- 06 มิ.ย. 2563
ข่าวการหายตัวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แอดมินเพจที่หลบหนีคดีอาญา ไปอยู่ในประเทศกัมพูชา กลายเป็นประเด็นร้อนกล่าวหา ทั้งๆยังไม่รู้ความจริง
ถือเป็นประเด็นการเมืองหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ สำหรับข่าวการหายตัวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แอดมินเพจที่หลบหนีคดีอาญา ไปอยู่ในประเทศกัมพูชา แล้วถูกหยิบมาปั่นกระแสให้เกิดความเข้าใจอีกด้าน ทั้ง ๆ ที่โดยนัยมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวโยงในหลายมิติความเป็นไปได้ แม้กระทั่งกระบวนการขอลี้ภัย ในขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่รอช้าต่างนำเรื่องนี้ไปขยายเป็นปมร้อน เพื่อโจมตีรัฐบาล หน่วยความมั่นคง และอีกบางส่วนเลยเถิดไปถึงสถาบันเบื้องสูง
กรณีดังกล่าวถ้าไล่เรียงข้อมูล ต้องย้อนไปเริ่มต้นจากกที่สืบค้นว่า "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" เป็นใคร แล้วทำไมจึงมีการตีความว่าเป็นผู้ลี้ภัย พบว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. (ยศ ตำแหน่งในขณะนั้น) แถลงข่าวการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย ระบุข้อความตอนหนึ่งว่า " ตามที่มีบุคคลนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยได้มีการโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลในเพจเฟซบุ๊ก “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ”
จำนวน 2 โพสต์ ได้แก่ “ยาเสพติดระบาดหนักในหลายชุมชน จนท.ทหารหลายพื้นที่ ทำงานเป็นคนดูแลความสงบให้แก่พวกขายยา (กล่าวลอยๆ) โดยทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ ลองดูสิ เยอะจริงๆ ยกตัวอย่างแถวบ่อนไก่ก็ตำรวจ-ทหารเป็นหูเป็นตาให้ผู้ค้าเองด้วย ป.ป.ส.มาสืบเองก็คงมีข้อมูลแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ประชาชนในชุมชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง ลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นประจำ
นี่หรือคือยุคที่ คสช.อ้างว่าสงบสุข แต่ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ” และ “คสช. ตั้งเป้าดูด 300 หัว เพื่อมาสนับสนุนตนเอง และไม่ใช่ดูดธรรมดามีการจ่ายเงินค่าดูดและเจรจาพักคดีด้วยทีนี้ ท่านคิดกันเล่นๆดูว่าเงินค่าดูด มาจากไหน? ส่วนเท่าไหร่ จากไหน จากใครบ้าง ไว้จะเปิดเผยภายหน้า อิอิ” จากนั้น นำมาเป็นสื่อกระจายแก่บุคคลต่างๆ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้รับสื่อเกิดความตื่นตระหนก และหลงเชื่อได้ว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเพจเฟซบุ๊ก “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ได้ลงทะเบียนใช้ในชื่อบัญชี “Wanchalearm Satsaksit” จากการสืบสวนทราบว่า คือ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 35 ปี มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านปรากฏในจังหวัดอุบลราชธานี แต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าหลบหนีพักอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวในความผิดฐาน “นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง ระบุว่า นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เคยร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานสถาบันเยาวชนเพื่อไทย โดยมี น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย เป็นผู้อำนวยการสถาบัน ก่อนจะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ด้านการเผยแพร่ข่าวสารและประชาสัมพันธ์ ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 นายวันเฉลิม ซึ่งมีรายชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกคสช.เรียกรายงานตัว ตามคำสั่งที่ 44/2557 ก็เลือกหนีไปอาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แต่ยังคงแสดงความเห็นทางการเมือง ในลักษณะโจมตีการทำงานของรัฐบาลมาเป็นระยะ ๆ นานกว่า 6 ปี
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่ "เว็บประชาไท" นำมาเปิดเผยว่า ทางด้าน "เจน สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" พี่สาว ของ "นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า น้องชายถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโด ที่กรุงพนมเปญ เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 16.40 น. ที่ผ่านมา ขณะเดินลงมาซื้อลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโด พร้อมระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามเข้าไปช่วย แต่กลุ่มคนที่บุกกอุ้มตัวนายวัน เฉลิมมีอาวุธปืนด้วย
รวมถึงยังมีการอ้างถึง ว่า ทางด้าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กยืนยันว่า "วันเฉลิม" ผู้ลี้ภัยมาตรา 112 ถูกอุ้มขึ้นรถเก๋งหายไปหน้าห้องพักเขาที่กัมพูชาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
ขณะเดียวกันก็มีการเปิดเผยคลิปภาพวงจรปิด อ้างว่าเป็นกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่นานนักเครือข่ายทางการเมืองต่างก็หยิบประเด็นที่เกิดขึ้นไปขยายความในแง่มุมที่เป็นประโยชน์กับตนเอง โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่การดิสเครดิตรัฐบาล
อาทิ ช่อ พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่ทวิตข้อความว่า #saveวันเฉลิม ผู้นำอาเซียนควรร่วมมือกันปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน อย่าให้หลักการ “non-interference” หรือ “ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน” กลายเป็นช่องว่างให้เกิดการเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
และ #saveวันเฉลิม เขาไม่ใช่คนแรกที่ตกเป็นเหยื่อการบังคับสูญหาย และจะไม่ใช่คนสุดท้าย หากเรายังไม่ทำให้สังคมเห็นว่านี่คืออาชญากรรม นี่คือวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล
ขอทวงถามไปยังรัฐบาลไทย
1. ติดต่อรัฐบาลกัมพูชาหรือยังกรณีคนไทยถูกอุ้มหาย
2. เมื่อไหร่พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน/บังคับสูญหายจะเข้าสภา
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวหน้า หรือ อนาคตใหม่ (เดิม) ทวิตข้อความว่า รัฐบาลต้องรีบหาทางช่วยเหลือคุณวันเฉลิมอย่างเร่งด่วน ควรประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าคุณวันเฉลิมจะเป็นผู้ลี้ภัย แต่รัฐบาลก็มีพันธกรณีในการดูแลคนไทยทุกคนทั่วโลก การปล่อยปะละเลยเรื่องนี้จะเป็นตัวชี้วัดถึงความล้มเหลวของรัฐบาลนะครับ #saveวันเฉลิม
ไม่เว้นกระทั่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่โพสต์ข้อความบางช่วงตอนว่า "จนถึงตอนนี้ วันเฉลิมอาจมีชีวิตอยู่ ขอเชิญทุกคนมาร่วมเรียกร้องกดดันให้รัฐบาลทั้งสองประเทศนำวันเฉลิมกลับมาอย่างปลอดภัย มาร่วมกันยืนเคียงข้างความยุติธรรม เรียกร้องไม่ให้การอุ้มหาย และการข่มขู่คุกคามเพราะทัศนคติทางเมืองเกิดขึ้นอีก เรื่องของวันเฉลิมคือเรื่องของเราทุกคน
ส่วนครือข่ายแนวร่วมต้านรัฐบาล ที่เคยเคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกัน ก็พร้อมใจเปิดตัวให้สังคมได้รับรู้ว่า กลุ่มคนพวกนี้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันในรูปแบบไหน อย่างไร
โดยเฉพาะ สนง.แอมเนสตี้ฯ ถึงขั้นออกแถลงการณ์เรียกร้อง บางช่วงตอนของข้อความมีการพาดพิงกระบวนการยุติธรรมและกิจการภายในของไทยอย่างชัดเจน "ทางการกัมพูชาต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด หากพบตัวเขา ต้องไม่ส่งตัวกลับประเทศไทย เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกประหัตประหาร และหากวันเฉลิมถูกควบคุมตัวอยู่ ทางการกัมพูชาต้องยืนยันว่า เขาอยู่ในการควบคุมของทหารหรือตำรวจ หากเขาอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของรัฐ เราขอให้ทางการประกันว่า ได้มีการควบคุมตัวเขาในสถานที่ควบคุมตัวอย่างเป็นทางการ และอนุญาตให้เขาสามารถติดต่อทนายความอิสระ เข้าถึงบริการทางการแพทย์และติดต่อครอบครัวได้ทันที"
แต่ที่ดูเหมือนจะไปไกลสุด ก็คือ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ อดีตผู้ต้องหาตามความผิดมาตรา112 ถึงขั้นออกมาโพสต์ข้อความ สื่อให้เข้าใจว่า นายวันเฉลิมได้เสียชีวิตไปแล้ว และด้วยข้อมูลที่รู้ละเอียดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง
"หลับตาลงให้สนิทเถิดลูกรัก ก่อนหน้านี้ไม่นาน ตำรวจไทยไปที่บ้านเขาที่จังหวัดอุบลราชธานี ถัดมาเพียงสัปดาห์เดียววันที่ 4 มิถุนายน 2563 เวลาราว 17.00 เขาถูกอุ้มจับใส่รถยนต์ Toyota Highlander สีน้ำเงินเข้ม มีคนร้ายอยู่ 4 – 5 คนที่หน้าคอนโด มีคนพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกคนร้ายชักปืนขึ้นขู่ ริมถนน National Road 6 ในเขตอำเภอ Chrouy Chungvar กรุงพนมเปญ
เพื่อนคนหนึ่งโทรศัพท์ขณะที่เขาโดนอุ้ม ได้ยินเสียงตึงตังของการดิ้นรนที่คาดว่า เขาอยู่ในรถแล้วถูกคลุมด้วยถุงดำ ทำให้เขาร้องออกมาว่า “หายใจไม่ออก” คาดว่า คนร้ายเป็นชาวไทยร่วมมือกับคนเขมรท้องถิ่นที่มีทักษะการอุ้มฆ่าเป็นอย่างดี โดยนำรถยนต์มาจอดเฝ้าดูจนกระทั่ง "Wanchalearm Satsaksit" หรือ ต้า ลงจากคอนโดมาซื้อลูกชิ้นปิ้งหน้าร้านมินิมาร์ท ใช้เวลาเข้าไปชาร์ทตัวเขาไม่ถึง 10 นาที"
อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าชะตากรรมของนายวันเฉลิมเป็นอย่างไร และเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ค "ปราชญ์ สามสี" ตั้งข้อสังเกตุในเชิงตั้งคำถามต่อเหตุกรณีดังกล่าวว่า "สมยศพ่อของแฟน วันเฉลิม รีบออกมาบอกว่า ลูกเขยเสียชีวิตจากการถูกอุ้มแล้ว เลยออกมาเรียกร้อง ”ความเป็นธรรม” แต่ เพนกวิ้น แกนนำเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายต่อต้านรัฐบาล อ้างว่า ต้องการกดดันรัฐบาลให้ “ปล่อยตัว” ดูแล้วโคตรสับสน??
อ่านโพสต์ของกลุ่มขบวนการล้มเจ้าที่ ออกมารายงานข่าวแล้วสับสนมาก เกิดเหตุ 17.45น เป๊ะ ๆ คือเวลาที่คุยกับเหยื่อ หรือโดนทุบ? ไหนบอกว่า โจร ทุบหัวเวลา 17.45น. ตกลงเวลาเขมร หรือเวลาไทย?
เห็นบอกว่า โดนอุ้ม สรุป โดนอุ้มด้วยวิธีใด ?ใส่ถุงคลุมหัว. โดนตีหัว โดนเอาปืนจี้. โดนมีดจี้ ตกลงโดนอะไรกันแน่?... แล้วโดนตีหัวหลังคลุมหัวหรือ คลุมหัวก่อนตีหัว? ทำไมพยานที่คุยโทรศัพท์ ที่ได้ยินแค่เสียง. หายใจไม่ออก ถึงทราบว่า โดนถุงคลุม. มีมากี่คน มีอาวุธแบบใด?
พยานที่อยู่ปลายสาย รู้ได้ไงว่าผู้อุ้มเชี่ยวชาญอุ้มฆ่า? ได้ยินเสียงว่า มืออุ้มเป็นคนเขมร แล้วมีหลักฐานใด โยงมาประเทศไทย? ทราบเจตนาของคนอุ้มได้อย่างไร? มีคนโทรมาข่มขู่? มีคนโจรมาขอเรียกเงิน?
มีข้อมูลทั้งรูปกล้องวงจรปิด ภาพเหยื่อที่นั่งเล่นอยู่ล๊อบบี้ และรถที่ขับออกไป แต่ไม่มีภาพคนร้าย? รู้รุ่นรถยนต์และสี แต่ไม่ทราบทะเบียน? แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่า เหยื่อยู่ในรถ? โดนอุ้มที่ไหนแน่? ริมถนน หรือ ว่าในห้องคอนโด.?
มั่นใจได้อย่างไรว่า รถคันดังกล่าวออกนอกประเทศกัมพูชาแล้ว? ออกด่านกัมพูชาที่ไหน เวลาใด? ถ้าไม่ออกจากกัมพูชา แล้วทราบได้อย่างไรว่า มีเป้าหมายกลับมาที่ไทย?
แล้วตายเวลาไหน ตายตอนไหน อุ้มไปหายไปแล้วฆ่าทิ้งแล้วเจอศพ หรือ ว่าหายสาปสูญไม่ทราบชะตากรรม รู้ได้ไงว่าตายแล้ว? แต่ พอมาดู ในบทสัมภาษณ์ ของพี่สาวที่เป็นพยานในสายโทรศัพท์ ก็ตอบคำถามบางข้อ เช่น สถานที่ พี่สาวบอกคือ หน้าคอนโดกำลังซื้อลูกชิ้นปิ้ง แต่ ก็ยิ่งน่าสงสัย ยิ่งขึ้น คือ หากโดนอุ้มที่หน้าคอนโดจริง
ทำไมไม่ร้องหาคนช่วย? แล้วได้ยินว่าเหยื่อ พูดว่าโอ๊ยหายใจไม่ออก เป็นสิบนาที ถ้าจริงคงตายตรงนั้นแล้ว! แล้วปลายสายทราบได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายมีอาวุธครบมือ ? ได้ยินเสียง ชาวต่างชาติเป็น แบ็คกราวด์ ทราบได้อย่างไรว่าเป็นเสียงผู้ร้าย ไม่ใช่เสียง พ่อค้าลูกชิ้น ที่ยืนตกใจจังก้าตรงนั้น
หลักฐานที่วันเฉลิมเคยส่งมาว่า มีชายไม่ทราบสัญชาติติดตามเขา ก็แสดงว่าเขามีกล้องวงจรปิดในที่พักอาศัย. ทำไมไม่มีภาพ เหล่านั้น แล้ว สรุป ตกลง ตายหรือยังไม่ตาย
เพราะถ้าแกล้งตาย แล้วแป๊กมันกลับมาฟื้นไม่ได้นะครับ มันตลก แล้วถ้าหากเกิดเหตุ เหยื่อหายที่กัมพูชา ไปแจ้งความที่ตำรวจกัมพูชาแล้วยัง?( พี่สาว บอกว่าแจ้งแล้ว จริงไหม?) คุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลฮุนเซนยัง. ตม.ยัง ตายแล้วศพอยู่ไหน? ถ้ายังไม่ตาย เจ้าตัวอยู่ไหน? แล้วจับไปทำอะไร เรียกค่าไถ่? จริงๆ ควรมาร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ไม่ใช่ไปกล่าวหา ว่ารัฐที่นั้นที่นี่เป็นคนทำ ... มันผิดวิสัย!!!
สำคัญที่สุด "ปราขญ์ สามสี" เน้นย้ำว่าการหนีคดีต่าง ๆ ของ นายวันเฉลิม ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดในมาตรา 112 ตามที่ขบวนการล้มเจ้าพยายามจับแพะชนแกะแต่อย่างใด
ขณะที่ สำนักข่าว AFP เปิดเผยข้อมูลการให้ สัมภาษณ์ นายชาย กิม เคือน โฆษกตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ว่า “เราไม่รู้เรื่องนี้ แล้วจะให้เราสืบสวนเรื่องอะไร” เช่นเดียวกับ นายเขียว โสเพียก โฆษกกระทรวงมหาดไทย กัมพูชา ระบุว่า “เราไม่รู้ว่าฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ข้อมูลมาจากที่ไหน ข้างนอกนั่นมีข่าวปลอม(เฟคนิวส์) เต็มไปหมด”