- 19 ส.ค. 2563
ล่าสุด ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ชัชวาล ปี่ทอง รอง ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับ 6 แกนนำกิจกรรมธรรมศาสตร์จะไม่ทน โดยมี 1.นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก 3.นายอานนท์ นำภา 4.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายธนวัฒน์ จันผลึก (พิธีกร) 6.นายสิทธิ์นนท์ ทรงศิริ (พิธีกร)
ตามติดต่อเนื่องเหตุกรณีการชุมนุมทางการเมือง โดยปรากฎว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้มีการปล่อยให้กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ที่ใช้ชื่อว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และกลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสรีเทยพลัส ฯลฯ จัดกิจกรรมการชุมนุมในชื่อ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” และสโลแกนการชุมนุมว่า “เราไม่ต้องการปฏิรูปแต่เราต้องการปฏิวัติ” ดำเนินการปราศรัยเข้าข่าย จาบจ้วง ล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูง รวมทั้งยังมีการนำคลิปของผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ที่ลี้ภัยไปในต่างประเทศ มาเผยแพร่ต่อสาธารณะ
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : อดีตรองอธิการบดี มธ. ซัดตรงๆผิดชัดปล่อยใช้ชื่อ ธรรมศาสตร์ ชุมนุมจาบจ้วง แปลกใจ อานนท์ รอดผิดม.112 )
โดยก่อนหน้านี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดธัญบุรี ขอออกหมายจับ 6 แกนนำ ประกอบด้วย 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก 3.นายอานนท์ นำภา 4.น.ส.ณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายธนวัฒน์ จันผลึก แล ะ6.นายสิทธิ์นนท์ ทรงศิริ
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : ตร.ขออนุมัติหมายจับ 6 แกนนำม็อบมธ. เพนกวินพล่านพาดพิงสถาบันฯ )
ล่าสุด ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ชัชวาล ปี่ทอง รอง ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับ 6 แกนนำกิจกรรมธรรมศาสตร์จะไม่ทน โดยมี 1.นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก 3.นายอานนท์ นำภา 4.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายธนวัฒน์ จันผลึก (พิธีกร) 6.นายสิทธิ์นนท์ ทรงศิริ (พิธีกร)
ด้าน พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้ตรงกัน และทราบรายละเอียดถึงที่มาและความเป็นไป จึงนำเรียนพี่น้องสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา มีการจัดชุมนุมทางการเมือง โดยนิสิตนักศึกษาและประชาชน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต บริเวณลานพญานาค
จากการตรวจสอบได้พบว่าได้รับการอนุญาตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ในเบื้องต้นเราได้ทำการสืบสวนตั้งแต่ก่อนที่จะมีการจัดเวที จนกระทั่งมีการตั้งเวที และมีการเริ่มกิจกรรม มีฝ่ายสืบสวน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยหลายฝ่ายเข้าไปดำเนินการรวบรวมเก็บพยานหลักฐาน ต่อมามีผู้มากล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนสภคลองหลวง ว่าการจัดการชุมนุม และมีการปราศรัย บนเวที การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เป็นความผิดตามกฎหมายกล่าวโทษ เพื่อขอให้พนักงานสอบสวน ได้สอบสวนดำเนินคดี เพื่อให้ผู้กระทำผิดต่าง ๆ ได้รับโทษตามกฎหมาย ทางพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้พิจารณาแล้ว และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่ง ฟังได้ว่าสิ่งที่ผู้มากล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนั้น เข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมาย จึงได้รับคำร้องทุกข์ ไว้ตามคดีอาญาที่ 2013/2563 ของ สภ.คลองหลวง
หลังจากนั้นได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานได้ระยะหนึ่ง ได้ร้องขอให้กองบังคับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนของจังหวัดขึ้นมา เนื่องจากว่ามีพยานหลักฐานเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันมากมายหลายท้องที่ อาจจะทำให้พนักงานของ สภ.คลองหลวง สอบสวนดำเนินคดีแล้วล่าช้า หรืออาจจะรวบรวมพยานหลักฐานได้ไม่เพียงพอ ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จึงได้ออกคำสั่ง 220/2563 ลงวันที่ 12 สิงหาคม ตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาโดยมี พ.ต.อ.ประเวทย์ ต้นสมบูรณ์ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนร่วมกับทีมงาน เพื่อทำงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตามที่มีผู้ได้มากล่าวโทษ และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้
จนกระทั่งต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่พอฟังได้ว่าผู้ต้องหาทั้งหลายได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับ โดยศาลธัญบุรีได้พิจารณาแล้ว จึงได้ออกหมายจับ ทั้ง 6 คน ในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ พรบ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง และพรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งฐานความผิดเหล่านี้ได้ปรากฏโดยการจัดกิจกรรมบนเวทีการเมืองของกลุ่มผู้จัดในวันนั้น ผู้ต้องหาที่ขอหมายจับไปจำนวน 6 คน ซึ่งเชื่อว่าพี่น้องสื่อมวลชนได้มีรายชื่ออยู่แล้ว โดยเป็นไปตามนั้น
ขอยืนยันว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานการสอบสวนดำเนินคดีทั้งหลายทั้งปวง เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมาย ทำไปโดยสุจริต โปร่งใสเป็นธรรม ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ให้คนอื่นหรือบุคคลใดได้รับความเสียหาย