- 08 ก.ย. 2563
“นายกฯ”ย้ำยังไม่แจกเงิน 3 พัน อ้างข้อมูลยังไม่พร้อม เล็งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ สนใจสร้างแลนด์บริด เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว
8ก.ย.63 เมื่อเวลา 13. 10 น.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม. แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงโครงการแจกเงิน 3,000 บาทให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า กรณีที่มีข่าวว่าจะแจกเงิน 3,000 บาท นั้น ยังไม่มีการพิจารณาในที่ประชุมครม.เลย ข่าวออกไปโดยที่ยังไม่มีรายละเอียดอะไรเลย วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้นว่า เงินถ้ามีตรงนี้ ก็คงจะดูแลผู้ประกอบการรายย่อย ค้าปลีกพ่อค้า แม่ค้าระดับล่างที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน ซึ่งกำลังพิจารณากลไกที่จะนำมาใช้ในการดูแลอยู่ ทั้งนี้เรามีข้อมูลไม่พร้อม ระบบการจ่ายเงินโดยตรงก็ไม่พร้อม ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะให้ผู้บริโภค มีโอกาสซื้อของจากร้านค้าปลีก ระดับล่าง ไม่ใช่ผู้ประกอบการรายใหญ่
นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้เรามุ่งเน้น ไปถึงกรณีที่เราจะมีการปรับ โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่ต้องพึ่งพาการส่งออกกับการท่องเที่ยว ซึ่งพอมันเกิดปัญหาขึ้นมาทั้ง 2 อย่าง ทำให้เศรษฐกิจเราตกต่ำมากเพราะรายได้ของประเทศลดลง เราจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ และเรากำลังจะทำให้เกิดขึ้น ถึงแม้เราจะมีแผนงาน EEC แล้วก็ตาม วันหน้าเราก็ต้องหาโครงการขนาดใหญ่ ในการที่จะลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของเรา ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง เช่น EEC ก็เริ่มมา 5 ปีแล้ว ก็ไปได้ระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราต้องหาโครงการใหม่
กำลังดูว่าเราจะเชื่อม การไปมาทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งตะวันตกและตะวันออกได้อย่างไร มันควรจะมีหรือไม่ เกี่ยวกับการศึกษาทางด้าน แลนด์บริด ซึ่งกำลังให้แนวทางไปศึกษากันอยู่ แต่ตนคิดว่าจะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจระยะยาว ได้ในโอกาสต่อไป โดยเฉพาะการขนส่งข้ามตะวันตก และตะวันออก หรืออ่าวไทยกับอันดามัน โดยเฉพาะท่าเรือต่างๆต้องมีการพัฒนาทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องเดินต่อไป ขั้นตอนการศึกษา ขั้นตอนการลงทุน สิ่งเหล่านี้เป็นผลดีในระยะยาว
เรื่องของเศรษฐกิจโดยรวม สถานการณ์หลายๆอย่างเราปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จากสถานการณ์ภายในของเรา ในเรื่องของการผ่อนคลายมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด แม้ว่าจะมีการตรวจพบ เราก็สามารถติดตามได้ทั้งหมดและตรวจสอบ ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยอยู่ ก็ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก และถือว่าเป็นการทดสอบระบบของเราว่า ระบบเราทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ
นายกฯ กล่าวว่าส่วนในบริเวณชายแดนนั้น ตนได้กำชับตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเพิ่มกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ในบริเวณชายแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่เหล่านี้เขาไม่ได้พักที่บ้าน ต้องลดอัตราการลาพักตามวงรอบลง ซึ่งก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วย ในเรื่องของความเสียสละ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในการดูแล การจราจรในช่วงของการหยุดยาว ที่ผ่านมาด้วย อย่างไรก็ตามในเรื่องของวันหยุดยาวตนได้หารือในครม.แล้วว่าจะพิจารณาหาวันหยุดให้มากขึ้นในระยะต่อไปเพราะเห็นว่ามีการท่องเที่ยว มีการหมุนเวียนใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวมากขึ้นทำให้ธุรกิจหลายๆอย่างดีขึ้น จึงขอให้ทุกคนได้ช่วยกันท่องเที่ยวในประเทศ เพราะจะทำให้ห่วงโซ่ต่างๆ ในประเทศขับเคลื่อนไปได้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าเดิม อย่างน้อยก็ต่อลมหายใจกันและกัน
นายกฯ ยังกล่าวถึง สถานการณ์เศรษฐกิจของต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีรัฐบาลสหรัฐปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการพัฒนา covid 19 กับนานาชาติ แต่ของไทยได้ร่วมกับหลายๆชาติอยู่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนในหลายหน่วยงาน โดยใช้กองทุนวัคซีนแห่งชาติ และดูแลในกลุ่มที่มีความก้าวหน้าซึ่งเป็นการบริหารงานของหลายหน่วยงาน เช่น ร.พ.จุฬาฯ และร.พ.ศิริราช รัฐบาลดูแลหมด ซึ่งมีเงินอยู่แล้วพันล้านบาท ในขั้นต้น ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าภูเก็ตโมเดลและการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เดือนต.ค. นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการท่องเที่ยวให้คนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศไปก่อน ส่วนการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นคงจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง และยังไม่ได้พับโครงการนี้