรี”