- 10 ต.ค. 2563
ดร. ศุภณัฐ อภิญญาณ ดักทาง ปิยุบตร ปลุกกระแสสร้างแม่น้ำ 2 สาย ผลักดันก้าวไกลยึดการเมืองชาติ ก้าวหน้าคุมท้องถิ่น เป้าหมายพลิกโฉมประเทศไทย
ถึงแม้จะยุบพรรคและโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ในแง่ของการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสูเป้าหมาย การเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง ของแกนนำคณะก้าวหน้า ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดง่ายๆ โดยเฉพาะการออกมาปลุกเร้า สนับสนุนแนวทางการปฏิบัติของกลุ่มบุคคลที่ร่วมกิจกรรม มาตั้งแต่เริ่มกิจกรรมต่อต้าน คสช. และก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ให้กดดัน 3 เรื่อง คือ การไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี , การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ตามที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไป "หากปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป โอกาสที่เราจะได้เปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอย่างที่เราฝันอยากให้เป็น"
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : ธนาธร พูดเต็มปากปรารถนาดี เชียร์ม็อบเพนกวิน ออกหน้าเปิดเวทีวิพากษ์ รื้อโครงสร้างสถาบันฯ )
อีกกระแสหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ก็คือ การที่คณะก้าวหน้าประกาศจะต่อสู้ในสนามการเลือกตั้งท้องถิ่น โดย นายปิยุบตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ถึงกรณีนี้โดยใช้หัวข้อ " เมื่อแม่น้ำสองสายบรรจบ เราจะพลิกโฉมประเทศไทยไปด้วยกัน" มีใจความสำคัญ บางช่วงตอนระบุว่า "พรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบไปแล้ว วันนี้กลายมาเป็นพรรคก้าวไกล มีความหวังว่าต้องการยึดอำนาจรัฐ เพื่อเอาอำนาจที่กระจุกตัวอยู่ส่วนกลางนั้นส่งคืนกลับไปไว้ที่ท้องถิ่น ขณะที่ #คณะก้าวหน้า ต้องการยึดอำนาจในระดับท้องถิ่น เพื่อจะมาทดลองบริหารอำนาจ บริหารทรัพยากรภายใต้ข้อจำกัดแบบปัจจุบัน แล้วจะทำให้เห็นว่าการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่เป็นไปได้
คณะก้าวหน้า กรรมการทุกท่าน และตัวผมเอง พร้อมที่จะปวารณาตัวสนับสนุนช่วยพวกท่านหาเสียงในการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้อย่างเต็มที่ พวกผมถูกตัดสิทธิแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ 10 ปี ไม่มีประโยชน์โพดผล ไม่มีความทะเยอทะยานใดจะได้เข้าไปมีตำแหน่งทางการเมือง แต่ความทะเยอทะยานอันเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั่นคือความเปลี่ยนแปลง และเรามองเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มต้นที่นี่ ในระดับท้องถิ่นนี้
ขอให้ทุกท่านช่วยรับเอาความหวังของคณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ท่านช่วยเอาความหวังของพวกเรา ช่วยเอาความหวังของคนจำนวนมากที่เชื่อมั่นตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ไปทำให้เกิดในพื้นที่ท่าน ในจังหวัดของท่าน ในบ้านเกิดของท่าน ....และทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังว่า จะเปลี่ยนประเทศไทยทั้งสองระนาบ พรรคก้าวไกลเปลี่ยนการเมืองระดับชาติ คณะก้าวหน้าเปลี่ยนการเมืองระดับท้องถิ่น และเมื่อแม่น้ำสองสายนี้มาบรรจบพบเจอกัน เราจะพลิกโฉมประเทศไทยไปด้วยกัน"
แน่นอนว่าแนวคิดของนายปิยบุตร มีนัยสำคัญในทางการเมืองอย่างแน่นอน ขณะที่ ดร. ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความเห็นมีรายละเอียดสำคัญบางช่วงตอน ระบุว่า "#หยุดหลอกใช้ประชาชนเสียเถอะปิยบุตร" .... "นายปิยบุตรเป็นนักปลุกปั่นประชาธิปไตยจอมปลอมที่ออกมาหลอกลวงประชาชน โดยอาศัยทุนของนายธนาธรกับขบวนการปั่นกระแสสร้างภาพ แอบอ้างคำว่าประชาธิปไตยบ้าง แอบอ้างคำว่าประชาชนบ้าง
แต่พวกเขากลับไม่ได้มีเจตนาหรือสาระใดๆที่จะทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน มีแต่แสวงหาอำนาจมาเป็นของตัวเอง หลอกใช้ผู้คนเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายลัทธิการเมืองของพวกเขา ดังที่นายปิยบุตรกล่าวเองว่า “พรรคอนาคตใหม่ซึ่งถูกยุบไปแล้ว วันนี้กลายมาเป็นพรรคก้าวไกล มีความหวังว่าต้องการยึดอำนาจรัฐ เพื่อเอาอำนาจที่กระจุกตัวอยู่ส่วนกลางนั้นส่งคืนกลับไปไว้ที่ท้องถิ่น ขณะที่คณะก้าวหน้า ต้องการยึดอำนาจในระดับท้องถิ่น”
คำพูดของนายปิยบุตรแสดงถึงความไม่เข้าใจหลักการปกครองของไทย ซึ่งอำนาจการปกครองส่วนกลางเป็นอำนาจคนละชนิดกับอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอำนาจการปกครองส่วนกลางของประเทศไม่อาจที่จะกระจายได้ เพราะประเทศไทยปกครองแบบรัฐเดี่ยว ไม่ใช่สาธารณรัฐ ดังนั้นประเทศไทยจึงมี
- การรวมอำนาจการปกครอง(Centralization) ในการปกครองส่วนกลาง
- การแบ่งอำนาจปกครอง(Deconcentration) ในการปกครองส่วนภูมิภาค
- การกระจายอำนาจการปกครอง(Decentralization) ในการปกครองส่วนท้องถิ่น
การเลือกตั้ง อบจ. ในครั้งนี้จึงเป็นเพียงแค่การแสวงหาอำนาจของนายปิยบุตรกับนายธนาธรภายใต้คณะก้าวหน้า และนำภาษีของประชาชนมาใช้ขยายฐานเสียงและชุดความคิดลัทธินอกรีตของพวกเขา ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง มีแต่จะสะสมและเพิ่มพูนความแตกแยกระหว่างประชาชน แบ่งแยกประชาชนเพื่อปกครองต่อไปเรื่อยๆ
การแก้ไขปัญหาอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือการกระจายอำนาจท้องถิ่นที่ถูกต้อง คือ การขยายสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเมืองส่วนท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่การกระชับอำนาจ หรือพยายามยึดอำนาจมาเป็นของคนส่วนน้อยอย่างที่นายปิยบุตรกับนายธนาธรกำลังทำอยู่ สิ่งที่นายปิยบุตรกล่าวจึงเป็นเพียงแค่การขายฝัน ลูบหน้าปะจมูกหลอกลวงประชาชน แล้วสุดท้ายกลับเป็นการยึดอำนาจต่างๆมาเป็นของคณะก้าวหน้ากับพรรคก้าวไกลเสียเอง"