- 09 พ.ย. 2563
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันทหารทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป้องกันม็อบบุกรุกเขตพระราชฐาน ลั่นยอมให้ม็อบเข้าใกล้พระบรมมหาราชวังไม่ได้ เพราะถ้ามีความเสียหายใครจะรับผิดชอบ จากสิ่งที่มวลชนเตรียมพลุมาก่อความวุ่นวาย
ยังคงเป็นกระแสข่าวที่มีการพูดถึงในพฤติกรรมของกลุ่มมวชนที่เรียกตัวเองคณะราษฎร แล้วอ้างเรื่องการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ถึงขั้นมีการนัดหมายรวมตัวเขียนจดหมาย หย่อนลงในตู้ไปรษณีย์ที่ดัดแปลงมาจากถังขยะ ส่งมอบให้มีการนำทูลเกล้าฯสถาบันเบื้องสูง
( คลิกอ่านข่าวประกอบ : เปิดเบื้องหลังเดือด ม็อบบุกพระบรมมหาราชวัง ตร.ฉีดน้ำสกัดการ์ดคุมมวลชนไม่อยู่ หวิดบานปลาย )
ล่าสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มีการกล่าวถึงกรณีที่มีภาพปรากฎว่ามีการส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563 และมีทหารกองพันทหารราบ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดง (พัน.ร.นรด. ) ได้รับบาดเจ็บหนึ่งนาย จากการถูกมวลชนปาของแข็งเข้าใส่บริเวณหน้าผาก ว่า เจ้าหน้าที่ที่ไปไม่ได้ไปในลักษณะการควบคุมฝูงชน เพราะอยู่นอกเครื่องแบบ แต่เจ้าหน้าที่ตรงนั้นที่เป็นข่าวไปอยู่หลังแนวตำรวจ
"ทั้งนี้ตนขอพูดในฐานะที่ดูแลงานด้านความมั่นคง ซึ่งสถานการณ์เมื่อวานนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมุ่งไปสู่พระบรมมหาราชวัง , ศาลหลักเมือง , วัดพระแก้วทั้งหมดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มีใครรับประกันหรือรับผิดชอบได้หรือไม่ ต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ทำการเฝ้าระวังป้องกัน ในส่วนของทหารก็อยู่บริเวณหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีมวลชนหลุดแนวตำรวจออกมาก็จะเป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องป้องกันเพราะในส่วนของการ์ด ที่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม ก็คุยกันแล้วว่าเป็นการชุมนุมอย่างสงบและสันติ เราพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง ทำกลุ่มผู้ชุมนุมและความมั่นคงได้คุยกันมาตลอด"
นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้การชุมนุมดังกล่าว จะผิดพ.ร.บ.การชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ก็ประนีประนอม ไม่ได้ดำเนินคดีทั้งหมด ใครที่ทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการเฉพาะรายบุคคลในส่วนของการ์ดที่ดูแลรักษาความปลอดภัยก็ต้องยอมรับว่าเขาพยายาม เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในสิ่งที่เขาอยากจะกระทำ และยืนยันในเรื่องของการชุมนุมโดยสงบและสันติ
ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่ามีกลุ่มคน ซึ่งตนได้ย้ำไว้เสมอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงต้องควบคุมให้ได้ ถ้าเกิดความรุนแรงเมื่อไหร่ประเทศชาติก็จะถอยลงไปอีกที เมื่อวานหากดูจากคลิปหรือข้อมูลต่างๆทหารที่ออกไปส่วนนั้น ก็คือช่วยไปดูแลเจ้าหน้าที่อยู่ข้างหลัง หากมีอะไรขึ้นมาทหารจะได้ช่วยตำรวจและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทหารตรงนั้นกลับได้รับบาดเจ็บเสียเอง และที่ได้รับบาดเจ็บก็เพราะว่ามีกลุ่มที่ต้องการสร้างความรุนแรง"
" หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยไป พวกที่ต้องการสร้างความรุนแรง ก็เข้าไปได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้สกรีนคน ซึ่งเราก็เห็นแล้วในคลิปว่าเขาเตรียม สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับประทัด ที่มีไฟจุด ขว้างข้ามรถบัส ผมถามว่าหากปล่อยไป จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา หากปาเข้าไปในศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว เกิดความเสียหายใครจะออกมายืนรับผิดชอบ แล้วความรู้สึกของ คนทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร"
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวในช่วงท้าย ว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องช่วยกัน ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาพร้อมอยู่แล้วเพราะอุทิศตนและยอมรับอยู่แล้ว แต่อย่าไปเอาประเด็นนั้นมาเป็นความขัดแย้ง ขอให้มองว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อส่วนรวมและประเทศชาติ จะเกิดอะไรขึ้น หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ทำตรงนั้น เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้วถือเป็นเรื่องดีที่สุดท้ายแล้วสามารถเจรจากันได้ว่าทำได้แค่ไหน
เมื่อถามว่าจะสามารถยอมรับได้ขนาดไหน หากมีการบุกรุกพื้นที่เขตพระราชฐานในโอกาสหน้า พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เขตพระราชฐาน มีลักษณะคล้ายกับบ้าน เราก็ไม่ต้องการให้ใครมาบุกรุก ทุกคนก็รักบ้านตัวเองและครอบครัวตัวเอง
สิ่งที่ตนพยายามก็คือย้ายเกิดความรุนแรงเพราะสถานการณ์ตอนนี้เรากำลังดีขึ้น จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ประเทศไทยทำได้ดี และที่ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำลังชายแดนก็คือไปเน้นย้ำเรื่องนี้ไม่ให้การ์ดตก
เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีทางออก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวย้ำว่า ตนได้จำไว้เสมอว่าการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมืองหากทุกคนมีสติและมองกระจกให้รอบด้าน ว่าควรจะทำอะไร
ส่วนกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลอะไรบ้างหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ตนก็ได้รับคำสั่งว่าให้ดูแลตามแนวชายแดนโดยเฉพาะการป้องกันเรื่องโควิด ตนก็รับคำสั่งมา ตามภารกิจหน้าที่ของตน
เมื่อถามว่าในสถานการณ์แบบนี้บทบาทของทหารควรเป็นอย่างไร พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่าบทบาทของทหาร ก็เป็นไปตามที่ได้ระบุไว้ทั้งเรื่องงานชายแดนการดูแลประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน พร้อมตอบคำถามว่ามีการเรียกร้องให้ทำรัฐประหาร ว่า "รัฐประหารติดลบ"