- 09 พ.ย. 2563
รวมสารพัดบรรยาศม็อบบุกประชิดเขตพระบรมมหาราชวัง เกิดเหตุชุลมุนหนัก ตร.ฉีดน้ำสกัด ปะทะเดือด แรงถึงขั้นพยายามเผาพระบรมฉายาลักษณ์
กลายเป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นจนได้ จากการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร พยายามรุกคืบการเคลื่อนไหวให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันกษัตริย์ ผ่านกิจกรรมการยื่นจดหมายถึงสถาบันเบื้องสูง หลังจากก่อนหน้ามีความพยายามเตือนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ระมัดระวังจะตกเป็นเหยื่อการปลุกระดมทางการเมืองครั้งนี้
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : ไพศาล สุดทนหัวโจกล้มเจ้า หลอกลูกหลานชาวบ้านอีกแล้ว แต่หนนี้ผิดกม.ถึงหมดอนาคตได้เลย )
ทั้งนี้ก่อนหน้าในเวลาประมาณ 11.10 น. ของวันที่ 8 พ.ย. 2563 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้แถลงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มราษฎร ว่า ได้จัดวางกำลังตำรวจ 59 กองร้อย หรือ 9,145 นาย แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 3 พื้นที่ โซนที่ 1 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพื้นที่โดยรอบ ตั้งแต่ถนนราชดำเนินกลาง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงแยกผ่านฟ้า อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผบก.น.1
ส่วนโซน2 พื้นที่สนามหลวง ถนนโดยรอบสนามหลวง ศาลฎีกา และบริเวณใกล้เคียง อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 และโซน 3 ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า แยก จปร. แยกมัฆวาน ถึงบริเวณทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่โดยรอบ อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.
พร้อมฝากเตือนผู้ชุมนุม และผู้จัดการชุมนุม ต้องระมัดระวังการกระทำผิดตามมาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมระยะ 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วัง ที่ประทับ หรือที่พำนัก ห้ามมีการชุมนุมโดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามด้วยเป้าหมายของกลุ่มมวลชนที่กำหนดกิจกรรมการชุมนุม เรื่องการเขียนจดหมายนำส่งสถาบันเบื้องสูง จึงนำมาสู่จุดที่ต่างฝ่ายไม่สามารถเลี่ยงเผชิญหน้ากันไม่ได้ รวมถึงการตัดสินใจใช้น้ำฉีดสกัดผู้ชุมนุมไม่ให้ผ่านเข้าไปในพื้นที่ควบคุมพิเศษ หลังจากมวลชนได้เดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สู่เขตพื้นที่พระบรมมหาราชวัง โดยมีข้อมูลว่าในเวลาประมาณ 19:23 น. พล.ต.ต.เมธี รักษ์พันธุ์ ผบ.เหตุการณ์ ได้ประกาศขออย่ามวลชนเข้าใกล้แนวเขตพระบรมหาราชวัง พร้อมระบุการตัดสินใจฉีดน้ำเป็นตามขั้นตอนที่ได้แจ้งไปก่อนหน้า
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยภายหลังกลุ่มราษฎรยุติการชุมนุม ด้วยการยินยอมให้มีการนำจดหมาย หรือ หนังสือ หย่อนลงในตู้ไปรษณีย์ดัดแปลงจากถังขยะ พร้อมรับปากจะดำเนินการตามให้ที่แกนนำมวลชนแจ้งวัตถุประสงค์ โดยยืนยันถึงสาเหตุการใช้น้ำควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้เป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่หลังจากได้เจรจาแจ้งเตือนกับผู้ชุมนุมไปแล้วแต่กลับพยายามฝ่าฝืนเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม จึงจำเป็นต้องใช้น้ำสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่าเป็นน้ำเปล่าไม่มีการผสมสารเคมีใด
ส่วน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ้างถึงความจำเป็นต้องใช้รถฉีดน้ำในครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นการเตือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามา และการฉีดน้ำเป็นการฉีดขึ้นฟ้าให้เป็นละอองน้ำ ไม่ได้จงใจให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ส่วนกรณีที่ตำรวจมีการขอโทษกลุ่มผู้ชุมนุมหลังจากใช้รถฉีดน้ำไปนั้น เป็นเพราะไม่อยากให้สถานการณ์บานปลายขึ้นไปกว่านี้
ขณะเดียวกันในโลกโซเชียลมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมในหลายประเด็นจากการชุมนุมทางการเมืองที่ระบุว่าเป็นไปโดยสงบ สันติ อหิงสา แต่โดยข้อเท็จจริงการ์ดอาสาเองก็ไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ จนนำไปสู่การแสดงออกด้วยพฤติกรรมหยาบคาย รวมถึงการทำร้ายเจ้าหน้าที่ , การยึดรถเมล์เพื่อเปิดทางการเข้าสู่พื้นที่ใกล้พระบรมมหาราชวัง, การทำลายรื้อรั้วลวดหนาม , การปาระเบิดควัน (ต่อมามีการชี้แจงว่าเป็นพลุควัน) หรือ กระทั่งความพยายามจะจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ที่มีผู้ห้ามไว้ได้ทัน
>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<