หมอวรงค์ ซัดก้าวหน้าแจงไม่เคลียร์ เข้าข่ายฉ้อโกง ย้ำถามเงินเมย์เดย์หายไปไหน โอนให้ 15 อวตาร

ยังคงเป็นกระแสทางการเมือง จากกรณีคณะก้าวหน้าเปิดรับบริจาคเงิน  ผ่านกิจกรรมโครงการ “คอนเสิร์ตระดมทุน เมย์เดย์เมย์เดย์ เราช่วยกัน” โดยระบุว่าเงื่อนไขในการดำเนินงาน ว่า 1.เงินจากการบริจาคเท่าไหร่ เราจะส่งมอบให้คนที่ขอรับสิทธิ์ทั้งหมด 2. ไม่ใช่เงินของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ เงินของคณะก้าวหน้า เพราะจริงๆแล้วเป็นเงินของประชาชนที่ช่วยกันบริจาคเข้ามา3. การบริจาคทำผ่านบัญชีเดียวเท่านั้น คือ บัญชีเลขที่ 4094500058 ชื่อบัญชี น.ส.พรรณิการ์ วานิช ธนาคารไทยพาณิชย์ ใครอยากโอนเพื่อช่วยประชาชนยังสามารถโอนมาได้ตลอดเวลา เป็นต้น  จนต่อมากลายเป็นปัญหาว่าเงินจำนวนกว่า 7 ล้านได้มา ถูกนำไปมอบให้ใครบ้าง  ถึงขั้นมีการยื่นร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :   "บุญเกื้อ" ลุยชน "ช่อ พรรณิการ์"    ขึ้นโรงพักร้องสอบเงินบริจาค เมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้าน คณะก้าวหน้าส่อพิรุธ )

ขณะที่ก่อนหน้านั้น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม  อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) เป็นบุคคลหนึ่งที่เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น  ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้เป็นลำดับผ่านเฟซบุ๊ก อาทิเช่น

 

 

"หยุดหลอกประชาชนผมแอบให้กำลังใจคุณบุญเกื้อ ที่กล้าท้าทายคุณช่อ หลังจากที่คุณช่อให้ลบโพสต์ภายใน 24 ชม. ถ้าไม่ลบให้ไปเจอที่ศาลเกิน 24 ชม. เข้าวันที่สามแล้ว ทำไมคุณช่อเงียบ รวมทั้งนายธนาธร และนายปิยบุตรก็เงียบ ทั้งๆที่ทำให้คณะก้าวหน้าเสียหายมาก

 

ผมจึงสรุปว่า
1.การโอนเงิน 3,000 บาท ตามรายชื่อ 2,427 รายชื่อ มีบางรายชื่อ แต่งขึ้นเองไม่มีบุคคลจริง 
2.มีผลให้การโอนเงิน บางรายการไม่มีการโอนจริง
3.ถ้าบางรายการไม่มีการโอนจริง เงินที่เหลือไปอยู่ไหน?
ถึงเวลาที่นายธนาธรต้องชี้แจงแล้วครับ!!
"ราษฎรทั้งหลาย ทำไมจึงยอมให้คนกลุ่มนี้หลอกลวงราษฎร"
#หยุดหลอกประชาชน
#ตรวจสอบเงินโอนจำนำข้าวยากกว่าเงินโอนเมย์เดย์เมย์เดย์ทำมาแล้ว
#คนแบบนี้เหรอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ"

 

จากนั้นได้โพสต์เพิ่มเติมว่า "กล้ารับคำท้าพิสูจน์ไหม ผมขอกล่าวหา ท้าพิสูจน์ความจริง เพื่อความโปร่งใสของคณะก้าวหน้า ภายใต้การนำของคุณธนาธร คุณปิยบุตรและคุณช่อ  ผมกล่าวหาว่า โครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ ที่คณะก้าวหน้ารับบริจาคมา7.2 ล้านบาท และอ้างว่ามอบเงินให้กับประชาชน ไม่ต้องพิสูจน์ความจน 2,427 รายนั้น ได้ไม่ครบจริงตามรายชื่อที่อ้าง  พร้อมรับคำท้าพิสูจน์ไหมครับ คุณธนาธร คุณปิยบุตรและคุณช่อ........ติดตามรายละเอียดตอนต่อไปพรุ่งนี้เช้า ได้ที่เพจ:Warong Dechgitvigrom เช่นเคย รบกวนเพื่อนๆช่วยสื่อสาร ถึงพวกเขาด้วยครับ เพราะสังเกตดูว่า ช่วงนี้พวกเขาดูเงียบผิดปกติ#ตามหาเสตทเม้น #กล้ารับคำท้าพิสูจน์ไหม #หยุดโกหกประชาชน

รวมถึงข้อความว่า "เมย์เดย์เมย์เดย์!!!!นี่คือ 15 รายชื่อ จากการตรวจสอบแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ที่สงสัยว่าไม่ได้มีการโอนเงินจริง (สุ่มตรวจจากรายชื่อที่คณะก้าวหน้าประกาศ 2,427 รายชื่อ)
1.กชกร สวยสด
2.กมลพร ปัตคาเคนัง
3.กอบกุล โพธิ์ร
4.เชาวเลิศ หัวลึก 
5.ญฑริกา มาลารัตน์ 
6.ณัฐพล หนุ่มแน่ 
7.เทพวรรณ สุขสุสินธุ์ 
8.พยนต์ ภาสดา 
9.ริฎวัล สานานะอะ 
10.ละมัยพร การี 
11.วันทนา โอภาษี 
12.วารินทร์ บุญเตร์ 
13.วิทย์สรัช อรรฮาด 
14.สุทธิ บ็อซซาแอร์ท 
15.สุวิจักขน์ อภัย 

แต่ทางคณะก้าวหน้า ภายใต้การนำของนายธนาธร นายปิยบุตร และช่อ ผู้จัดกิจกรรมเมย์เดย์เมย์เดย์ ยืนยันว่าโอนเงินครบ และพร้อมชี้แจง  เพื่อความโปร่งใส และเป็นการเมืองแบบใหม่ ผมจึงขอให้แสดงเสตทเม้นให้ครบแค่ 15 ชื่อนี้พอครับ ไม่เอามาก เพราะจะได้ง่ายแก่การตรวจสอบสำหรับทุกฝ่าย ที่สำคัญ หลักฐานการโอนเงิน ควรจะเป็นการโอน ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนเท่านั้น ถ้าเป็นเดือนกรกฎาคมถือว่าโอนย้อนหลัง และอย่ามาอ้างว่ารับเงินสดนะครับ"

 

ก่อนจะระบุว่า  "ด่วน...โอนเงินให้อวตาร  ผมได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า รายชื่อ 15 รายชื่อ ที่ขอดูเสตทเม้นการโอนเงินจากคณะก้าวหน้า ตามที่ขอล้วนแล้วแต่เป็นอวตาร ไม่มีตัวตนจริงในโลกใบนี้ แต่ถ้าคณะก้าวหน้า ภายใต้การนำของธนาธร ปิยบุตรและช่อ แสดงเสตทเม้น ที่มีรายชื่อให้ดูได้ ผมก็พร้อมจะตรวจสอบ ขอย้ำว่า นี่เป็นการตรวจสอบ ที่นำหลักฐานรายชื่อมาแสดง ไม่ได้กล่าวลอยๆและเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ที่สำคัญเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ต้องโปร่งใส ให้ตรวจสอบได้ครับ#โอนเงินให้อวตาร#เมย์เดย์เมย์เดย์ลวงโลก#ฉ้อโกงประชาชน

 

ขณะเดียวกันทางคณะก้าวหน้าก็ออกแถลงการณ์ชี้แจงในเรื่องนี้  " แถลงการณ์คณะก้าวหน้า กรณีเงินระดมทุนจากโครงการ เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน  เมื่อวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2563 คณะก้าวหน้าได้จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตระดมทุน “เมย์เดย์-เมย์เดย์ เราช่วยกัน” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยสนับสนุนศิลปินและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเงินที่ใช้ในการจ้างศิลปินและจัดงานทั้งหมด เป็นเงินจากคณะก้าวหน้า ส่วนรายได้จากการระดมทุนทั้งหมด นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รายละ 3,000 บาท โดยใช้หลักการถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจน ให้ทุกคนที่แสดงความประสงค์ขอรับเงินผ่านทางแฟนเพจคณะก้าวหน้าตามกติกาที่เรากำหนด"  

 

 

(คลิกอ่านข้อมูลประกอบ : https://www.facebook.com/ThailandProgressiveMovement/photos/a.109214624048142/206516280984642/?type=3&theater)

 

 

ล่าสุด นพ.วรงค์ ได้ให้สัมภาษณ์ย้ำระหว่างร่วมทำบุญครบรอบวันเกิด นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย  ว่า  กรณีการเปิดรับเงินบริจาคของคณะก้าวหน้า เป็นกรณีที่ต้องตรวจสอบ  เข้าข่ายฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่   เนื่องจากมีลักษณะยักยอก   เงินบริจาคจากการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ "เมย์เดย์ -เมย์เดย์"  ที่จัดขึ้นเพื่อรับบริจาคเงิน  ไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  คนละ 3,000 บาท เป็นจำนวน 2,427 คน  แต่ปรากฎว่ามีความไม่ปกติในขั้นตอนดำเนินการ  ทั้ง ๆ ที่นักการเมือง หรือพรรคการเมืองต้องโปร่งใสกับประชาชน    แต่จากการตรวจสอบ  พบว่ารายชื่อทั้ง 15 คนที่โอนเงินให้นั้น เป็นอวตาร ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้  จึงต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเงินส่วนดังกล่าวหายไปไหน  คือถ้ามีการอ้างว่าโอนไปตามรายชื่อ ก็ต้องมีหลักฐานรายละเอียดว่าโอนไปที่ใด  

 

 

"สิ่งที่ตนสงสัยคือเงินส่วนนี้หายไปไหน หากไม่ได้ทำตามที่ประสงค์ไว้ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ และถ้าหากคณะก้าวหน้ามีหลักฐานการโอนจริง ๆ ให้นำหลักฐานมาแสดง   เช่นเดียวกับผู้ที่บริจาคเงิน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย ดังนั้นสามารถไปแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะโครงการนี้เป็นเชิญชวนประชาชนมาบริจาค เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก ดังนั้นถ้าไม่ทำกับตามที่ประกาศ ก็เท่ากับกำลังฉ้อโกงประชาชน"

ส่วนการที่คณะก้าวหน้า  ออกแถลงการณ์เปิดเผยสเตทเม้นท์ส่วนหนึ่ง   ตนได้ติดตามดูแล้ว   แต่จริงๆต้องการแค่ 15 รายชื่อที่ระบุไว้   เพราะรายละเอียดอย่างอื่นในทางการเมือง  ถือว่าเป็นแค่การเฉไฉ   ถ้ารายชื่อที่ได้รับการโอนเงินจริง มีหลักฐานจริงจากธนาคาร ก็ควรนำมาแสดงว่ามีการโอนเงินไปให้กับผู้เดือดร้อนจริง  

 

ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมจัดตั้งกลุ่มการเมือง   ภายหลังลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย  นพ.วรงค์  กล่าวว่า  ได้มีการพูดคุยหารือในกลุ่มตลอด  แต่จะไม่เร่งดำเนินการใด ๆ เพราะมองว่าการเมืองจะยังคงเป็นไปในลักษณะนี้อีก 2-3 ปี  ส่วนอนาคตนั้นยังจะต้องรอประเมินผลก่อน   ถ้าเป็นกลุ่มและไม่มีผลงาน  ก็จะยังไม่ตั้งพรรคการเมือง  เนื่องจากการตั้งพรรคการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมาก ขณะที่การทำกลุ่มการเมืองนั้นไม่ต้องใช้เงิน  โดยตนยืนยันยังคงเป็นนักการเมือง ที่พร้อมลงรับสมัครเลือกตั้งในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง  ส่วนนโยบายทางการเมืองในมุมมองของตนเอง  คือ การนำข้อเท็จจริงมาสู้ คือ สัญลักษณ์มือ “วิตรรกมุทรา” การใช้เหตุใช้ผล หรือ ความรู้นำไปสู่ปัญญา จึงสอดคล้องกับแนวคิดของตน ในการจัดตั้งกลุ่มการเมืองเพื่อให้ความรู้ประชาชนด้วย