เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร

ล่าสุดเพื่อนของ ช่อ พรรณิการ์ ที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า "May Fonghame"  หนึ่งในหกบุคคลที่ปรากฎภาพมิบังควร  โดยได้โพสต์ข้อความระบุว่า...  หลายคนอาจจะงงว่า มีโปรไฟล์เฟรมอะไรแปะที่รูป? พวกเราทำเฟรมนี้ขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจช่อ พรรณิการ์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆ ที่เผชิญกับสถานการณ์การถูกล่าแม่มด

จากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพในอดีตของ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ตอนรับปริญญา รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations) เมื่อปี 2553 และเพื่อนร่วม6คน โดยได้ทำทำท่าลบหลู่ขำขัน ถือเป็นกิริยาที่มิบังควร พร้อมใส่แคปชันว่า "ภาพนี้ไม่ควรมีคำบรรยาย =__="

 

 

เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร

 

 

ในเวลาต่อมา ข่อพรรณิการ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหว กล่าวโทษ "เพจเฟซบุ๊กที่ทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารทางจิตวิทยา (หรือที่เรียกกันว่า เพจ IO) ให้แก่ คสช. กับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง นำภาพที่ช่อถ่ายเล่นๆ กับเพื่อนในช่วงรับปริญญาที่จุฬาเมื่อปี 2553 มาโจมตีช่ออย่างรุนแรงโดยพยายามเชื่อมโยงกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์" 

 

พร้อมทั้ง เปิดเผย ที่มาของภาพมิบังควรดังกล่าวในทำนองเป็นการล้อเลียนการเมืองในช่วงการรัฐประหาร 2549   ว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จะถูกกล่าวว่าไม่จงรักภักดี โดยช่อ พรรณิการ์ยังได้กล่าวยอมรับว่าภาพดังกล่าวนั้นดูไม่เหมาะสม และขออภัยอย่างสูงต่อประชาชนที่เห็นภาพนี้แล้วเกิดความไม่สบายใจ    

 

อ่านเพิ่มเติม : ฟังไม่ขึ้น?..เหตุผลภาพมิบังควร "ช่อ พรรณิการ์" ล้อเลียนการเมือง ใช้ภาพพระบรมฉายลักษณ์ ไม่มีใครทำกัน!

 

ขณะที่ในเวลาต่อมา โลกออนไลน์ได้ทำการขุดคุ้ยพฤติกรรมและทัศนคติพฤติกรรมที่หลายคนแคลงใจ ของ ช่อ พรรณิการ์ ที่ผ่านมาในอดีตต่างอีกเป็นจำนวนมาก หลังจากถูกชาวเน็ตเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์หนักนั้นได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว จำกัดการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ บุคคลที่ไม่ได้เป็นเพื่อนไม่สามารถเข้าถึงอัลบั้มรูปภาพและคอมเมนต์ได้

 

เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร

 

เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องช่อต้องเคารพความคิดตัวเอง ถ้ากล้าคิดต้องกล้าเปิดเผย อย่าเป็นอีแอบ???

 

ล่าสุดเพื่อนของ ช่อ พรรณิการ์ ที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า "May Fonghame"  หนึ่งในหกบุคคลที่ปรากฎภาพมิบังควร  โดยได้โพสต์ข้อความระบุว่า...  หลายคนอาจจะงงว่า มีโปรไฟล์เฟรมอะไรแปะที่รูป?

 

พวกเราทำเฟรมนี้ขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจช่อ พรรณิการ์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆ ที่เผชิญกับสถานการณ์การถูกล่าแม่มด

 

การถูกล่าแม่มดที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เคยแต่ได้ยินว่าคนนั้นคนนี้ถูกยัดข้อหา เป็นการฟังแบบที่คิดในใจว่า

"มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"

 

เราได้แต่เอาใจช่วยคนอื่นและครอบครัวของผู้เสียหายที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่น้อย หวังให้พวกเค้ารอดพ้นเกมการเมืองเก่าอันสกปรก หวังว่าประเทศจะไม่เป็นแบบนี้ไปอีกนาน เรื่องพวกนี้กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวแบบกระชั้นชิด เรียกว่าแบบ งงๆ ด้วยซ้ำ

 

เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร

 

การถูกล่าแม่มด คืออะไร?

ถ้าจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสเมื่อช่วงไม่กี่วันมานี้ ได้เจออะไรที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตนี้ต้องเจอ เริ่มตั้งแต่...มีแมสเสจขู่ทำร้าย ขู่ฆ่า สาปแช่งพ่อแม่บรรพบุรุษคนรอบข้าง แมสเสจหลอกล่อให้คุยหรือตอบกลับ เพื่อที่จะใช้ไปเป็นหลักฐานบิดเบือนคำพูดและความจริงเพื่อใช้แจ้งข้อหา (วิธีเดิมที่เคยใช้กับคนอื่นๆ หลายคนอาจจะไ่ม่ทราบ) คำหยาบคายที่สุดที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับในชีวิต แต่กลับอ่านเจอตามรูปส่วนตัวของตัวเองแบบงงๆว่า "นี่ใครเนี่ย?" แต่ก็ก้มหน้าทำงานงกๆต่อไป โดยความสงสัยว่าที่นั่นกำลังเกิดอะไรขึ้น

 

ถ้าเราจะบอกว่า เราไม่โกรธ เชื่อมั๊ย?

เราไม่ใช่ผู้ถือศีลดีงามอะไร แต่มันเป็นความไม่โกรธบนพื้นฐานของการเติบโตมากับการเข้าใจและเคารพในความเชื่อความเห็นต่างของคนอื่น (ในทางการเมืองอ่ะนะ อย่าแปลงสารเราเป็นอื่น)

 

ความเข้าใจที่ว่า...

เราเปลี่ยนความเข้าใจผิดหรือการตัดสินของใครคนอื่นไม่ได้ 
เปลี่ยนการตีความส่วนบุคคลหรือเฉพาะกลุ่มไม่ได้ 
เปลี่ยนความโกรธเคืองที่สามารถทำลายชีวิตคนอื่นไม่ได้ 
เปลี่ยนคำพูดที่ว่า "ถ้ากฎหมายอนุญาตให้ฆ่าคนได้ จะฆ่ามันให้หมด" ให้หายไปจากความคิดของใครหลายคนไม่ได้

แต่เราเปลี่ยนความจริงที่ร้ายๆพวกนี้ให้เป็นความเข้าใจส่วนตัวได้

เราว่า นี่คือสิ่งที่หลายคนที่เรียกร้องประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์และก้าวหน้าจริงๆอยากจะเห็น

ในช่วงชีวิต 30 กว่าปีที่โตมา ยุุคนี้คือยุคที่เราเข้าใจการเมืองไทยดีมากที่สุด ตอนเรียนรัฐศาสตร์ยังไม่เข้าใจขนาดนี้เลย มันคือช่วงที่เราไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยอีกต่อไป ได้มองกลับเข้ามาในฐานะคนนอก

 

ได้ดูประเทศบ้านเกิดตัวเองอย่างห่างๆ จนบางครั้งก็ลืมไปด้วยซ้ำว่า ตอนนี้เป็นยังไงแล้ว 
ได้ถอดความสนใจเฉพาะออกจากทุกกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมือง รัฐบาล และพรรคการเมืองทุกพรรค มาอยู่ในจุดที่มองทุกฝ่ายสะเปะสะปะไปมา 
ได้มีโอกาสเห็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของหลายประเทศ รวมถึงประเทศกำลังเติบโตอย่างช้าๆหลังการปฏิวัตินองเลือดถึง 2 ครั้งอย่างประเทศคีร์กีซสถาน 
เห็นความกระตือรือร้นทางการเมืองการปกครองของคนคีร์กีซรุ่นใหม่ 
เห็นการร่วมมือกันของฝ่ายประชาธิปไตยสายใหม่กับฝ่ายหัวเก่าที่มาจากสมัยคอมมิวนิสต์ที่ทุกฝ่ายล้วนหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะทำให้ประชาชนแม้แต่คนเดียวต้องเสียเลือดเสียชีวิตอีกครั้ง

มันทำให้เราย้อนกลับมามองประเทศตัวเองมากขึ้นนะ

 

ถ้าถามว่าคิดอะไรอยู่ ณ ตอนนี้

กำลังคิดว่าพวกเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร... 
จุดที่คนคิดฆ่าคนอื่นได้อย่างเปิดเผยและก็ได้เสียงเฮเสียงสนับสนุนจากคนอื่นๆอีกหลายคน...
จุดที่การข่มขู่ทำร้ายหรือขู่ฆ่าเป็นเครื่องมือที่ผู้ปกครองประเทศยินยอมให้เกิดขึ้นต่อไปและต่อไปเพื่อกำจัดประชาชนและ/หรือแม้แต่คู่แข่งทางการเมืองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา...
จุดที่ความผิดหวังกับประเทศที่พวกเราอยากเห็นแสงสว่างประชาธิปไตยกลับเป็นเหมือนหนังฉายซ้ำที่ มันเป็นความผิดหวังซ้อนทับความผิดหวังอีกเป็นทบๆไป...
จุดที่ทุกคนสามารถตกอยู่ในสถานะการเป็นผู้ถูกล่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้...
จุดที่หลายคนหวาดกลัวกับทุกสิ่งรอบตัวและบนโลกโซเชียลที่สามารถกลายเป็นเหตุผลหรือเครื่องมืออันโอชะให้กับทหาร นักการเมืองและคนที่ส่งเสริมนักการเมืองหรือพรรคการเมืองคนละฝ่าย...
จุดที่การไม่เห็นด้วยกับการมีทหารปกครองประเทศเป็นเรื่องที่หลายคนหลีกเลี่ยงจะพูดถึง... 
จุดที่กระบอกปืนกำลังจ่ออยู่ตรงหน้าและเราต่างบอกกันและกันให้ทำใจ

 

ในฐานะคนไกลบ้าน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง และส่งสารความเป็นห่วงมาให้แบบไม่ทันตั้งตัว กว่าจะเช็คข้อความ กว่าจะมีเวลาส่งสารความเห็นส่วนทางเราขอเป็นกำลังใจกลับให้ทุกคน

เราไม่อยากเห็นคำว่า RIP Thailand แต่เรายังอยากให้ทุกคนทำลายความผิดหวังลงไปเรื่อยๆ และเปลี่ยนให้มันเป็นพลังเพื่อรักษาและเรียกร้องสิทธิ เสียง อำนาจการตรวจสอบที่ชอบธรรมของประชาชนอย่างพวกเราต่อไป

 

ขออย่าลืมว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ อาจเพราะเราต่างก็เคยคิดเหมือนกันว่า การเมืองเป็นเรื่องไกลตัว จนปล่อยให้อำนาจ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชนอย่างพวกเรา ถูกลิดรอนไปด้วยรถถังและกระบอกปืน โดยที่พวกเราหลายคนอาจจะไม่ได้คาดคิดว่า นั่นไม่ใช่ตอนจบของมหากาพย์หนังเรื่องเก่า หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการฉายซ้ำของความวิปโยคทางการเมือง

 

ไม่ต้องส่งกำลังใจให้เรา กว่าจะส่งมาถึงอาจจะหล่นอยู่แถวเทือกเขาเทียนชาน

ขอให้ช่วยส่งทั้งกำลังใจและความเข้าใจไปให้กับ พรรคอนาคตใหม่ ช่อ และเพื่อนคนอื่นๆ เหมือนที่พวกเราทำอยู่ตลอดนี้

 

และมาร่วมกันใช้ frame ที่ชื่อว่า "I'M WITH FWP" 
ไม่ใช้ไม่ว่ากันนะจ๊ะ เป็นตัวเลือกส่วนตัว ทุกเสียงที่แตกต่าง คือสัญญาณความเบ่งบานของประชาธิปไตย

 

เพื่อนช่อ โดดป้อง ปมภาพมิบังควร โยนบาป”ล่าแม่มด” งงโยงโซเชียลเป็นเครื่องมือทหาร