- 20 ส.ค. 2563
ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังระหว่างสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 8 กรณี ร่วมเป็นแกนนำกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 และ นายอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยปลุกปั่น ในกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 จากนั้นทนายความได้ทำเรื่องยื่นขอประกันตัว และศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย โดยมีกลุ่มส.ส.พรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ร่วมกันใช้ตำแหน่งประกันตัว
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เข้าควบคุมตัว นายอานนท์ นำภา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีมาตรา 116 จากการทำกิจกรรมปราศรัยทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย นายอานนท์ โดนรวบขณะเดินทางไปว่าความที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค. ก่อนถูกนำตัวมาควบคุมที่ สน.ชนะสงคราม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว - อานนท์ นำภา โดนรวบอีกหนึ่งหมายจับ สวมบทพ่อมด จัดอีเว้นท์ ยุยง ปลุกปั่น
ต่อมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม คุมตัวนายอานนท์ นำภา แกนนำคณะประชาชนปลดแอก มาฝากขังครั้งแรกยังศาลอาญาแล้วนั้น ในส่วนคำร้องฝากขังนายอานนท์นั้น พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 นายอานนท์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมชุมนุมได้ขึ้นปราศรัยต่อหน้าผู้ชุมนุม โดยมีสาระเนื้อหากล่าวพาดพิงและโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ผู้ชุมนุมคล้อยตามและเกลียดชังและต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ที่เป็นการปลุกปั่นประชาชน นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความชักชวนให้ประชาชนมาชุมนุมในที่เกิดเหตุ
อ่านข่าว - อาการหนักสุด! เปิดคำร้องตร. ค้านประกันตัว อานนท์ นำภา ปราศรัยโจมตีสถาบันฯ
ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังระหว่างสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 8 กรณี ร่วมเป็นแกนนำกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 และ นายอานนท์ นำภา กรณีปราศรัยปลุกปั่น ในกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 จากนั้นทนายความได้ทำเรื่องยื่นขอประกันตัว และศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย โดยมีกลุ่มส.ส.พรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ร่วมกันใช้ตำแหน่งประกันตัว
จากนั้นทนายความได้ทำเรื่องยื่นขอประกันตัว และศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย โดยมีกลุ่ม 3 ส.ส.พรรคก้าวไกล 2 ส.ส. เพื่อไทย และ 4 นักวิชาการ ร่วมกันใช้ตำแหน่งประกันตัว ในสัญญาประกัน 100,000 บาท โดยไม่ต้องวางหลักประกัน
พร้อมกันนี้ ศาลยังกำหนดเงื่อนไขว่าห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นจะให้ถือว่าผิดสัญญาประกัน
ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงข่าวกรณีจับกุมแกนนำทำกิจกรรมชุมนุมในห้วงวันที่ 19 - 20 ส.ค.63 ณ ลานแถลงข่าว ชั้น 1 อาคาร บช.น. โดยมีเนื้อหาดังนี้
ด้วยวันที่ 19 - 20 ส.ค.63 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ทำการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมชุมนุมต่าง ๆ ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับศาลอาญา มีรายละเอียด ดังนี้
1. กรณีการจัดกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.63 เพื่อเรียกร้อง
ในประเด็นต่าง ๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บางส่วนของการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ได้มี
การแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ชนะสงคราม ต่อมาปรากฏหลักฐานตามสมควรว่า นายอานนท์ นำภา หนึ่งในผู้ปราศรัย ได้กระทำความผิดอาญา เป็นกรณีที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับและศาลได้ออกหมายจับตามกรณีดังกล่าว
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัว นายอานนท์ นำภา ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 ส.ค.63 ในข้อหา
- กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ
- เป็นผู้ร่วมจัดการชุมนุมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะฯ
- ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ
- นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ
นำตัวส่ง สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา
1. กรณีการจัดกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.63 เพื่อเรียกร้องในประเด็นต่างๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งในการจัดกิจกรรมมีการกระทำผิดกฎหมาย ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรว่ามีแกนนำหลายรายได้กระทำความผิดอาญา เป็นกรณีที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับและศาลได้ออกหมายจับตามกรณีดังกล่าว โดยได้มีการจับกุมแกนนำในห้วงก่อนหน้านี้ไปแล้ว จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์
เมื่อวันที่ 19 - 20 ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวแกนนำตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 ส.ค.63 เพิ่มเติมอีก จำนวน 8 ราย ได้แก่
1) นางสุวรรณา ตาลเหล็ก
2) นายบารมี ชัยรัตน์
3) นายกรกช แสงเย็นพันธ์
4) นายทศพร สินสมบุญ
5) นายเดชาธร บำรุงเมือง
6) นายธานี สะสม
7) นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์
8) นายธนายุทธ ณ อยุธยา
โดยเป็นการจับกุมในข้อหา
- ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ
- ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ
- ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคฯ
- ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรฯ
- ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรฯ
- ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนนฯ
- ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ (ทุกรายยกเว้น นายทศพร สินสมบุญ)
- นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ (เฉพาะนายทศพรสินสมบุญ)
นำตัวส่ง สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา
บช.น. ขอเรียนให้ทราบว่า การดำเนินคดีและการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุม ได้ให้แพทย์ตรวจร่างกาย แจ้งสิทธิ และควบคุมตัวตามกฎหมาย