- 15 ต.ค. 2563
ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” เหลืออด ธนาธร โผล่แถลงการณ์โจมตีรัฐ ออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างเป็นการชุมนุมตามสิทธิ เรียกร้องปล่อยตัวผู้ชุมนุม
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมเหตุความไม่สงบ ซึ่งกระทบความมั่นคงประเทศ จากเหตุความรุนแรงที่กลุ่มผู้ชุมนุมกระทำกับรถพระที่นั่ง และ ขบวนเสด็จฯ แต่ นายปิยุบตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุว่า การตัดสินใจใช้อำนาจแบบนี้ไม่ใช่ทางออก มีแต่พาบ้านเมืองไปสู่ทางตันและทางแยกชนิดที่ยากจะกลับมาเป็นดังเดิม
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : อุ๊ หฤทัย เดือดปุด อัดแรง ปิยบุตร โผล่ตีรวน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำบ้านเมืองถึงทางตัน )
ต่อมาคณะก้าวหน้า โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มีการออกแถลงการณ์ แสดงใจความบางช่วงตอนว่า "สืบเนื่องจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตามด้วยการเข้าสลายการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จับตัวแกนนำและผู้ชุมนุมจำนวนมากในช่วง 4 นาฬิกาเศษที่ผ่านมา
คณะก้าวหน้าขอยืนยันว่า การชุมนุมตลอดวันที่ 14 ตุลาคม เป็นการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) แกนนำและผู้ชุมนุมพยายามใช้ความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา พวกเขาแสดงออกอย่างสันติ สงบ เรียกร้องในสิ่งที่ประเทศประชาธิปไตยพึงมี
นอกจากนี้ แกนนำยังพยายามลดความตึงเครียด โดยยอมประกาศพักการชุมนุมไปแล้ว และจะให้มวลชนแยกย้ายกลับบ้านในเวลา 6 นาฬิกาของวันนี้ โดยสถานการณ์การชุมนุมได้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยตลอดคืน
การชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่เข้าเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่มีความชอบธรรมและความจำเป็นใดๆเลย ที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และนำกำลังเข้าสลายการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกาล ซึ่งส่อเจตนาปกปิด ไม่สุจริตใจ ทำให้การใช้กำลังเข้าจัดการกับผู้ชุมนุมตรวจสอบได้ยาก ขัดต่อหลักการสากล ...
คณะก้าวหน้าเรียกร้องให้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมด โดยในระหว่างนี้ต้องให้ความเคารพต่อสิทธิของผู้ถูกจับกุม เปิดเผยสถานที่ที่แกนนำและผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวทั้งหมด ให้สิทธิในการติดต่อกับทนายและญาติ
รัฐบาลต้องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดๆ นอกจากเอื้อให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจล้นเกินในการจัดการผู้ชุมนุม และเร่งหาวิธีการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชนโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นสถานการณ์จะมีแต่ลุกลามบานปลาย ขยายวงการชุมนุมออกไปทั่วประเทศ
โปรดอย่าลืมว่าการชุมนุมครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากประชาชน สื่อมวลชน และรัฐบาลทั่วโลก ความรุนแรงและการใช้กฎหมายอย่างอยุติธรรมใดๆ ที่เกิดกับผู้ชุมนุม รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องรับผิดชอบ"
ล่าสุด ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์แสดงความเห็นด้วยข้อความว่า "#ปรสิตม็อบ เป็นชนชั้นศักดินาที่ปลุกระดมอยู่หน้าจอ รอม็อบปักหลักสำเร็จ พวกมันจะเสนอหน้าในม็อบให้สัมภาษณ์กับนักข่าว และกลับบ้าน"
#ระบอบศักดินาในม็อบคณะราษฎร
1.ปรสิตม็อบ
เป็นชนชั้นศักดินาที่ปลุกระดมอยู่หน้าจอ รอม็อบปักหลักสำเร็จ พวกมันจะเสนอหน้าในม็อบให้สัมภาษณ์กับนักข่าว และกลับบ้าน
2.หุ่นเชิดปรสิต
เป็นตัวแทนของชนชั้นศักดินา กลุ่มคนมีปมซึ่งถูกคัดเลือกมาเป็นแกนนำม็อบ คอยเป็นกระบอกเสียงรับใช้ปรสิตม็อบหลอกลวงมวลชนเป็นเครื่องมือ และยอมเป็นหุ่นเชิดทำผิดติดคุกแทนปรสิตม็อบ
3.เหยื่อปรสิต
เป็นมวลชนชั้นล่าง คอยรับคำสั่งจากหุ่นเชิดปรสิต ยอมให้หุ่นเชิดปรสิตลากจูงเล่นไปมา ไม่จากต่างไพร่และทาส ต้องมาตากแดด ตากลม ตากฝน ยอมทำอะไรบ้าๆบอๆอย่างสิ้นคิดตามคำสั่งของเหล่าคนมีปม
#หยุดหลอกใช้ประชาชน
ขณะที่ก่อนหน้า ดร.ศุภณัฐ ได้โพสต์ข้อความถึง นายธนาธร และ นายปิยุบตร ว่า "#คณะก้าวหน้าขยะสังคม" แสดงรายละเอียดบางช่วงตอน ถึงกรณี กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่นายธนาธรกลับออกมาปลุกระดมด้วยการบิดเบือนใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ว่าทำงานผิดขั้นตอน ทั้งๆที่ความผิดทั้งหมดเป็น "ความผิดซึ่งหน้า" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 80
อ้างอิงจาก มาตรา 78 "พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งของศาลนั้นไม่ได้ เว้นแต่ (1) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดังได้บัญญัติไว้ในมาตรา 80"
นายปิยบุตรไม่เคยสั่งไม่เคยสอนนายธนาธรบ้างเลยหรือ? ถึงได้โตแต่ตัว พูดก็สักแต่ว่าพูดเพื่อปั่นกระแสปลุกระดม หลอกใช้คนโง่เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างไร้หลักการและความรู้ เรื่องกฎหมายพื้นๆแค่นี้ก็ยังไม่รู้ จะเอาปัญญาที่ไหนมาบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี? ประเทศชาติจะไม่วิบัติฉิบหายด้วยวาทกรรมกลวงๆของนายธนาธรเสียหรอกหรือ?
ส่วนนายปิยบุตรนึกอะไรไม่ออกก็อ้างแต่นิติสงครามราวกับเป็นคนไม่รู้กฎหมายและไม่มีสมอง ในขณะที่ตัวเองบิดเบือนทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างน่ารังเกียจ ปลุกระดมผู้คนเป็นเครื่องมือทางการเมือง แบบนี้เรียกว่า "นิติเส็งเคร็ง" จะได้ไหม?
ง่ายๆเลยนะ ถ้านายธนาธรกับนายปิยบุตรเห็นคนเป็นคนเท่ากันจริงๆ ทำไมนายธนาธรกับนายปิยบุตรถึงไม่ออกมานำการเคลื่อนไหว เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย และถูกจับกุมเสียเองบ้าง?
ก็เพราะทั้งนายธนาธรกับนายปิยบุตรรู้ดีว่ามันผิดกฎหมาย ตัวเองถึงไม่กล้าลงมือทำเอง ปล่อยให้คนอื่นรับเคราะห์ไม่ต่างกับไพร่และทาสภายใต้ระบอบศักดินาคณะก้าวหน้าของพวกเขา เสร็จแล้วตัวเองก็ออกมาตีกิน โหนความเดือดร้อนของผู้อื่นบิดเบือนปลุกระดมต่อ ขยายผลการหลอกใช้ผู้คนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของตัวเองอย่างไร้ความละอาย
นักปลุกระดมหลอกใช้ผู้อื่นอย่างนายธนาธรกับนายปิยบุตร และเหล่าแกนนำม็อบที่ต่างก็เป็นคนมีปม เต็มไปด้วยพฤติกรรมแย่ๆพวกนี้นะหรือที่จะนำพาสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์อย่างสันติ?คิดผิดคิดใหม่ได้นะครับ
Lazada จัดโปร จัดหนักลดทุกรายการ ลดสูงสุด 90%