- 27 ก.ค. 2563
ล่าสุด พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า "ผมเคยโพสต์เมื่อเกือบสิบปีแล้วว่าขบวนการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์จะล้างสมองตั้งแต่เด็กในวัยเรียนเมื่อเริ่มใช้คอมพิวเตอร์เป็นแล้วจะอาศัยสังคมออนไลน์ปลูกฝังความจงเกลียดจงชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าทุกครอบครัวใส่ใจบุตรหลานของตน ถ้าทุกสถาบันการศึกษาทั้งรัฐและเอกชนใส่ใจการคัดสรรครูอาจารย์ที่มีทัศนะที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นแม่แบบของนักเรียนนักศึกษา ถ้าทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจริงจังคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานและกล้าปลดข้าราชการชั่วออกไปเสียจากระบบราชการ ให้โอกาสคนดีที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มีงานมีความเจริญก้าวหน้ามีโอกาสในสังคม ความสงบเรียบร้อยภายในชาติก็คงจะไม่สามานย์เช่นนี้
ยังเป็นประเด็นร้อนที่ประชาชนชาวไทยจับตา การกรณีที่ "กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH" ในการเรียกร้อง 3 ข้อต่อรัฐบาล ท่ามกลางภาพแทรกซ้อนแสดงให้เห็นว่าม็อบที่จัดตั้งขึ้นนี้มีอีกหนึ่งอุดมการณ์ความผิดแฝงเร้น ต่อการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์สอดแทรกอยู่ด้วย ซึ่งนับวันเวลาผ่านไปดูเหมือนว่า ประเด็นนี้จะยิ่งลุกลามและทวีคูณในด้านลบมากขึ้น
ล่าสุด พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า "ผมเคยโพสต์เมื่อเกือบสิบปีแล้วว่าขบวนการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์จะล้างสมองตั้งแต่เด็กในวัยเรียนเมื่อเริ่มใช้คอมพิวเตอร์เป็นแล้วจะอาศัยสังคมออนไลน์ปลูกฝังความจงเกลียดจงชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าทุกครอบครัวใส่ใจบุตรหลานของตน ถ้าทุกสถาบันการศึกษาทั้งรัฐและเอกชนใส่ใจการคัดสรรครูอาจารย์ที่มีทัศนะที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นแม่แบบของนักเรียนนักศึกษา ถ้าทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจริงจังคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานและกล้าปลดข้าราชการชั่วออกไปเสียจากระบบราชการ ให้โอกาสคนดีที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มีงานมีความเจริญก้าวหน้ามีโอกาสในสังคม ความสงบเรียบร้อยภายในชาติก็คงจะไม่สามานย์เช่นนี้
มีหัวโจกและแนวร่วมขบวนการจัญไรขู่ว่าหากไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมและครอบครัวจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้ ผมไม่เคยถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ไม่เคยใกล้ชิดพระเจ้าแผ่นดินตลอดจนทุกพระองค์ในพระบรมวงศานุวงศ์ ไม่เคยได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานเหรียญตราหรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ใดๆ และผมขอประกาศให้ทราบทั่วกัน ณ ที่นี้ว่า "หากราชอาณาจักรไทยไม่มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นพระประมุข ผมก็จะไม่ดำรงชีวิตอยู่บนแผ่นดินใหม่ที่เป็นสาธารณรัฐจัญไรหรอกครับ แต่ผมจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ดังคำสัตย์ปฏิญาณของผมที่ถวายต่อจอมทัพภูมิพลมหาราช"
ผมไม่มีความเป็นห่วงใดๆต่อครอบครัวของผม เพราะครอบครัวเรามีศักยภาพพอที่จะสามารถใช้ชีวิตในหลายประเทศโดยไม่จำเป็นต้องขอสถานะผู้ลี้ภัย แต่หากต้องเป็นเช่นนั้นจริง ผมและครอบครัวถือว่าตระกูลของเราได้ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณราชวงศ์จักรีที่มีต่อบรรพบุรุษของเรามาตั้งแต่รัชสมัยพระนั่งเกล้าฯ เรากลับจะต้องภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่ไม่เคยเนรคุณและได้ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่เป็นพระบรมโพธิสมภาณจนครอบครัวของเรามีวันนี้ ...แต่ผมเป็นคนเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นดำรงความมุ่งหมายครับ ถ้าจะเกิดมิคสัญญีบนราชอาณาจักรไทยมีการใช้กำลังความรุนแรงประหัตประหารเพื่อล้มล้างพระเจ้าแผ่นดินเมื่อไหร่ เมื่อนั้นผมจะประกาศจัดตั้ง 'กองทัพประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์' ทันที คนอย่างผมไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว และผมเชื่อมั่นว่าเขาทั้งหลายจะร่วมรบกับผมเพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผมยึดหลักนิยมการรักษาความมั่นคงของชาติในสถานการณ์ปกติด้วยการไม่ประหัตประหารชีวิตใคร ผมจะใช้หลักนิยมในการต่อสู้ด้วย 'มาตรการสังคม' ต่อต้านคนจัญไรเพื่อจำกัดขอบเขตการดำรงชีวิตในสังคมของคนเหล่านี้ ผมจะไม่ใช้ ม.112 นะครับ...ผมจะจัดการข้าราชการเลวๆเพื่อเป็นตัวอย่างให้ได้มี 'อนาคตใหม่ ได้ก้าวไกล' ไปกับความเพ้อเจ้อเพ้อฝันด้วยการทำให้คนจัญไรเหล่านี้ "หมดอนาคตและก้าวไกลจนตกเหวนรกทั้งเป็น"...และผมจะทำไปเรื่อยๆ จัดการไปเรื่อยๆ และทำเป็นงานอดิเรกของผมครับ
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
27 ก.ค.63 เวลา 11.55 น.
หมายเหตุ ถ้าโพสต์ของผมห่างหายไป ก็เพราะติดภารกิจงานประจำนะครับ ว่างเมื่อไหร่ก็กลับมาใหม่ แบบภาพยนต์ ตอน Batman return นั่นแหละครับ"
นอกจากนี้ พลตรี นพ.เหรียญทอง โพสต์เพิ่มเติมว่า "สถานการณ์ที่ขบวนการบั่นทอนเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องการมากที่สุด คือ "สถานการณ์ทำร้ายเยาวชน" ดังนั้นการยั่วยุโดยเยาวชนถือป้ายหรือโพสต์จาบจ้วงหยาบคายต่อพระเจ้าแผ่นดินจึงเป็นกลยุทธ์ยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงที่ผู้บงการและแกนนำขบวนการปรารถนาที่สุด...ท่านทั้งหลายจะไม่มีวันได้เห็นผู้บงการหรือแกนนำขบวนการออกมานำทัพเองอย่างเด็ดขาด หัวโจกที่ปรากฎตัวในที่ชุมนุมเป็นเพียงตัวละครแสดงเท่านั้นครับ
ผมขอให้ประชาชนอดทนอดกลั้นไว้ หน่วยงานความมั่นคงนั้นอดทนอดกลั้นอยู่แล้วและจะไม่มีวันใช้กำลังประหัตประหารใดๆหรอกครับ...คนไทยที่จงรักภักดีต้องอดทนอดกลั้นกันด้วยนะครับ...ผมมีทางออกให้ทุกท่านดังนี้ครับ
1. ทุกๆครอบครัวต้องเอาใจใส่ลูกหลานของท่านอย่างยิ่งยวด
2. ม๊อบเยาวชนถึงจะก้าวร้าวยั่วยุแต่จะไม่ยืดเยื้อ ไม่อึด ไม่ทรหดครับ
3. ภาคประชาชนคนจงรักภักดีต้องใช้ 'มาตรการสังคม' กดดันหน่วยงานรัฐหรือเอกชนจัดการข้าราชการชั่วและคนจัญไรในบริษัทห้างร้านเอกชนที่มีอาชีพการงานการค้าเพื่อให้ตกงานหรือหมดอนาคตจากการเข้าร่วมกิจกรรมจัญไร ทยอยจัดการไปเรื่อยๆ เชือดปลาซิวปลาสร้อยไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ อึดเข้าไว้ ยั่วยุมากเท่าไหร่ ปลาซิวปลาสร้อยก็หมดอนาคตถูกสอยไปเรื่อยๆ...ช้อนปลาซิวปลาสร้อยตัวจิ๋วนี่แหละดีครับ...เพราะเวลามันโดน ไม่เคยมีใครที่ออกมาช่วยมันได้ มันจะได้รู้กันว่ามันเดือดร้อนแล้วใครเล่าจะช่วยมัน
4. อย่าคาดหวังให้หน่วยงานความมั่นคงบังคับใช้กฎหมายนะครับ สถานการณ์นี้หน่วยงานความมั่นคงจำใจต้องนิ่งเท่านั้น ...แต่ปลดข้าราชการจัญไรเป็นระยะๆ บ่อยๆได้นะครับ และสมควรทำอย่างมากๆด้วย
5. ในที่สุดจะมีการสร้าง "สถานการณ์เหตุรุนแรงทำร้ายชีวิตเยาวชน" โดยอ้างว่าเป็นปฏิบัติการจากภาครัฐ เรื่องนี้ผมเชื่อมั่นว่าหน่วยงานความมั่นคงติดตามกันอยู่แล้วครับ"