เทศบาลเมืองป่าตองมีระบบรวบรวมน้ำเสียครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด สำหรับปัญหาดังกล่าว เทศบาลเมืองป่าตองได้มีการประชุมเรื่องปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี ณ หาดป่าตอง ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๑๕ ,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ ตัวแทนจาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง ว่าเรื่องประเด็น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสในน้ำทิ้งจากโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ และ แหล่งน้ำธรรมชาติ (คลองและทะเล) รวมทั้งสัดส่วนไนโตรเจนและฟอสฟอรัส (N:P) ที่เปลี่ยนไปส่งต่อผลการเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี เมื่อเปรียบเทียบมาตรฐานการระบายน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนฯ ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานฯ แต่เนื่องจากลักษณะอ่าวป่าตองเป็นอ่าวกึ่งปิด จึงทำให้ธาตุอาหารเหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแพลงก์ตอน
ทางด้านแนวทางแก้ไขระยะสั้น เทศบาลเมืองป่าตองมีการจัดตั้งเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพื่อทำการขยายระบบรวบรวมน้ำเสียเพื่อรวบรวมน้ำเสียเข้าสู่ระบบฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบรรจุในแผนพัฒนา ๓ ปี ของเทศบาล ดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรา ๘๐ ตาม พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่สถานประกอบการอยู่นอกเขตระบบรวบรวมน้ำเสีย และ/ หรือ มีระบบบำบัดน้ำเสียเป็นของตนเอง จะดำเนินการตรวจสอบการเชื่อมท่อระบายน้ำทิ้งของบ้านเรือนและสถานประกอบการเพื่อให้เข้าสู่ระบบรวบรวมน้ำเสีย
สำหรับการแก้ไขระยะยาว กรณีระบบรวบรวมน้ำเสีย ได้มีโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียกะหลิม เพื่อขยายระบบรวบรวมน้ำเสียให้ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนกะหลิม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีระบบรวบรวมน้ำเสีย (คาดการณ์ปริมาณน้ำเสียปัจจุบันประมาณ ๓๐,๐๐๐ ลบ.ม) โดยการก่อสร้างจะเป็นการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียต่อจากถนนพระบารมีที่มีอยู่เดิมจนสุดเขตเทศบาลเมืองป่าตองติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบรายละเอียด (Feasibility Study & Detail Design) และจัดทำเอกสารประกอบอื่นๆ การรับฟังความความคิดเห็นของประชาชนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการรอเข้าบรรจุแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562
นอกจากนี้ ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ระยะที่ 4 เพื่อขยายความสามารถของระบบในการบำบัดน้ำเสียเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งคาดว่าระบบบำบัดน้ำเสียนี้ มีความสามารถในการรองรับน้ำเสียสัมพันธ์กับปริมาณการขยายตัวของชุมชนและสถานประกอบการ ล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบโครงการฯ แล้ว แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องข้อสัญญาในการเช่าที่ธรณีสงฆ์
สำหรับปริมาณเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้น เดิมเทศบาลเมืองป่าตองได้ดำเนินการควบคุมเฉพาะร้านซักอบรีด ซึ่งอยู่ในระบบเครือข่ายบำบัดน้ำเสียของเทศบาล ก็จะไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่กรณีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ไม่อยู่ในระบบบำบัดน้ำเสีย ทางเทศบาลเมืองป่าตองจะเร่งสำรวจจำนวนที่แน่ชัด เพื่อหาวิธีนำเข้าร่วมกับระบบบำบัดน้ำเสียต่อไป