- 20 มิ.ย. 2562
กางผลคะแนนเลือกตั้งครั้งล่าสุด ดูคู่ชิงนายกฯอบจ.สงขลา!!! พลังประชารัฐวัดประชาธิปัตย์!?! แต่อย่ามองข้ามอนาคตใหม่ของธนาธร?!?
น่าจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตั้งกลุ่มทวงถามโควตาของด้ามขวานไทย ที่วันนี้มีข่าวล่ามาเร็วว่าทางพรรคพลังประชารัฐจะส่งตัวแทนกลุ่มนั่นคือ พันเอกสุชาติ ไปลงสมัครนายกฯอบจ.สงขลา หากเจ้าของเก้าอี้คนเก่า นิพนธ์ บุญญามณี ต้องลาออกไปเป็นรัฐมนตรี โดยการศึกครั้งนี้จะต้องไปวัดกับคนที่ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือเจ้าของตำแหน่งเดิมอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่มีข่าวแว่วออกมาแล้วว่าจะส่งใครในนามของพรรค กระนั้นที่ไม่อยากให้มองข้ามกับการเดินเกมการเมืองของอนาคตใหม่ โดยมีนายธนาธร เป็นตัวนำ ก็อย่าสนใจไม่น้อยที่มุ่งมั่นจะลงไปลุยการเมืองท้องถิ่นด้วย เรื่องนี้จึงอาจไม่ใช่แค่เรื่อง2พรรคใหญ่ แต่จะมีพรรคที่สามเข้ามาร่วมชิงชัยด้วยหรือไม่น่าติดตาม???
โดยเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมารายงานในส่วนของกลุ่มด้ามขวานไทย ซึ่งหลังจากตั้งโต๊ะแถลงทวงเก้าอี้ในส่วนโควตาภาคใต้ของ 13 ส.ส. มาวันนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า จะไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผู้ใหญ่ในพรรคได้รับปากกับแกนนำกลุ่มว่าจะดูแลโดยจะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนภาคใต้ ทำหน้าที่เป็นตัวประสานความต้องการจากในพื้นที่ไปยังกระทรวงต่างๆ
“ขณะที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำกลุ่มด้ามขวานไทย จากเดิมที่มีความประสงค์รับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคสนับสนุนให้ พ.อ.สุชาติ ให้ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยคู่แข่งคนสำคัญคือ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จากพรรคประชาธิปัตย์ และขณะนี้ผู้ใหญ่ในพรรคยังกำชับให้ ส.ส.และสมาชิกพรรค เตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นใน 6-7 จังหวัดภาคใต้เอาไว้เลยตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว”
ก่อนหน้านี้นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยถึงการลาออกจากนายก อบจ.สงขลา เพื่อมาเป็นรัฐมนตรีว่า ตนเองอยู่ในตำแหน่งมาเกือบ 6 ปีแล้ว เกินวาระแล้ว ซึ่งไม่มีการเลือกตั้งจนกว่าคณะกรรมกรรการเลือกตั้งจะประกาศให้มีการเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อตนลาออกก็ยังจะไม่มีการเลือกตั้ง โดยจะให้ปลัดจังหวัดจะมาปฏิบัติหน้าที่แทน จนกว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ
ด้านประวัติของพันเอกสุชาติ พันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล นั้นก็ต้องถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งในฐานะแกนนำกลุ่มด้ามขวานไทย และยังเป็นทั้งเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 รุ่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย ในอดีตเคยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา สังกัดพรรคความหวังใหม่ในปี2535 เป็นอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ สายการปกครองท้องถิ่น โดยสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ขณะบทบาทด้านการทหาร เคยดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 5และ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43 จังหวัดนราธิวาส ในช่วงปี พ.ศ. 2533 ถึง พ.ศ. 2535 ได้รับโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558 กระทั่งได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ก่อนจับมือกับนาย ชวน ชูจันทร์ ประธานประชาคมตลาดน้ำคลองลัดมะยมยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองในชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการนำพาพรรคพลังประชารัฐแย่งเก้าอี้ส.ส.มาจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ถึง 13 คน
และเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ตั้งชื่อกลุ่มตัวเองว่า “กลุ่มด้ามขวานไทย” ได้ทำพิธีเปิดป้ายที่ทำการกลุ่ม โดยมีนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.เขต 1 จังหวัดตรัง นายสายัณห์ ยุติธรรม นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นตัวแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มฯ ได้เสนอ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้เป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของ ส.ส.ใต้
ต่อมา นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเข้าร่วมการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีแต่อย่างใด ซึ่งตนได้สอบถามเพื่อน ส.ส.ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ของพรรค ก็ไม่เคยมีใครทราบเรื่องการต่อรองตำแหน่งทางการเมือง พวกตนมีความเชื่อมั่น และเคารพในความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเป็นผู้พิจารณาคนที่เหมาะสมในการบริหารประเทศ ทั้งนี้ตนเป็น ส.ส.คนหนึ่งของพรรค พปชร.ในภาคใต้ เป็น 1ในส.ส.13 คน ซึ่งในประเด็นเรื่องของการต่อรองตำแหน่งนั้น ยื่นยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยแต่อย่างใด
นี่เองทำให้สังคมภายนอกรับรู้ในทันทีว่า ในกลุ่ม 13 ส.ส.ภาคใต้ของพลังประชารัฐนั้น ทั้งหมดไม่ได้เห็นอะไรไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด พูดง่ายๆว่า ทั้ง13คนก็แบ่งออกเป็นกลุ่ม2กลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามสำหรับส.ส.จังหวัดชายแดนใต้ทั้ง3นั้น ก็ให้การสนับสนุนพลเอกประยุทธ์อย่างเต็มเปี่ยมเช่นกัน
กลับมาที่การชิงตำแหน่งนายกอบจ.สงขลา ที่แน่นอนว่านาทีนี้ คู่ชิงคือประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ ซึ่งหากย้อนกลับไปดูผลคะแนนในการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็พอเห็นร่องรอยของการต่อสู้ที่ดุเดือดกันมาแล้วระหว่างสองพรรคโดยมีพรรคอนาคตใหม่พยายามเบียดแทรกเข้ามา สำหรับผลการเลือกตั้งทั้งจังหวัด 8 เขตสงขลา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,068,299 คน ผู้มาใช้สิทธิ์ 786,945คน บัตรดี 722,987คน (91.87% บัตรเสีย 44,332คน (5.63%) ไม่ประสงค์ลงคะแนน 19,626คน (2.49%)
ผลการเลือกตั้งเขต 1 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 127,989 คน
พลังประชารัฐ
นาย วันชัย ปริญญาศิริ 37,134
ประชาธิปัตย์
นาย สรรเพชญ บุญญามณี 24,540
อนาคตใหม่
นาย ไพฑูรย์ สรรเสริญ 12,715
ผลการเลือกตั้งเขต 2 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 140,848 คน
พลังประชารัฐ
นาย ศาสตรา ศรีปาน 36,802
อนาคตใหม่
นาย อัครพล ทองพูน 19,040
ประชาธิปัตย์
นาย ภิรพล ลาภาโรจน์กิจ 18,903
ผลการเลือกตั้งเขต 3 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 140,302 คน
พลังประชารัฐ
นาย พยม พรหมเพชร 42,390
ประชาธิปัตย์
นาย วิรัตน์ กัลยาศิริ 22,857
อนาคตใหม่
นาย ฌาฆีภัตฐ์ เพชรคง 15,593
ผลการเลือกตั้งเขต 4 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 126,305 คน
พลังประชารัฐ
ร้อยตำรวจเอก อรุณ สวัสดี 31,913
ประชาธิปัตย์
นาย ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว 31,299
อนาคตใหม่
นาย อมรเทพ สังข์น้อย 7,070
ผลการเลือกตั้งเขต 5 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 147,869 คน
ประชาธิปัตย์
นาย เดชอิศม์ ขาวทอง 55,386
พลังประชารัฐ
นาย สมชาย เล่งหลัก 24,267
อนาคตใหม่
นาย อนุชิต พุทธโร 10,106
ผลการเลือกตั้งเขต 6 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 126,480 คน
ประชาธิปัตย์
นาย ถาวร เสนเนียม 28,465
พลังประชารัฐ
นาย สมปอง บริสุทธิ์ 19,317
ชาติไทยพัฒนา
นาย เฉลิม เหล่าสุวรรณ 13,864
ผลการเลือกตั้งเขต 7 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 123,697 คน
ภูมิใจไทย
นาย ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ 31,286
ประชาธิปัตย์
นาย ศิริโชค โสภา 25,140
พลังประชารัฐ
นาย เทียน ตันติวิริยภาพ 12,797
ผลการเลือกตั้งเขต 8 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 134,809 คน
ประชาธิปัตย์
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ 52,075
พลังประชารัฐ
นาย วสันต์ ชั่งหมาน 15,087
อนาคตใหม่
นาย อภิสิทธิ์ เพ็ชรประพันธ์ 9,966
ทั้งหมดนี้คือผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จาก8เขต ที่มีส.ส.ได้ 8คน ก็ปรากฏว่า พลังประชารัฐกวาดไป 4 ขณะประชาธิปัตย์ รั้งไว้ได้ 3 ส่วนอีก 1 หลุดให้กับพรรคภูมิใจไทย ขณะที่อนาคตใหม่ไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว กระนั้นก็ไม่ควรประมาทและมองข้ามเป็นอันขาด เพราะขณะนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ได้ประกาศแล้วว่า จะทำการเมืองท้องถิ่นอย่างเต็มที่ และก็ได้ลงพื้นที่แล้วด้วย ในขณะพรรคการเมืองอื่นยังมัวแต่แย่งโควตารัฐมนตรีกันอยู่!!!