- 22 ก.ค. 2564
กองทัพเรือแจง จำเป็นต้องซื้อ โดรน 4,100 ล้าน แม้ช่วงโควิดระบาดวอนเข้าใจด้วย ขอให้ทุกฝ่ายอย่าได้นำการทำหน้าที่และความจำเป็นเหล่านี้ ไปสร้างความเข้าใจที่ผิด สร้างความแตกแยก
วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ออกชี้แจงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายปี 2565 สภาฯ เตรียมพิจารณาตัดและยกเลิกการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ 3 โครงการ ของกองทัพเรือประกอบด้วย โครงการอากาศยานไร้คนขับ (UAV) โดรน 4,100 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างศูนย์วิทยุควบคุมเรือดำน้ำ จำนวน 300 ล้านบาท จัดซื้อเรืออเนกประสงค์วงเงินกว่า 4,000 ล้านบาท รวมไปถึงการซักฟอกโครงการเรือแอลพีดี ที่มีการจัดหาไปแล้ว เนื่องจากไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโควิด เผยขอให้เข้าใจ มีความสำคัญจริงๆ
เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam เผยข้อมูล พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงถึงแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ที่ปรากฏรายการต่าง ๆ ตามการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2565 โดยมีการชี้แจงเรื่องตั้งฐานบินชายฝั่ง ซื้อโดรน เพื่อใช้ลาดตระเวรตรวจการณ์ทั้งอ่าวไทย-อันดามัน ดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ชี้เป็นการเข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการรวดเร็ว ยาวนานและประหยัดงบแทนเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินที่ใช้มานาน ทั้งนี้โดนเรื่องการเมืองบีบจนยอมถอนงบประมานซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำไปแล้ว ขออย่าสร้างความแตกแยกเข้าใจผิด บั่นทอนกำลังใจประชาชนอีก
โดยพลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ที่ปรากฏรายการต่าง ๆ ตามการพิจารณางบประมาณอยู่ในขณะนี้นั้นว่า รายการต่าง ๆได้ผ่านกระบวนการพิจารณาโดยละเอียดอย่างถูกต้อง เปิดเผย และเป็นไปตามแนวคิดที่มีความจำเป็นตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการป้องกันประเทศและอธิปไตยทางทะเล การรักษาความมั่นคง และ ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพเรือต้องรับผิดชอบภารกิจการรักษาความมั่นคงทางทะเลมีพื้นที่สองฝั่งทะเล ซึ่งรับผิดชอบอาณาเขตทางทะเลประมาณ 323,388.32 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของอาณาเขตทางบกที่มีเนื้อที่อยู่ประมาณ 513,115 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะต้องจัดกำลังทางเรือและอากาศยานปฏิบัติการในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยไม่มีวันหยุด เพื่อลาดตระเวนเฝ้าตรวจ รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนในทะเลและเกาะแก่งต่าง ๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งทะเลอันดามัน
ปัจจุบันสถานภาพของเรือและอากาศยานของกองทัพเรือนั้น จากการที่ต้องมีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการดำรงภารกิจการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในทะเล ซึ่งการปฏิบัติการในทะเลนั้น จะทำให้เรือและอากาศยานมีผลการเสื่อมสภาพและสึกหรอมากกว่าปกติ ซึ่งมีผลต่ออายุการใช้งานของยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ
อีกทั้งเรือและอากาศยานส่วนใหญ่ก็มีอายุการใช้งานเกินเกณฑ์กำหนด รวมทั้งงบประมาณด้านปฏิบัติการของเรือรบและอากาศยานที่มีนักบินที่ได้รับแต่ละปีมีจำนวนจำกัด จึงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการของกองทัพเรือโดยตรง เช่น การใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ซึ่งสามารถสนับสนุนการลาดตระเวนตรวจการณ์ของเรือรบและอากาศยานที่มีนักบินทั้งด้านอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปฏิบัติการบนอากาศได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น และช่วยประหยัดงบประมาณด้านการปฏิบัติการ
รวมทั้งยังเป็นการใช้บุคลากรที่เป็นนักบิน ช่างเครื่อง และสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าอากาศยานที่ใช้นักบิน ซึ่งจะสามารถช่วยเสริมการใช้นักบินและช่างเครื่องของกองทัพเรือจากการปฏิบัติการบินในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง อันเป็นการลดความเสี่ยงได้
ดังนั้นจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกรายการนั้นมีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับการจัดหาดังกล่าว ประการสำคัญที่สุด คือ ในภาวะปัจจุบันที่มีการระบาดของโควิด-19 ประเทศต้องมีภาระด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จะต้องรับมือ
กองทัพเรือจึงได้ตระหนักในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก และต้องการมีส่วนในการร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการช่วยเหลือรัฐบาล และพี่น้องประชาชนดังจะเห็นได้จากการที่กองทัพเรือได้ขอเลื่อนโครงการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ขอทำความเข้าใจว่า ในส่วนของยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ที่เหลือนั้น ยังคงมีความจำเป็นด้วยจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะทำให้การปฏิบัติงานในทะเลเพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติทางทะเลมีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเป็นหลักประกันในการสร้างความมั่นคงทางทะเลและสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลพี่น้องประชาชนที่มีกิจกรรมทางทะเลให้ปลอดภัยตลอดไป
โฆษกกองทัพเรือ ได้ขอให้ทุกฝ่าย อย่าได้นำการทำหน้าที่และความจำเป็นเหล่านี้ ไปสร้างความเข้าใจที่ผิด สร้างความแตกแยก และทำให้เกิดผลกระทบและบั่นทอนต่อกำลังใจของพี่น้องประชาชน หรือผลในด้านอื่น ๆ อันจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับหลายๆ ฝ่าย เพราะความจำเป็นดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อภาระจำเป็นที่มีอยู่
หากทุกฝ่ายได้พิจารณาในรายละเอียดด้วยเหตุและผล และมีความเป็นธรรมจากจิตใจ กองทัพเรือจึงขอเรียนชี้แจงด้วยความจริงใจ และความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อประเทศชาติที่เรารักในการดูแลอาณาเขตทางทะเลของไทยที่มีพื้นที่มหาศาลและมีทรัพยากรทางทะเลที่มีค่าเป็นจำนวนมากให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และ ปลอดภัย นั้น กองทัพเรือจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยจิตใจที่มั่นคง
"เพราะทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา จะขอเฝ้าตราบจนชีวิตเราสิ้น...."