- 06 พ.ย. 2563
"อ.ชูชาติ ศรีแสง" อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ศาลยุติธรรม ฝากถึง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดการด่วนพระสงฆ์ขึ้นเวที่ปราศรัยม็อบศาลายา พูดจาจ้วงจาบหยาบคาย ผิดข้อห้ามกิจพระภิกษุห้ามยุ่งการเมือง
สืบเนื่องจากการที่ กลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา มีการจัดการชุมนุมที่ บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พร้อมประกาศจุดยืนข้อเรียกร้อง ตามแนวทางของกลุ่มคณะราษฎร ประกอบด้วย 1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องลาออก 2.จัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 3.ปฏิรูปสถาบัน พร้อมยืนยันไม่ร่วมสังฆกรรมกรรมการสมานฉันท์ ตามข้อเสนอของรัฐบาล
แต่ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากกว่าก็คือการที่มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังว่า "พระเอิร์ธ" ขึ้นไปบนเวทีปราศรัย พร้อมชู 3 นิ้ว วิพากษ์วิจารณ์โครงสร้างคณะสงฆ์ ไปจนถึงการก้าวล่วงสมเด็จพระสังฆราช พร้อมอ้างว่าตนเองก็เป็นราษฎรคนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากสวัสดิการรัฐ ทำให้ต้องตัดสินใจมาบวช เพื่อให้ได้สิทธิเท่าเทียมคนอื่น ต่อมาประเด็นยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำภาพดังกล่าวไปโพสต์เพื่อขยายความในทางการเมือง
ล่าสุด "อ.ชูชาติ ศรีแสง" อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ศาลยุติธรรม ได้มีการโพสต์แสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า "การอุปสมบทเข้ามาในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ คือผู้ประกาศตนที่จะมุ่งดำเนินไปสู่ความเป็นพระอรหันต์
ถ้าโกนผม ห่มผ้าเหลือง อาศัยอยู่ในวัด ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ชาวบ้านให้อาหารรับประทาน เมื่อไม่สามารถประพฤติปฏิบัติอย่าง ที่พระภิกษุสงฆ์พึงต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยได้ แต่ไปขึ้นเวทีกลุ่มผู้ชุมนุมพูดจาจ้วงจาบหยาบคาย ซึ่งไม่ใช่กิจของพระภิกษุสงฆ์
สมควรต้องเปลื้องผ้าเหลืองออกจากตัวและอย่ากลับมาอาศัยอยู่ในวัดเพื่อกินฟรีอยู่ฟรีอีกต่อไปเลย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องรีบดำเนินการตามหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบปล่อยปละละเลยไว้อย่างนี้ไม่ได้
ทั้งนี้ สำนักพุทธศาสนาฯ ได้เคยมีการย้ำคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. 2538 ระบุใจความสำคัญว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2535 มหาเถรสมาคมจึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำสังมหาเถรสมาคมนี้เรียกว่า “คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษึสามเณาเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. 2538”
ข้อ 2 คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์เป็นต้นไป
ข้อ 3 ตั้งแต่วันใช้คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ยกเลิกคำสั่งมหาเถรสมาคมเรื่องห้ามพระสงฆ์เกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ. 2517
ข้อ 4 ห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุมหรือในบริเวณสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใด หรือในที่ชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่ากรณีใด ๆ
ข้อ 5 ห้ามพระภิกษุสามเณรทำการใด ๆ อันเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่การหาเสียง เพื่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใดแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ
ข้อ 6 ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมชุมนุมในการเรียกร้องสิทธิของบุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ
ข้อ 7 ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมอภิปราย หรือบรรยายเรื่องเกี่ยงกับการเมืองซึ่งจัดตั้งขึ้นทั้งในวัดและนอกวัด
ข้อ 8 ให้พระสังฆาธิการตั้งแต่ชั้นเจ้าอาวาสขึ้นไป ผู้มีอำนาจหน้ามี่ในทางการปกครอง ชี้แจงแนะนำผู้อยู่ในปกครองเขตของตนให้ทราบคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ และกวดขันอย่าให้มีการฝ่าฝืนละเมิด
ข้อ 9 พระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืนละเมิดคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้พระสังฆาธิการปกครองใกล้ชิดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตน
ถ้าความผิดเกิดขึ้นนอกเขตสังกัด ให้เจ้าคณะเจ้าของเขตที่ความผิดเกิดขึ้น ว่ากล่าวตักเตือนแล้วแจ้งพระสังฆาธิการผู้ปกครองใกล้ชิดดำเนินการ
ข้อ 10 ให้พระสังฆาธิการผู้มีอำนาจหน้าที่ในทางปกครองทุกชั้น ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้โดยเคร่งครัด
สั่ง ณ วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2538 โดย สมเด็จพระญาณสังวร (สมเด็จพระญาณสังวร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม
Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี!11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90%