สุวินัย ซัดกลับเดือด 105 อาจารย์โผล่หนุน 10 ข้อเสนอก้าวล่วงพระราชอำนาจ

ถือเป็นความหมิ่นเหม่ไม่รู้จักจบสิ้นสืบเนื่องจากการจัดเวทีชุมนุมทางการเมือง แต่เนื้อหาการปลุกระดมก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายมิติ ต่อมามีกลุ่มคณาจารย์จำนวนหนึ่ง ออกมาลงชื่อรับรองว่าการแสดงออกดังกล่าว เป็นเรื่องเหมาะสม ไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงยังอ้างไปในแนวทางเดียวกับกลุ่มเคลื่อนไหวล้มล้าง ว่า ข้อเสนอ 10 ข้อของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นการธำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และเป็นความกล้าหาญในการพูดถึงประเด็นที่มีความอ่อนไหวในสังคมไทย

ถือเป็นความหมิ่นเหม่ไม่รู้จักจบสิ้นสืบเนื่องจากการจัดเวทีชุมนุมทางการเมือง แต่เนื้อหาการปลุกระดมก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายมิติ  ต่อมามีกลุ่มคณาจารย์จำนวนหนึ่ง ออกมาลงชื่อรับรองว่าการแสดงออกดังกล่าว เป็นเรื่องเหมาะสม ไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงยังอ้างไปในแนวทางเดียวกับกลุ่มเคลื่อนไหวล้มล้าง ว่า  ข้อเสนอ 10 ข้อของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  เป็นการธำรงไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และเป็นความกล้าหาญในการพูดถึงประเด็นที่มีความอ่อนไหวในสังคมไทย

ล่าสุด ศาสตราจารย์ ดร. ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ รศ. ดร. สุวินัย ภรณวลัย   อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นที่เกิดขึ้นในหัวข้อ " ข้อเสนอ 10 ประการของเด็ก กับ ข้อสนับสนุนของ 105 อาจารย์"   มีใจความสำคัญดังนี้    ในฐานะที่เราสองคนเคยประกอบอาชีพเช่นเดียวกับพวกคุณจึงขอใช้สิทธิเสรีภาพบ้าง

(1) ประเด็นเรื่องการแสดงออกของเด็กที่ธรรมศาสตร์รังสิต เป็นเสรีภาพที่ปราศจากหน้าที่ความรับผิดชอบ แล้วพวกคุณที่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะไปให้ท้ายเด็กว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปได้อย่างไร?

ประเทศไทยถ้าจะว่าไปแล้วมั่นคงมาโดยตลอดก็ด้วยปัจจัยหลายประการแต่ที่สำคัญลำดับต้นก็คงไม่พ้นเรื่อง "สถาบัน" เพราะมันก่อให้เกิด ทุนทางสังคม (Social Capital) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 

การมี "สถาบัน"อยู่ในสังคมมันเป็นของดี เพราะหมายถึง การมีขอบเขต (Limit) ที่สังคมยอมรับให้กระทำได้ ดังนั้นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทยจึงไม่สามารถเป็น "สถาบัน" ให้ประชาชนยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้เพราะการกระทำของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองที่ผ่านมาเป็นไปในลักษณะของการไร้ซึ่งขอบเขต หรือพูดได้ว่าทำตามอำเภอใจ

ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้วจะไปล้มล้าง "สถาบัน" ที่เป็นของดีอยู่คู่บ้านเมืองมานานไปด้วยเหตุอันใด มีสถาบันย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน มีเหตุผลใดที่ต้องไปถกเถียงจำกัดขอบเขตสิ่งดีเล่า?

(2) ข้อเสนอ 10 ประการของเด็ก (ที่ผู้ใหญ่เป่าหูมาโดยตลอด) จึงเป็นการบ่อนทำลายสถาบันนี้โดยตรง

เสรีภาพในการแสดงออกจึงมิใช่เช่นที่ผ่านมา มันขาดความรับผิดชอบ ไม่ได้เสนอทางออกอันใดที่ดีกว่าเอาไว้ให้เลยแม้แต่น้อย มองไม่ต่างจากนักการเมืองที่ชอบ "ทุบ ทำลาย และสร้างใหม่" (วัฒนธรรมคอนกรีต) เพราะรื้อสร้างใหม่มันดูดีมีผลงาน ต่างจากการอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้ที่คนมักไม่สนใจ

 (3) สำหรับ 105 อาจารย์ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำไมพวกคุณจึงใจร้ายไปให้ท้ายเด็กในทางที่ผิดเช่นนี้เล่า?

พวกคุณทำตัวราวกับเป็นหุ่นยนตร์หรือเครื่องจักรที่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า "สามัญสำนึก" จะมาถกเถียงในเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่เคารพรักไปทำไม มันต่างจากการให้ใครก็ไม่รู้มาด่าว่าบุพการีของคนอื่นที่ตรงไหน? พวกคุณทำตัวเป็นเกลือที่ไม่รู้จักความเค็มโดยแท้ เท่าที่ดูจากรายชื่อส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการ/พนักงานของมหาวิทยาลัย พวกคุณไม่รู้เลยหรือว่าเงื่อนไขการจ้างข้อสำคัญคือ "เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" 

ขณะที่รัฐธรรมนูญก็เป็นกติกาที่ทุกคนต้องยอมรับ ถ้าจะไม่รับไม่ปฏิบัติตามโดยอ้างว่าไม่พอใจในเงื่อนไขบางอย่างที่คนส่วนใหญ่เขายอมรับ ประพฤติตัวเยี่ยงนี้ถือว่าเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่? หรือว่าประชาธิปไตยต้องเป็นแบบที่พวกคุณเห็นชอบด้วยเท่านั้นหรือ?

 

สุวินัย ซัดกลับเดือด 105 อาจารย์โผล่หนุน 10 ข้อเสนอก้าวล่วงพระราชอำนาจ

(4)  คิดเฉพาะ​จำนวนอาจารย์มหาวิทยาลัยในประเทศไทย ... อาจารย์ 105​ คนจาก​ 39,430​ คน คืออยู่ที่​ 0.26% เท่านั้น 

อาจารย์​ 0.26% จากอาจารย์ทั้งหมด​ กำลังอ้าง​"สถานะพิเศษ" ของตนเอง​เพื่อสนับสนุนข้อเสนอที่บอกว่าไม่ควรมีใครมีสถานะพิเศษในสังคมไทย ถ้านี่เป็นข้อสอบวิชาการใช้เหตุผล​ อักษรศาสตร์​ จุฬาฯ​ ปี​ 1​ ควรจะเฉลยคำตอบว่าอะไร? พวกคุณประกาศตัวเรียกร้อง "ประชาธิปไตย"  แสดงตัวสนับสนุนม็อบเยาวชนปลดแอกที่ท้าชนสถาบันกษัตริย์อย่างเปิดเผย ... ถ้าพวกคุณร้อนวิชาอยากเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่เสียงส่วนน้อยถึงน้อยมาก​ ก็ควรหัดเกรงใจคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้บ้าง

(5)  ถ้าพวกคุณจะซื่อสัตย์กับตัวเองก็ควรลาออกไปเพราะพวกคุณไม่ได้เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแต่ประการใด

ไปเป็นเสรีชนเถิดจะดีกว่าไหม?
เพราะการลงชื่อในแถลงการณ์ฉบับนี้ของพวกคุณมีนัยยะทางการเมืองที่ต่างจากการร่วมลงชื่อในแถลงการณ์อื่นๆที่พวกคุณเคยลงชื่อมาทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง หมึกหยดเดียวที่เซ็นชื่อลงไปในสัญญาย่อมมีผลตามกฏหมายทันทีฉันใด  การเข้าร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ฉบับนี้ของพวกคุณก็ย่อมมีผลเยี่ยงนั้น ... หลังจากนี้พวกคุณก็ต้อง "รับผิดชอบ" สิ่งที่จะตามมาด้วยเช่นกันเหมือนม็อบเยาวชนปลดแอก


 หมายเหตุ : อาจารย์/อดีตอาจารย์/ประชาชนท่านใดต้องการลงนามคัดค้านการชุมนุมและข้อเรียกร้องของกลุ่ม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน"
โปรดแจ้งมาที่ หมอตุลย์ [email protected] ระบุชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง และสถานที่ทำงาน/สังกัดด้วยครับ ขอบคุณครับ"

 

สุวินัย ซัดกลับเดือด 105 อาจารย์โผล่หนุน 10 ข้อเสนอก้าวล่วงพระราชอำนาจ

สุวินัย ซัดกลับเดือด 105 อาจารย์โผล่หนุน 10 ข้อเสนอก้าวล่วงพระราชอำนาจ