- 14 ส.ค. 2563
ล่าสุด นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความ ผ่านเพซบุ๊ก ทนายอานนท์ นำภา - Arnon Nampa โดยมีเนื้อหาข้อความว่า "จดหมายถึงน้องๆ ที่คิดถึงทุกคน ถ้าน้องๆ ได้อ่านจดหมายฉบับนี้หวังว่าทุกคนคงสบายดี พี่อยู่ทางนี้ก็ยังมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่แข็งแรงพอสมควร ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองในช่วงนี้คงบีบคั้นและกดดันทุกคนพอสมควร แต่พี่ก็หวังว่าทุกคนจะสามารถประคับประคองหัวใจของนักต่อสู้และผ่านมันไปได้
ถึงแม้จะได้รับการประกันตัว เพราะตัดสินใจพลิกคำพูดก่อนหน้า ว่าพร้อมจะติดคุก และประกาศจะยังคงร่วมชุมนุมทางการเมือง เฉพาะที่ไม่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีลักษณะยุยง ปลุกระดม แต่ปรากฎว่า นายอานนท์ นำภา แกนนำพลเมืองโต้กลับ แสดงทีท่าจะนำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นประเด็นปราศรัยต่อไป ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และ อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรม ว่าพยายามจะจำกัดสิทธิเสรีภาพ การแสดงออกในประเด็นดังกล่าว
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : อานนท์เปิดใจหลังรอดคุก ปิยบุตรแขวะศาล โดนใช้เป็นเครื่องมือปิดปาก วิจารณ์สถาบันฯ )
กระทั่งต่อมา ในเพจฟซบุ๊กของ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง ได้นำเสนอชุดความคิดอีกด้าน เพื่อประกอบการพิจารณาในพฤติกรรมของนายอานนท์ และ พวกที่พยายามเชื่อมโยงการชุมนุมทางการเมือง โดยการหยิบยกประเด็นเรื่องสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นหัวข้อการปลุกระดมมวลชน แฝงเร้นอยู่ในข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ "เลิกอ้าง/เลิกโทษสถาบันกษัตริย์ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองเสียที"
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : กิตติธัช ซัดหนัก อานนท์ หยุดมั่วกล่าวหา สถาบันพระมหากษัตริย์ )
ล่าสุด นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความ ผ่านเพซบุ๊ก ทนายอานนท์ นำภา - Arnon Nampa โดยมีเนื้อหาข้อความว่า "จดหมายถึงน้องๆ ที่คิดถึงทุกคน ถ้าน้องๆ ได้อ่านจดหมายฉบับนี้หวังว่าทุกคนคงสบายดี พี่อยู่ทางนี้ก็ยังมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่แข็งแรงพอสมควร ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองในช่วงนี้คงบีบคั้นและกดดันทุกคนพอสมควร แต่พี่ก็หวังว่าทุกคนจะสามารถประคับประคองหัวใจของนักต่อสู้และผ่านมันไปได้
โดยเฉพาะเพนกวิน ,ไมค์ ,รุ้ง และ ทัตเทพ และแกนนำนักศึกษาทุกคน เราเดินทางไกลมาด้วยกันระหว่างทางต้องประสบบาดแผลมากมาย ขอให้ทุกคนมีกำลังใจและความมุ่งมั่นในการต่อสู้ พี่สัญญาว่าถ้าเราได้เจอกันจะซื้อไส้ย่างมาย่างให้กินซัก 3 กิโล ฝากความคิดถึงไปยังแก๊งค์ป้าๆ ด้วย ทั้งป้านก ป้ารุน ลุงทองและอีกหลายหลายคน หวังว่าแผลของป้านกที่เกิดจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. จะหายแล้ว ขอให้รักษาสุขภาพแล้วมาเจอกันวันที่ 16 ส.ค.นี้ ที่ราชดำเนิน
สำหรับกิจกรรมที่ร้อยเอ็ดพรุ่งนี้ ฝากทนายแบ้ง ทนายอานนท์น้อย ทนายเค ทนายแฮปปี้ และเพื่อนๆ ทนายที่ร้อยเอ็ดทุกคน ดูแลน้องๆ ด้วย อย่าให้เสียชื่อลูกเขียวแสดนะโว้ย
คิดถึงทุกคน
อานนท์ นำภา"
ก่อนหน้านั้น นายอานนท์ นำภา ยังได้โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกว่า "ต้องถือว่าเราได้รับชัยชนะไปอีกขั้นหนึ่งสำหรับการนำประเด็นปัญหาการขยายพระราชอำนาจของสถาบันกษัตริย์จากเดิมซึ่งถูกซุกอยู่ใต้พรมให้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดบนโต๊ะอย่างเปิดเผยและต่อสาธารณะ"
แน่นอนว่าในช่วงแรกย่อมได้รับแรงเสียดทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าเมื่อสิ้นความขมุกขมัว ทุกคนในสังคมย่อมเห็นปัญหาร่วมกันและเห็นด้วยกับข้อเสนอของนักศึกษาที่ได้เสนออย่างตรงไปตรงมาในวันนั้น
ถึงนาทีนี้ ยังไม่มีใครที่สามารถโต้แย้งได้ว่าข้อเสนอทั้ง 10 ประการนั้น มีส่วนใดผิดกฏหมายและเป็นข้อเสนอที่เกินเลยไปกว่าระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้อนุญาติเอาไว้ จะมีก็แต่การกล่าวหาที่เลื่อนลอยและใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นที่ตั้ง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฝ่ายที่ยังไม่เห็นด้วยกับเราจะใช้สติและปล่อยวางความรู้สึกโกรธแค้นลง แล้วใช้หัวใจที่เป็นธรรมและเป็นกลางในการขบคิดกับข้อเสนอทั้ง 10 ประการ
สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่กำลังคิดหาวิธีจัดการกับพวกเราด้วยวิธีการอันป่าเถื่อนทั้งในนามของความรุนแรงและในนามของกฎหมาย ขอให้พวกท่านได้ตรึกตรองและขบคิดกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยตอนนี้ อยากให้พวกท่านทั้งหลายได้ยอมรับความจริงว่าปัญหาการขยายพระราชอำนาจนั้นมันกระทบต่อประชาชนทุกคนรวมทั้งตัวท่านเอง หาทางออกร่วมกันครับ ประเทศนี้เป็นของพวกเราทุกคนเท่าๆกัน
ขอบคุณสำหรับทุกกกำลังใจและในห้วงเวลาอันบีบคั้นนี้ พวกเราจะผ่านมันไปด้วยกัน
อานนท์ นำภา
13 สิงหาคม 2563"