- 25 ส.ค. 2563
จากกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มีมติเห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนขอบกองทัพเรือ (ทร.) เพิ่มเติมอีก 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
จากกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มีมติเห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนขอบกองทัพเรือ (ทร.) เพิ่มเติมอีก 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
กระทั่ง พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ แถลงข่าวกรณีการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพเรือ โดยระบุว่า หลังจากที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยเรื่องเรือดำน้ำ สร้างความเสียหายต่อส่วนรวม สร้างความแตกแยก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองทัพ และการที่บอกว่า การซื้อแบบจีทูจีเป็นสัญญาเก๊ ก็น่าประหลาดใจ ถ้าจำนำข้าว จึงจะเก๊ เพราะทำสัญญาจีทูจีไม่ถูกต้อง แต่กองทัพเรือทำสัญญาจีทูจีอย่างถูกต้องและโปร่งใส พร้อมขอสังคม อย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง การหยิบยกว่าการใช้เงินจำนวนมาก 22,500 ล้านบาทไปจัดซื้อนั้น ก็ไม่ได้จัดซื้อครั้งเดียวทั้งก้อน เป็นการทยอยจ่าย ดังนั้น พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงได้มอบหมายทีมงานให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงในครั้งนี้ ซึ่งการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน รัฐบาลก็มีงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว ในส่วนของกองทัพเรือก็เช่นกัน ก็ต้องเดินหน้าต่อไปในการทำงาน ซึ่งก็เป็นโครงการต่อเนื่อง
ล่าสุด รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "นักการเมืองที่พูดกับชาวบ้านแบบหล่อๆว่า รัฐบาลยังไม่ควรซื้อเรือดำน้ำเพราะไม่มีความจำเป็น รัฐบาลควรนำงบประมาณที่จะซื้อเรือดำน้ำมาพัฒนาประเทศดีกว่า ฟังเผินๆก็จะเห็นดีเห็นงามไปด้วย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่าการพูดแบบนี้ในขณะนี้ เป็นการพูดแบบตีกิน โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย ผมเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าใดนัก แต่วันนี้ได้คุยกับท่านพลเรือเอกท่านหนึ่งที่เกษียณอายุราชการจากกองทัพเรือมานานแล้ว ท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องเรือดำน้ำและการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้มากที่สุดคนหนึ่งของกองทัพเรือ เราก็พลอยได้ความรู้ไปด้วย จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้มาแบ่งปันกัน เป็นข้อๆได้ดังนี้
1. เรือดำน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะ
1.1 เรือดำน้ำเป็นเรือรบชนิดหนึ่งที่ตรวจจับยากที่สุด แต่มีอำนาจการทำลายล้างสูงมาก ในขณะที่เรือรบที่อยู่บนผิวน้ำ เครื่องบิน รวมทั้งยานพาหนะบนบก ชาติที่มีขีดความสามารถสูงจะสามารถตรวจจับได้ง่าย และสามารถใช้ขีปนาวุธทำลายได้ภายใน 10 นาที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ดังนั้นประเทศในภูมิภาคนี้ ต่างก็มีเรือดำน้ำประจำการอยู่แล้ว หรืออยู่ในระหว่างการจัดหา ด้วยกันทั้งนั้น
1.2 การมีเรือดำน้ำ ทำให้ประเทศมีอำนาจต่อรองสูงขึ้นเมื่อมีข้อพิพาททางทะเล อันเป็นการปกป้องผลประโยชน์ในทางทะเลของชาติได้ดีกว่าถ้าไม่มี
1.3 กองทัพเรือของประเทศที่มีเนื้อที่ติดทะเล หากไม่มีเรือดำน้ำ จึงเปรียบเหมือนกับ มนุษย์ที่มีอวัยวะไม่ครบถ้วน ไม่สมดุล ทำให้แสนยานุภาพทางทะเลด้อยกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค
2. ทะเลที่อยู่ในเขตน่านน้ำไทยไม่ลึกพอที่ใช้เรือดำน้ำได้ หรือถ้าได้ก็ตรวจจับได้ง่ายไม่เป็นความจริง เพราะเรือดำน้ำที่ดำน้ำลึกได้ ก็สามารถดำน้ำตื้นได้ เช่นในทะเลบอลติก ซึ่งมีน้ำตื้น มีเรือดำน้ำของสวีเดน รัสเซีย และอีกหลายประเทศวิ่งเพ่นพ่านกันเต็มไปหมด และไม่ว่าจะดำน้ำลึกหรือตื้นก็ตรวจจับยากกว่าพาหนะแบบอื่นๆ เรือดำน้ำที่สั่งจากจีนสามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นเมื่ออยู่ในน่านน้ำไทย และดำน้ำลึกเมื่อออกไปยังน่านน้ำสากล
3. ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ต้องการให้ไทยมีความแข็งแกร่งทางการทหาร เพื่อทำให้ต้องหันมาพึ่งพาสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐอเมริกามีอิทธิพลต่อไทยมากกว่าที่จีนมี และยิ่งไม่ต้องการให้ซื้อเรือดำน้ำจากจีนที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐอเมริกา
เมื่อไทยตัดสินใจจะซื้อเรือดำน้ำ สหรัฐอเมริกาจึงพยายามลอบบี้บางคนในกองทัพเรือ ให้ซื้อเรือดำน้ำจากเกาหลี ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าเรือดำน้ำของจีนมาก โดยหากซื้อจากเกาหลีจะมีเงินทอนให้ด้วย
4. การจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน เป็นการซื้อแบบจีทูจี แน่นอน พิสูจน์ได้ ไม่เหมือนกับจีทูจีปลอม กรณีจำนำข้าว
5. การจัดซื้อเรือดำน้ำ แรกทีเดียวกองทัพเรือเตรียมของบประมาณจัดซื้อเพียง 2 ลำ แต่จีนแถมให้อีก 1 ลำ ทำให้ไทยจะได้เรือดำน้ำ 3 ลำในราคา 2 ลำ
6. การสั่งซื้อเรือดำน้ำ นับตั้งแต่วันเซ็นสัญญา อีก 6 ปีจึงจะส่งมอบได้ หากเซ็นสัญญาซื้อทั้ง 3 ลำพร้อมกัน อีก 6 ปีจะได้ลำแรก แต่ลำที่ 2 จะได้รับอีก 6 เดือนถัดมา จากนั้นอีก 6 เดือนจะได้รับลำที่ 3 เพราะสามารถผลิตขนานกันได้ แต่เนื่องจากถูกคัดค้านมากในขณะนั้น จึงเพียงทำข้อตกลงที่จะซื้อ 3 ลำ แต่ทำสัญญาซื้อขายทีละลำ ทำให้จะได้รับเรือลำน้ำช้าไปอีก
7. การชะลอการซื้อเรือดำน้ำออกไปไม่มีกำหนด นอกจากจะทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจเนื่องจากได้มีการตกลงกันในระดับผู้นำประเทศและไม่ได้แถมอีก 1 ลำแล้ว ยังทำให้กว่าจะได้รับเรือดำน้ำครบทั้ง 3 ลำช้าออกไปอีก หากมีอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว จะเกิดความเสียหายมาก
8. รัฐบาลจีนตกลงจะส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งมาอยู่กับกองทัพเรือ เมื่อส่งมอบเรือดำน้ำลำที่ 1 และจะอยู่จนกว่าบุคลากรของกองทัพเรือจะมีความเชี่ยวชาญในระดับพร้อมรบได้ และนี่เป็นสิ่งที่สหรัฐอเมริกาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุด
9. กองทัพเรือได้รับการอนุมัติงบประมาณให้ทำการจัดซื้อเรือดำน้ำ จากรัฐบาล มีลักษณะเป็นงบผูกพัน
ข้ามปี ซึ่งใช้สำหรับสิ่งที่ทำไม่แล้วเสร็จในปีเดียว เช่น การก่อสร้างอาคาร การสร้างถนนหนทาง เป็นต้น ความหมายคืออนุมัติประมาณโดยให้ผูกพันในปีต่อๆไปจนกว่าจะถึงกำหนดเวลาแล้วเสร็จ ดังนั้น ต้องถือว่ากองทัพเรือได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำไปแล้วทั้ง 3 ลำ โดยให้ผูกพันตามที่จ่ายจริงในแต่ละปี จนกว่าจะชำระเงินครบทั้งหมด สำนักงบประมาณมีความผูกพันที่ต้องจัดสรรงบประมาณรายปีให้ทุกปี ซึ่งโดยทั่วไปงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติให้ผูกพันแล้วจะไม่ถูกตัด ทั้งในระดับสำนักงบประมาณและระดับกรรมาธิการงบประมาณ ขอย้ำว่า นี่เป็นสิ่งที่ผมสรุปได้จากการพูดคุยกับผู้รู้ท่านหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลและทัศนะของผมโดยตรง และสุดท้ายขอย้ำสิ่งที่ทหารทุกคนทราบดีว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประเทศมีความพร้อมที่จะทำสงครามเท่านั้น"