หมอเหรียญทอง เผยสัมผัสแรก พลังไทยภักดี มั่นใจคนไทยพร้อมป้องสถาบันฯ

สืบเนื่องจากกการที่กลุ่มไทยภักดี  นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี   จัดกิจกรรมแสดงพลังพิทักษ์  ปกป้อง    สถาบันพระมหากษัตริย์  ท่ามกลางคณะผู้ร่วมก่อตั้ง   สมาชิกกลุ่มไทยภักดี   และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก   อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กทม.

 

 

 

โดย  นพ.วรงค์ กล่าวการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า  เป็นการรวมตัวเพื่อให้บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกัน มารวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น   รวมถึงให้ความรู้เรื่อชาติ ศาสนา และสถาบัน ตลอดแนวคิดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ   ซึ่งทางกลุ่มมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ผ่านการเห็นชอบของประชาชน จากการลงประชามติมาแล้ว   ดังนั้นหากจะมีการแก้ไข จึงต้องกลับไปถามความคิดเห็นของประชาชนก่อน 

 

ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์  ยืนยันว่า  การรวมตัวของกลุ่มไทยภักดี  ไม่มีเป้าหมายเพื่อจัดม็อบชนม็อบ อย่างที่มีนักการเมืองบางคนนำการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์  "เราเพียงต้องการใช้ความรู้เพื่อปกป้องสถาบัน    และแม้ว่าจะมีกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกันเข้าร่วมกับกลุ่มไทยภักดีเป็นจำนวนมาก ก็จะไม่มีการยกระดับเป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อ เนื่องจากทางกลุ่มไม่ได้มีข้อเรียกร้อง หรือความต้องการอะไร เพียงแค่ต้องการให้ความรู้และข้อเท็จจริงกับประชาชน ซึ่งเวทีนี้ถือเป็นการรวมตัวกันครั้งแรก ในกรุงเทพมหานคร แต่หลังจากนี้กลุ่มไทยภักดี จะเดินสายเปิดเวทีให้ความรู้ในทุกจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อเอาความจริงไปบอกพี่น้องประชาชน เชื่อว่าความจริงจะทำให้เราชนะ เพราะวันนี้มีกลุ่มคนพยายามปลุกปั่น ทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์"
 

ประเด็นสำคัญ  นพ.วรงค์  ระบุด้วยว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ   ล้วนเกิดจากนักการเมือง โครงสร้างหลักของการปกครองประเทศ ไม่ได้มีปัญหามาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสถาบันที่เป็นที่ยึดโยงจิตใจของคนไทยทั้งชาติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เกิดจากการใช้อำนาจโดยมิชอบ การทุจริตคอรัปชั่น หรือแม้แต่การแบ่งแยกประชาชนออกเป็นฝักฝ่ายของนักการเมือง รวมถึงเมื่อทำผิดก็ไม่ยอมรับผิด และกล่าวหากฎหมายของประเทศ ดังนั้นหากแก้ปัญหาการดูแลประชาชนของนักการเมือง ปัญหาก็จะคลี่คลายได้

 

"วันนี้มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ออกมาเรียกร้อง ให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ผมมองว่าไม่ใช่ ตั้งแต่รู้มา สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการดูแลประชาชนของรัฐบาล ถ้าไปหลงทาง แระเทศก็จะเดินผิดทาง แต่ถ้าประที่นักการเมือง ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ซึ่งในวันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 10.30 น. กลุ่มไทยภักดีจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อรักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ผ่านสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการกับผู้ที่อาศัยแผ่นดินญี่ปุ่น มาโจมตีประเทศไทย จากนั้นในวันที่ 20 กันยายน จะมีการจัดเวทีให้ความรู้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช" 

 

ทางด้าน  นายวิชัย ล้ำสุทธิ เลขาธิการกลุ่มไทยภักดี ได้ขึ้นเวทีประกาศอุดมการณ์ 5 ข้อ 1.ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา  พระมหากษัตริย์ 2. สืบสานรากเหง้าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ความเป็นไทย 3.อำนาจควบคุมตรวจสอบทุนผูกขาด 4.เสริมสร้างความเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในการประกอบอาชีพของทุกชนชั้น   และ 5. สร้างรากฐานความมั่งคั่งของชาติอย่างมั่นคงด้วยระบบเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ต้องไม่ยุบสภา 2. ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกกลุ่มที่จะช่วงสถาบัน และ 3.ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560

ขณะที่ น.ส. หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ หฤทัย อดีตศิลปินนักร้องชื่อดัง ในฐานะแกนนำกลุ่มไทยภักดี   ขึ้นกล่าวปราศรัยในหัวข้อ “คนไทยควรทำอย่างไร ประเทศชาติถึงจะผ่านความขัดแย้งนี้ไปได้” ใจความตอนหนึ่งระบุว่า เราพร้อมแสดงให้ทั้งประเทศเห็นว่าพลังจุดยืนของคนไทยคืออะไร   คนไทยที่รักชาติพร้อมปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อให้มหาอำนาจชาติตะวันตก รับรู้ เรียนรู้ว่าอะไรที่ทำให้ประเทศชาติร่มเย็น สงบสุข มั่นคง ซึ่งสถานการณ์โลกปัจจุบันประสบกับโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อเท็จจริง คือชาติตะวันตกประสบกับชะตากรรมที่เลวร้าย ทั้งๆที่กล่าวอ้างว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก เป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพ ดีกว่าพวกเราที่ประเทศเล็กๆ แล้วเห็นหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น

 

"ได้ข่าวว่าคนอเมริกันปัจจุบันนี้ลำบากมาก เราไม่ได้ตอกย้ำความเจ็บปวดของเขา เเต่เขากำลังพบกับความแตกแยก มีการปล้นชิง แย่งอาหาร ขาดยารักษาโรค ไม่ได้รับการเยียวยาเหลียวแลจากสาธารณสุข ที่อ้างว่าเป็นประเทศเสรี แต่ขณะเดียวกันประเทศไทยมีแต่ความสุข ล่าสุดคนอเมริกันเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติแล้ว เพราะว่าพวกเราต้องการความสงบให้กับชาติบ้านเมือง"

 

นอกจากนี้น.ส.หฤทัย  ยังได้กล่าวโต้ตอบพฤติการณ์ของ นายปิยบุตร  แสงกนกกุล  แกนนำคณะก้าวหน้า  ด้วยว่า  เราได้เห็นบทความของนายปิยบุตร    เรื่องสถาบัน ความยุติธรรม และการเมือง ในประเทศไทย ครั้งแล้วครั้งเล่า  ในการอ้างถึงประวัติศาสตร์ประเทศฝรั่งเศส ที่เปลี่ยนแปลงจากระบบสถาบันกษัตริย์เป็นสาธารณรัฐ  โดยมีนัยแฝงเพื่อเปรียบเทียบกับระบอบการปกครองในประเทศไทย

 

“ได้ยินแล้วตกใจ เพราะจะเอามาเปรียบเทียบกับมาตรา 112  ในไทยได้อย่างไร นายปิยบุตรอ้างประวัติศาสตร์ของชาติอื่นเพียงเสี้ยวเดียว แล้วมาสร้างความเกลียดชัง ใส่ชุดความคิดให้คนไทยได้อย่างไร จากสร้างประวัติศาสตร์ของต่างชาติที่ล้มเหลว ใครที่ศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ดี ทำไมนายปิยบุตร ไม่นึกถึงผลที่จะเกิดขึ้น  เพราะแม้แต่ในรัฐสภายังมี ส.ส.บางคนที่หน้าด้าน นำข้อมูลเท็จของนายแอนดรูว์ แมคเกรเกอร์ มาร์แชลล์ ที่ใส่ร้ายสถาบันมาตลอดโดยใช้เฟคนิวส์ มาพูดในรัฐสภา   ถามว่านักการเมืองคนอื่นที่นั่งหัวโด่ในสภาทำอะไรอยู่ ตามหลักผู้แทนราษฎรในรัฐสภาจะต้องปกป้องสถาบันใช่หรือไม่ ไม่เห็นมีใครยกมือแก้ต่างให้สถาบันเลยแม้แต่คนเดียว แต่พอมีใครออกมาแสดงพลังปกป้อง ก็บอกโหนเจ้า ดึงสถาบันลงมาขัดแย้ง ขอถามว่าเราจะทำไปเพื่ออะไร ก็เห็นกันอยู่ทุกคนที่ออกมา ล้วนแล้วแต่ถูกวาทกรรมเหล่านี้โจมตี ทำให้รู้สึกอัดอั้น หดหู่จิตใจ”

ล่าสุด พลตรี นพ. เหรียญทอง แน่นหนา  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ  ได้โพสต์ข้อความถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า "วันนี้ผมได้ไปเป็นผู้ชุมนุมคนหนึ่งอย่างเงียบๆ ไม่เอิกเกริก โดยเข้าร่วมชุมนุมกับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก   จากภาคีต่างๆที่มีอุดมการณ์ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกันและได้ร่วมกันประกาศตั้งตนเป็น "ไทยภักดี"   ที่มีคุณหมอวรงค์เป็นผู้นำพร้อมแกนนำอีกหลายๆท่าน 

 

ผมได้สังเกตุการณ์ และได้สัมผัสถึงอุดมการณ์ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแรงกล้าของผู้ชุมนุมทั้งหลาย ทั้งๆที่ยังเพิ่งเป็นการชุมนุมครั้งแรกอันถือเป็น "ปฐมบท"  แต่ก็ทำให้ผมได้รับรู้ว่ายามใดก็ตามที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกคุกคามจนถึงระดับอันตรายต่อการธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว 

 

 

ยามนั้นพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีนี่แหละครับที่จะลุกฮือ  รวมเป็นพลังแผ่นดินที่ทรงอานุภาพและจะกลายเป็นกองทัพประชาชน  ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในทันที...นี่คือ "ความเป็นไทย"...และน่าจะตรงกับคำว่า "ไทยภักดี" ที่คุณหมอวรงค์และแกนนำได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ผมในฐานะ "ทหารประชาชน" ขอติดตามประเมินสถานการณ์เพื่อพร้อมสนับสนุนเครือข่าย "ไทยภักดี" ครับ"