ทนายณฐพร แจ้งความปอท. เอาผิดม็อบมธ. โดนหมดผู้บริหาร ยันคนจัดเวที แย้มมีหลักฐาน พรรคการเมือง อยู่เบื้องหลัง

ยังคงเกาะติดสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่องจากกรณีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ใช้เวทีการชุมนุมทางการเมือง  ยื่นข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ และ เปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหาษัตริย์ในหลายประเด็น   จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์และเคลื่อนไหวตอบโต้กลับจากหลายฝ่าย  กระทั่งเกิดความหวั่นเกรงจะนำไปสู่การปะทะของคนไทยกันเองรอบใหม่  โดยมีนักการเมืองบางกลุ่มที่เคยแสดงออก ถึงทัศนติเพื่อนำไปสู่เปลี่ยนแปลงการปกครอง  ออกมาสนับสนุนการกระทำในครั้งนี้

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :   ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา ก้าวไกล หนุนเต็มสูบ 10 ข้อม็อบมธ.เรียกร้องพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่อาชญากรรม ไม่ใช่การล้มล้าง )

ล่าสุด ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษา ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท./ โฆษก บก.ปอท. พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปอท.  เพื่อให้ดำเนินคดีกับแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุม ฯ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 

 

 

ด้าน นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะทนายความ นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเพื่อแสดงความเห็นต่างทางการเมือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะแกนนำ และกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุม รวมทั้ง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ , ผู้ประกอบการเวทีที่ใช้จัดงาน  และผู้ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนในการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวในวันดังกล่าว

 

ทั้งนี้ นายณฐพร ยืนยันว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการล่วงละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560  และยังมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า อาจจะ มีพรรคการเมืองหนึ่ง ช่วยเหลือสนับสนุนการจัดกิจกรรม ครั้งนี้ด้วย

 

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ส่วนตัวจะช่วยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่มีลักษณะเข้าข่ายการกระทำความผิด ซึ่งหากพบว่า มีกลุ่มบุคคลใดที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือในการกระทำผิด จะขอให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จึงขอใช้ช่องทางนี้ในการเอาผิดตามกฏหมาย

 

นายณฐพร ยังยืนยันว่า ขณะนี้มีข้อมูลกลุ่มผู้สนับสนุน ประมาณ 3 ถึง 4 คน ที่มีหลักฐานการใช้โทรศัพท์ติดต่อประสานงานกันในการจัดชุมนุม นอกจากนี้ ยังพบ หลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการโอนเงิน ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้  ดังนั้น จึงขอให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการเอาผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ กฏหมายมาตรา 116 ฐานยุยง ปลุกปั่นฯ

 

ขณะที่ พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก. ปอท. เปิดเผยว่า ในส่วนของการดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจ ปอท.  สามารถสืบสวนสอบสวนคดีได้ทันที/ส่วนความผิดฐานอื่นๆ ตำรวจท้องที่ ที่พบการกระทำผิด สามารถดำเนินการสอบสวนได้เช่นกัน