- 18 ต.ค. 2563
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ได้โพสต์ข้อความว่า " เอาไว้ทำไม เสนอขับ Amnesty International. และ Human Right Watch ออกจากประเทศไทย
สืบเนื่องจากการที่ องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) ได้ออกแถลงการณ์ Thailand: More arrests amid ‘drastic’ emergency order banning gatherings วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบประเทศ ด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงและการจับกุมผู้ชุมนุมผู้ประท้วง
โดย มิง ยู ฮาห์ (Ming Yu Hah) รองผู้อำนวยการด้านรณรงค์ แอมเนสตี้ฯ ภาคพื้นเอเชีย เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับผู้ประท้วง พร้อมอ้างปฏิบัติการจับกุมในช่วงเช้าวันที่ 15 ต.ค. 2563 ไม่เป็นธรรม เพราะผู้ประท้วงชุมนุมอย่างสงบ ทั้ง ๆ ที่มีข้อเท็จจริงนำเสนอผ่านสื่อมวลชนต่างชาติ ว่าในระหว่างการเผชิญหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : "อัษฎางค์" เปิดประเด็น ม็อบมือเปล่าจริงหรือ ด่าสถาบันฯ กลางราชประสงค์...เรียกชุมนุมสงบจริงหรือ? )
ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ได้โพสต์ข้อความว่า " เอาไว้ทำไม เสนอขับ Amnesty International. และ Human Right Watch ออกจากประเทศไทย ยุติบทบาทการทำงาน เพราะไม่มีความเป็นมิตรแถมอันตราย ต่อความมั่นคงและความสงบสุขของคนในชาติ
ไหนๆก็ด่าไทยว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ให้มันไปด่าไทยจากนอกประเทศก็แล้วกัน อินเดียซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไล่ทั้งสององค์การและยึดบัญชีการเงิน"
ขณะที่ก่อนหน้านั้นในโลกโซเชียลมีการแผยแพร่การทำหน้าที่ของ Amnesty International ร่วมบิดเบือนข้อมูลภาพ อันสืบเนื่องมาจากการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมในฮ่องกง แต่นักการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหว กลับหยิบฉวยมาบิดเบือนโจมตีการรักษาความสงบของรัฐบาล จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กลับอย่างรุนแรง ในสิ่งที่ทำให้ประเทศเสียหาย เพียงเพราะต้องการความได้เปรียบทางการเมือง ให้กับนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และบางส่วนมีเจตนาให้ความวุ่นวายนำไปสู่การเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศ