- 15 ก.ค. 2563
เบื้องหลังอ้างตัวแทนชาวระยอง โหนกระแสโควิด สวมรอยการเมืองไล่นายกฯตู่
สืบเนื่องจากการที่มีกลุ่มบุคคลระบุตัวเองว่า เป็นตัวแทนประชาชน ตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจ นำโดย น.ส.ธัชญา จวงสันทัด และ น.ส.พรพรรณ เภตรารัตน์ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกข้อยกเว้นแก่บุคคลต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยโดยการไม่กักตัว 14 วัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
โดย น.ส.ธัชญา ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่พบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ทำ ให้เวลานี้ไม่ว่าชาวระยองจะไปสถานที่ใด กลับถูกมองว่าเป็นตัวเชื้อโรค ทั้งที่ชาวระยองให้ความร่วมมือป้องกันและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขด้วยดีมาตลอด และไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นเวลากว่า 100 วัน เมื่อผ่อนคลายมาตรการก็เดินหน้าประกอบอาชีพ หลังจากที่ถูกล็อกดาวน์พร้อมกับจังหวัดอื่นๆ ทำให้ช่วงเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมาไม่มีรายได้ แต่เราก็อดทนทำตามทุกอย่าง แต่การที่รัฐบาลและ ศบค. ปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้ามาโดยไม่กักตัว เป็นสิ่งที่เรายอมรับไม่ได้ และต้องถามว่าคนเหล่านี้มีอภิสิทธิ์อย่างไร หรือมีการแบ่งชนชั้นหรืออย่างไร
ที่ผ่านมาให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการย้ำว่าการ์ดอย่าตก เราไม่ต้องการการขอโทษ แต่ต้องการให้ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม และยกเลิกข้อยกเว้นให้ชาวต่างชาติเข้ามาโดยไม่กักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้นว่าจะเป็นแขกของใคร หรือเป็นคนสำคัญขนาดไหนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้กับพื้นที่อื่นอีก ซึ่งข้อผิดพลาดของ ศบค. และรัฐบาล ถึงแม้จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ก็คงไม่เพียงพอ และ เราอยากจะบอกว่าถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป เพราะอายคนไทย อายคนต่างประเทศ ที่ไม่สามารถควบคุมและแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้จะเดินทางไปยื่นเรื่องที่สถานทูตอียิปต์ เพื่อให้ออกมาร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
"เราจะไม่ได้มาเรียกร้องการเยียวยาใดๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันแก้ไขอะไรไม่ได้นอกจากรออีก 14 วัน ซึ่งเป็น 14 วันนรกของชาวระยอง ว่าเราจะต้องกลับไปนับ 1 กันใหม่ หรือไปต่อได้ แต่เราต้องการความรับผิดชอบในการกระทำจากรัฐบาล และ ศบค. ว่าจะไม่นำเข้าชาวต่างชาติมาโดยไม่ได้รับการกักกัน 14 วันอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ
ขณะที่จากการตรวจสอบพบว่า ในอดีตการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า น.ส.ธัชญา จวงสันทัด มีชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และได้คะแนนเป็นอันดับ 2 จำนวน 24,602 คะแนน โดยเป็นการพ่ายแพ้ให้กับ นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ 35,436 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นนายภีม กฤษณะราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ 20,542 คะแนน
ต่อมา น.ส.ธัชญา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ด้วยปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค เนื่องมาจากการคัดเลือกผู้สมัครลงสนามการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับ อบจ. พร้อมทั้งมีการโพสต์ขอความในเฟซบุ๊ก “ถ้าพ่อของฟ้าได้เป็นนายก.. บ้านเมืองอาจเละกว่าลุงตู่อีก เชื่อเหอะ..พี่เจอประสบการณ์อันเจ็บปวดมาแล้ว.... สนิมอย่างพวกเราไม่มีใส่สีตีไข่ ไม่ได้โจมตี แค่พวกเราไม่อยากแสดงละคร เบื่อการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ สรรหาแต่วลีคำพูดสวยหรูให้คนทั้งประเทศได้ฟัง หลอกประชาชนที่เค้ามีสมองไปไม่ได้แล้ว”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะลาออกจากพรรคอนาคตใหม่แล้ว แต่ น.ส.ธัญญา ก็ยังเคลื่อนไหวและแสดงความเห็นทางการเมือง ไปในทางตรงข้ามกับรัฐบาลพล.ประยุทธ์ ในทุกมิติและต่อเนื่องมาโดยตลอด รวมถึงเหตุกรณีที่เกิดขึ้นกับจังหวัดระยองรอบล่าสุด
นอกจากนี้กับการแแสดงปฏิกริยาของกลุ่มวัยรุ่น ที่อ้างตัวเป็นผู้ที่ต้องการแสดงความเห็นทางการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวระยอง แล้วเกิดประเด็นปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลนรักษาความสงบเรียบร้อย ปรากฎว่าในโลกโซเชียลมีการนำเสนอข้อมูล และ ภาพ เป็นข้อสังเกตุ อาจทำให้เข้าใจได้ว่า เบื้องหลังแท้จริงก็คือ กลุ่มที่ทำงานการเมืองร่วมกับสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ที่มีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ “เพนกวิน” เป็นแกนนำ หรือไม่?? ประเด็นสำตัญคือสิ่งที่โลกโซเชียลทำให้เหินพฤติการณ์ที่ผ่านมาของคนกลุ่มนี้
นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความว่า "การไประยองครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ซึ่งประโยชน์สิ้นดี เพราะไม่กล้าไปเจอหน้าประชาชน ที่อยากถามประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีว่า “ท่านจะรับผิดชอบและมีมาตรการเยียวยาอย่างไร?” ผมขอเป็นกำลังใจและยืนเคียงข้าง #คนระยองไม่ยอมจำนนครับ"
ทั้งที่โดยข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนความเห็นกับนักธุรกิจเจ้าของโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนทักทายพ่อค้า แม่ค้า ประชาชน โดยรอบตลาดสดสตาร์ อ.เมือง จ.ระยอง อย่างเป็นกันเองก่อนเดินทางกลับ