7 พรรคการเมืองอ้างประชาธิปไตย อ้างแผนเตรียมเป็นฝ่ายค้าน-เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ

12 มิ.ย.62  ตัวแทน 7 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย , พรรคอนาคตใหม่ , พรรคเสรีรวมไทย , พรรคเพื่อชาติ , พรรคประชาชาติ , พรรคเศรษฐกิจใหม่ , และพรรคพลังปวงชนไทย

 

อาทิ  พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ,นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย , นายปิยบุตร แสงกนกกุล. เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ , พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค พรรคเสรีรวมไทย ,นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นต้น

 

ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  การตั้งคณะกรรมการประสานงาน หรือ วิป เพื่อแบ่งบทบาทหน้าที่การทำงานในสภาฯ ทั้งการถ่วงดุลตรวจสอบ การลงมติต่างๆในที่ประชุม และการทำงานที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชน

 

ทั้งนี้ประชุมยังมีการหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนแก้ไขกติกาการเลือกตั้ง และแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา ทั้งการไม่ให้ ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี  พร้อมแนวทางการแก้ไขกติกาการเลือกตั้งจากระบบ "จัดสรรปันส่วนผสม" ที่ใช้บัตรใบเดียว กลับไปใช้ระบบเดิม นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการเสนอพิจารณาผลคำนวณคะแนนการได้มาซึ่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ของ คณะ กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่อาจจะมีการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หรือเข้าชื่อเสนอให้ประธานสภาตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ส. ด้วย

 

 

 

 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า การหารือในวันนี้เป็นการหารือถึงการทำงานที่ผ่านมาตั้งแต่การเลือกประธานสภา ซึ่งตั้งแต่วันนั้นเราไม่ได้มีการคุยกัน วันนี้เราจึงจะหารือกันถึงการทำงานในสภา การจัดระบบวิป และทิศทางการทำงานในสภาหลังจากนี้ ยืนยันว่า 7 พรรคยังยืนข้างประชาธิปไตย เรายังมีพันธสัญญาที่จะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา และยืนยันว่าไม่อยากเห็นการสืบทอดอำนาจซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นอกจากนี้ เราอยากเห็นการตั้งรัฐบาลโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน การทำงานของ 7 พรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่การชวนใครลงถนน แต่เป็นการประสานไปยังประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงเป้าหมาย และวิธีการทำงานของทั้ง 7 พรรค

 

 

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่เวลานี้คือผู้ที่เสียหายมากที่สุด เพราะคะแนนดิบที่นำมาคำนวนส.ส.พึงมีตามรัฐธรรมนูญเราต้องได้ส.ส.ถึง 89 คน แต่สุดท้ายโดนตัดเหลือเพียง 81 คน ซึ่งเราได้ดำเนินการยื่นคำร้องไปยัง 2 ช่องทาง คือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการ 3 เดือน และ กกต. ซึ่งตั้งแต่ยื่นไปเรื่องก็เงียบกริบ

 

ขณะที่พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวในที่ประชุมว่า ในส่วนของพรรคเสรีรวมไทย เตรียมที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อ กกต. หากตรวจสอบว่ามีความผิด เพื่อเรียกร้องความชอบธรรม