- 02 ก.ค. 2562
ประยุทธ์แถลงเคลียร์คำพูด ไม่อยากใช้วิธีการแก้ปัญหาเดิมๆวอนอย่าคิดลึก ถามต่อไปมีไหมกลุ่มสามมิตร
จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยผู้สื่อข่าวขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายคำพูดที่ระบุว่า ไม่อยากใช้วิธีการแก้ปัญหาเดิมๆ ซึ่งมีการตีความว่าอาจมีการรัฐประหารขึ้นมาอีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ตีความลึกซึ้งขนาดนั้น ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าปัญหาเริ่มมาจากอะไร พอมีปัญหาเกิดขึ้นมา ในทางการเมืองก็เดินขบวน ขยายความรุนแรงกันมากขึ้น ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายกันมากขึ้น ทุกคนก็ไม่มีความสุข คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็เดือดร้อนไปด้วย ตนพูดเพียงแค่นั้น ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เหตุรุนแรง 10 ปีไม่เคยพูดความจริง!! นักการเมืองต้านคสช.เห็นแก่ได้ ใช้กรณี “จ่านิว” เคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ตัวเอง??
“ในเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการปฏิวัติซ้อน ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แท้กระทั่งผมเองที่ทำมา ผมก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ในวันนั้น ผมก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราจึงควรกลับมาแก้ปัญหาที่ถูกวิธีจะดีกว่า 5 ปีที่ผ่านมาก็ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน หลายอย่างก็ดี บางอย่างยังไม่เรียบร้อย แต่เราหยุดแค่นี้ไม่ได้ ไหนๆก็ทำมาถึงวันนี้แล้ว ทุกคนก็ต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ต้องช่วยกัน เราต้องปฏิรูปทุกอย่างให้ไปด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า เกิดจากปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มีความเห็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากถามว่าช้าอย่างไร ตนไม่เข้าใจ ถ้านับตามกรอบเวลาที่ผ่านมา ยังอยู่ในภายในกรอบเวลาการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย 90-150 วัน ที่ผ่านมา เรามีงานพระราชพิธี วันนี้จึงยังไม่ได้มีการผิดเพี้ยนจากรอบเวลาเดิมเลย ซึ่งมีการตั้งไว้ในเดือนกรกฎาคม ขอร้องว่าอย่าไปบิดเบือนอะไรกัน และขอให้เข้าใจด้วยว่า เราต้องแก้ปัญหาของเราให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาความขัดแย้งในพรรคพปชร. จะส่งผลกระทบต่อการตั้งครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ความขัดแย้งเกิดขึ้นกับทุกพรรคการเมือง เพียงแต่จะแสดงออกกันมาอย่างไร วันนี้ตนทราบว่ามีความก้าวหน้า ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ทางพรรคมีการแถลงออกมาแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกคน อย่าโกรธแค้นเคืองอะไรกันไป และขอร้องประชาชนอย่าคล้อยตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าคนไทยทุกคนมีความเข้าใจ และนักการเมืองเองก็ต้องเข้าใจ และถือว่าสิ่งที่เราทำให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยถือว่าเราได้เริ่มการปฏิรูปกันแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามกลไกและกติกา
"สำหรับผมเองก็เป็นธรรมดา รู้สึกไม่สบายใจบ้าง และได้พูดไปแล้ว แต่เมื่อวันนี้ทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็สบายใจ ขั้นตอนต่างๆก็ไม่ได้ติดชะงักตรงไหนแล้ว ขั้นตอนตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งด้านเอกสารและจากหน่วยงานภายนอก ท้ายสุด เมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นก็จะมีการรับรอง และให้เวลาแก้ไขปัญหาของตัวเองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้น หรืออะไรต่างๆ ก็ต้องให้เวลาดำเนินการ เมื่อแล้วเสร็จก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายขึ้นไป เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากนั้นจะขอพระราชทานวันเวลา เพื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งคิดว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกอย่างจะเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลอะไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาภายในของพรรคพปชร.นั้น ต้องถือว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ ถึงแม้จะมีคนเก่าๆอยู่หลายคน แต่การที่มีคนเดิมๆจากหลายพรรคมารวมกัน เพื่อขับเคลื่อนงานไปด้วยกันก็ย่อมมีปัญหาความขัดแย้งอยู่บ้าง และบังเอิญว่าสื่อให้ความสนใจ จึงกลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ แต่เชื่อว่าเดี๋ยวก็จบ เพราะฉะนั้นก็จบได้แล้ว ทั้งหมดถือเป็นเรื่องภายในของพรรคพปชร. และในฐานะที่ตนเป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อ เลือกให้เป็นนายกฯ ก็ได้ให้แนวทางไปแล้วว่า ต้องหากฎระเบียบต่างๆภายในพรรคเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยว่าอนาคตจะทำอย่างไรกันต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมๆขึ้นมาอีก ขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่าน อะไรที่เปลี่ยนแปลงบางครั้งก็มีปัญหา แต่วันนี้เข้าใจตรงกันแล้วก็จบ
“ซึ่งผมก็ลืมไปแล้ว ประชาชนก็ต้องให้ความเชื่อมั่นต่อไป ผมเองก็หวังให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่นในการทำงานเพื่อชาติและประชาชนต่อไปในอนาคต เราจะเดินหน้าต่อไป ทั้งด้วยกลไกทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญกฎหมาย และระเบียบของพรรค เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นในการทำงาน เพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อไปในอนาคต ก็หวังว่าจะร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้เมื่อถามว่า ครม.ยังไม่ทันตั้งเสร็จ แต่ในพรรคพลังประชารัฐมีความขัดแย้งกันมากจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลในวันข้างหน้าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “การตั้งครม.ในส่วนของผมเสร็จแล้ว และในพรรคพลังประชารัฐก็จบแล้ว เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อเสียงปริ่มน้ำ ไม่มี”
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่า วางกฎระเบียบในพรรคอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “ต้องดูในวันหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป กลุ่มต่างๆ พวกนี้จะมีหรือเปล่า มันควรจะเป็นพรรคมั้ง และเป็นมติของพรรค”