- 11 พ.ค. 2564
ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาชี้ชะตา เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ และ มาโนช เสนพงศ์ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ยืนตามศาลชั้นต้น ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
วันนี้ (11 พ.ค.2564) ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาชี้ชะตา เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ และ มาโนช เสนพงศ์ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ยืนตามศาลชั้นต้น ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีอาญา กรณีการทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีนายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2
ในเวลานัดหมายฟังคำพิพากษา 09.30 น.ที่ผ่านมา ฝ่ายโจทก์ และจำเลยทั้ง 2ได้เดินทางมาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในห้องพิจารณาบัลลังค์ 7 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ออกนั่งบัลลังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 และได้ถ่ายทอดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนท์มายังบัลลัง 7 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คู่ความรอฟังคำพิพากษา ปรากฏว่าศาลได้พิจารณาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ทำให้นายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยทั้งสองถูกคุมตัวเข้าห้องควบคุมทันที
นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายโจทก์ เปิดเผยว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษายืนหมายความว่าจำเลยทั้งสองจำคุก 2ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้นคดีนี้เป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกา จำเลยทั้งสองต้องยื่นขออนุญาตฎีกา ยื่นฏีกานั้นมี 2 ประเด็ฌนที่ต้องเกิดในภายหน้าคือกรณีถ้าศาลอนุญาตนั้นถือว่าจบไปรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ถ้าศาลไม่อนุญาตคือต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาคือเข้าไปจำคุก 2 ปี
"แต่วันนี้ปัญหาที่จะเกิดกับจำเลยทั้งสองคือการยื่นขอประกันตัวต่อศาลนครศรีธรรมราช ซึ่งศาลนครศรีธรรมราช อาจจะมีคำสั่งให้ศาลฎีกาสั่งก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ติดตามคดีนี้ต้องดูเหตุการณ์เป็นลำดับขั้นตอนต่อไป"
สำหรับคดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากการทุจริตเลือกตั้ง ด้วยการจัดเลี้ยงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2556 ก่อนที่จะถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบแดงในปี 2557 หลังจากนั้น กกต.เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน เมื่อราว 7 ปีก่อน แต่ภายหลังคดีล่าช้าในกระบวนการชั้นพนักงานสอบสวน จนถึงชั้นอัยการ นายพิชัยในฐานะผู้เสียหายโดยตรงจึงยื่นฟ้องคดีด้วยตัวเองจนมีการกระบวนการพิจารณามาถึงศาลอุทธรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอว่าจะมีการอนุญาตให้ฎีกาคดีหรือไม่