- 30 พ.ย. 2563
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. เวลา 12.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยบ้านพักในวันที่ 2 ธ.ค.ว่า เป็นเรื่องการวินิจฉัยของศาล อย่าไปคาดเดา วันนี้จะเห็นว่าทุกคนให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว ในส่วนของตนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่ตนเคารพ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร วันนี้ไม่ขอวิจารณ์
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. เวลา 12.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยบ้านพักในวันที่ 2 ธ.ค.ว่า เป็นเรื่องการวินิจฉัยของศาล อย่าไปคาดเดา วันนี้จะเห็นว่าทุกคนให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว ในส่วนของตนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่ตนเคารพ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร วันนี้ไม่ขอวิจารณ์
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น คิดว่าไม่น่าจะถูกต้อง การเดินทางไปกดดันในสถานที่ต่างๆอาจจะผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านั้นศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมาตรการมาแล้วหลังจากที่คนไปประกาศและกดดันมาตรการต่างๆ ของศาลจนกลายเป็นคดีความ ขอให้ระมัดระวัง สำหรับกรณีที่สังคมกำลังเอือมระอากับการชุมนุมนั้น ต้องฟังความทั้งสองฝ่าย อยากให้เข้าใจว่ากรกรีที่รัฐบาลจะต้องจัดการเด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงหลักการและเหตุผลในการบังคับใช้กฎหมายมีขั้นตอนและกระบวนการมากมาย รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีหลายฉบับ แต่ทั้งนี้ต้องดูเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของผู้ชุมนุมและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างกัน อยากให้ระมัดระวังเรื่องการสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น การชุมนุมในพื้นที่ปิดจะดีกว่าไปยึดถนนทำให้คนเดือดร้อนจากการจราจรที่ติดขัด อยากให้พิจารณาถึงสังคมโดยรวมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการมองว่าสื่อตั้งคำถามยั่วยุนั้น อยากให้สังคมติดตามดู ตนอยากให้สื่อนำเสนอข่าวที่เป็นกลางและเป็นประโยชน์ บางครั้งก็เป็นการไม่สมควรในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสิ่งที่สมเด็จพระราชินีเสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนแต่สื่อกลับนำเสนอพร้อมภาพประกอบไม่มาก ในขณะที่ข่าวการชุมนุมสื่อกลับให้ความสำคัญนำเสนอข่าวเต็มที่ อยากให้ชั่งน้ำหนักถึงความเหมาะสมด้วย รวมถึงข่าวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภาพรวมประเทศ อยากให้มีข่าวทั้งสองด้าน อย่าลืมว่าประเทศอยู่ได้เพราะคนทั้งประเทศช่วยกันเดินหน้า
ตนในฐานะนายกฯก็บังคับใช้กฎหมายกับทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน แต่ทั้งนี้กฎหมายก็คุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการกระทำที่เกินเลย อยากให้สื่อช่วยกันตักเตือนเพราะบางครั้งก็อาจจะขยายความรุนแรงเช่นจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการพูดถึงในแต่ละวันก็เห็นแต่ภาพถ่าย แต่มีการไปเขียนว่ามีการมาเป็นจำนวนมาก ต้องดูด้วยว่าจริงหรือไม่ โดยเฉพาะที่มีการพูดว่ามาเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านก็ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ก็เป็นห่วงสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวในพื้นที่หากเกิดความรุนแรงจะได้รับอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ความรุนแรง แต่ทหารต้องดูแลหน่วยที่ตั้งของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม อย่างไรก็ตามตนได้เน้นย้ำให้ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน มีการเบิกจ่ายให้ตรงเวลา ซึ่งงบประมาณมีอยู่แล้ว แต่อาจมีปัญหาติดขัดบ้าง ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
เมื่อถามว่า ได้มีการเตรียมแผนรองรับหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญมีผลคำวินิจฉัยในทางลบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป อย่าเพิ่งไปคิดล่วงหน้า เมื่อคำตัดสินออกมาค่อยว่ากัน ย้ำว่าตนเคารพคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร
เมื่อถามว่า มีแนวคิดไปอยู่บ้านพักนายกรับมนตรีที่ถ.พิษณุโลกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม เพราะขณะนี้ยังซ่อมแซมไม่เรียบร้อย แม้จะเคยซ่อมแซมมาแล้ว แต่ก็ชำรุดไปตามกาลเวลา
เมื่อถามว่า การเข้าพักบ้านพิษณุโลกไม่สะดวกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใหญ่โตเกินไป ต้องไปดูว่าความเหมาะสมเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าบ้านดังกล่าวมีอาถรรพ์นั้น คิดว่าคงไม่ เพราะเมื่อเราตั้งใจไปทำความดีก็คงไม่ต้องกลัวอะไร พระตนก็ไหว้ และคล้องพระด้วย อีกทั้งพระก็อยู่ในใจ หากเราทำความดีเพื่อชาติ แผ่นดิน และพระมหากษัตริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองเรา ที่ตนยืนมาได้ทุกวันนี้เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตน เพื่อทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ตนก็ระมัดระวังหลายเรื่องทั้งเรื่องการทุจริตและทำผิดกฎหมายที่ระมัดระวังอย่างที่สุด ผลประโยชน์ตนก็ไม่ได้ทำ หรือไปมีประโยชน์ส่วนตนสักอย่าง ที่ผ่านมาทั้งหมดรู้แก่ใจตนดี และมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป รวมทั้งมีหิริโอตัปปะ ตนนับถือศาสนาพุทธก็ต้องนำสิ่งเหล่านั้นมาปฏิบัติ ตนพยายามทำเต็มที่
เมื่อถามว่า ได้เตรียมบ้านพักข้างนอกไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็มีบ้านพัก ถ้าเขาไม่ให้อยู่ก็ต้องไป เพียงแต่พื้นที่บ้านของตนมีความจำกัด คิดว่าคงไม่มีใครทำร้าย แต่ผู้นำทุกประเทศต้องได้รับความคุ้มครอง จะให้ตนโดดเดี่ยวคนเดียวคงไม่ใช่ ในต่างประเทศมีการคุ้มครองดูแล
เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิดก็ทำให้ครม.หลุดออกจากตำแหน่งไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้หารือกัน ขอให้ผลคำตัดสินออกมาก่อนค่อยว่ากัน อย่าไปคิดล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาก็ตัดสินใจง่ายอยู่แล้ว ผลออกมาอย่างไรก็ตามนั้น ทุกอย่างมีคิดแบบระยะสั้นและระยะยาว ตนไม่ได้กังวลอะไร แต่กังวลอย่างเดียวคือการทำอย่างไรให้ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์มีความปลอดภัยและเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเป็นแกนหลักของประเทศ
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ส่วนจะเป็นการร่วมมือกันระหว่างคนในประเทศและต่างประเทศหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ กำลังติดตามอยู่
เมื่อถามว่า มีการพูดว่าแม้นายกฯลาออกทุกอย่างก็ไม่จบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ใช่ มันจบที่ไหน ก็ไปเรื่อย สุดแล้วแต่ว่าจะคิดอะไรก็แล้วไป แต่การทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำด้วย จะให้ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว คนอื่นไม่รับผิดชอบและไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมก็คงไม่ได้”
เมื่อถามว่า ปลายทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการไม่สามารถเดินต่อไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปคิดแทนเข้าได้อย่างไร เมื่อเขามีสิทธิ์ทำได้ก็ทำไป แต่ต้องเคารพกฎหมาย
เมื่อถามว่า แล้วข้อเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมจะสำเร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปคิดแทนได้อย่างไร และเป็นไปได้แค่ไหน กระบวนการบริหารราชการแผ่นดินทำได้หรือไม่ รวมถึงรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้ไม่ใช่นั้นประเทศชาติจะอยู่อย่างไร