- 02 ก.ค. 2562
อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฏีกาชูชาติยกเหตุจอมพลถนอมยึดอำนาจรบ.ตนเองหลังสามมิตรทวงรมต.
จากกรณีส.ส.กลุ่มสามมิตร นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา นาคาศัย ได้นัดประชุมส.ส. อดีตกลุ่มสามมิตร หลังเกิดปัญหาการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี และภายหลังการหารือแล้วนั้น ทางแกนนำกลุ่มสามมิตร ได้ออกมานั่งแถลงโดยได้อ่านแถลงการณ์ที่ออกมาจากการหารือกันโดยแจ้งว่าเป็นจุดยืนดังนี้ นายสุริยะ ต้องนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะหากจะสลับไปตำแหน่งอื่นดูไม่มีเหตุผล รวมทั้งนายอนุชา ขอให้ไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเช่นเดิม รวมทั้งกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น
ล่าสุดนายชูชาติ ศรีแสง อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Chuchart Srisaeng" ระบุถึงเรื่องราวทางการเมืองครั้งสมัยจอมพลถนอม เมื่อ48ปีที่แล้ว ที่มาวันนี้ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์ที่คล้ายกับเรื่องราวในอดีตได้ย้อนหวนคืนมาอีกครั้งกับการที่มีกลุ่มการเมืองออกมาเรียกร้องตำแหน่ง และเมื่อเกิดความวุ่นวายขึ้น ก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องพิจารณาว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร พร้อมทั้งได้ชี้ให้สังคมเห็นว่าควรจะพิจารณาประเทศควรจะมีการปกครองแบบไหนที่จะเหมาะสมป้องกันนักการเมืองที่มีพฤติกรรมวุ่นวายกับการบริหารประเทศ
.....เมื่อคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวพรรคสหประชาไทย นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2512 ได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลของตนเองสาเหตุมาจาก ส.ส.ในพรรคได้เรียกร้องผลประโยชน์ตอบแทนต่าง ๆ เมื่อไม่ได้รับการตอบแทนดังที่ต้องการ ก็ได้ขู่ต่าง ๆ นานา เช่น จะลาออกจากพรรคเป็นต้น
.....เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐซึ่ง ส.ส.กลุ่มสามมิตรไม่พอใจที่บางคนไม่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงที่ตนเองต้องการ บางคนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีจึงประชุมกันมีมติให้ปลดเลขาธิการพรรคออกจากตำแหน่งเพราะไม่สนองความต้องการของกลุ่มสามมิตร
.....นับตั้งแต่ปี 2514 จนถึงปีนี้เป็นเวลา 48 ปี สิ่งต่างๆ ในประเทศไทยเปลี่ยนไปมากมาย แต่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยคือนักการเมืองบางคนบางกลุ่มของประเทศไทย
.....บุคคลเหล่านี้เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือของพวกพ้องและบริวาร เหมือนกับนักการเมืองเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ไม่เคยคิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมของประชาชนและประเทศชาติเลยแม้แต่นิดเดียว
.....นักการเมืองที่มีพฤติกรรมดังกล่าวมีทั้งที่เป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะเห็นได้จากฝ่ายค้านที่เคยเป็นฝ่ายรัฐบาลมาก่อนก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกันเลย
.....ทั้งการเปิดสมัยประชุมสภามาเกือบ 1 เดือน การประชุมสภาแต่ละนัดมีแต่หาเรื่องกล่าวหาว่าร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง โต้เถียงทะเลาะกันในเรื่องที่ไร้สาระ แทบจะไม่มีการประชุมที่มีการพิจารณาในเรื่องที่เป็นประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเลย
.....ขอเรียกร้องให้สังคมไทยพิจารณากันได้แล้วว่า ประเทศไทยสมควรมีการปกครองแบบไหน อย่างไร จึงจะเหมาะสมกับคนไทย ทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้เข้ามาวุ่นวายกับการบริหารราชการแผ่นดินด้วย