- 28 มิ.ย. 2562
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ประกาศปิดพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม - 14 กันยายน 2562 เพื่อเตรียมการติดตั้งนิทรรศการพิเศษ เรื่อง "จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนและกองทัพทหารดินเผา"
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ประกาศปิดพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม - 14 กันยายน 2562 เพื่อเตรียมการติดตั้งนิทรรศการพิเศษ เรื่อง "จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนและกองทัพทหารดินเผา"
โดยทางเพจ Education.National Museum Bangkok เที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้ประกาศปิดพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เพื่อเตรียมการติดตั้งนิทรรศการพิเศษ เรื่อง จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนและกองทัพทหารดินเผา โดยระบุข้อความว่า
For English please see below,
ข่าวประชาสัมพันธ์
ประกาศปิดพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ระหว่างวันที่ ๑๗ กรกฎาคม - ๑๔ กันยายน ๒๕๖๒ เพื่อเตรียมการติดตั้งนิทรรศการพิเศษ เรื่อง "จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนและกองทัพทหารดินเผา"
ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เร็ว ๆ นี้ สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๔๐๒, ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๓๓ (วันพุธ - อาทิตย์)
Closure Announcement
The Siwamokkhaphiman Audience Hall will be closed
During 17 July to 14 September 2019.
For the preparation of a special exhibition on
"Qin Shi Huang: The First Emperor of China and His Terracotta Warriors".
For more information, please contact:
0 2224 1402, 0 2224 1333 (Wednesday to Sunday)
สำหรับพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน เป็นพระที่นั่งเดิมภายในพระราชวังบวรสถานมงคล สร้างขึ้นครั้งแรกโดย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ต่อมารื้อสร้างใหม่โดย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เดิมพระที่นั่งแห่งนี้เป็นพระที่นั่งโถง ต่อมา เมื่อใช้พระที่นั่งแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในปี พ.ศ. 2430 จึงได้สร้างผนังขึ้นมา ปัจจุบัน พระที่นั่งองค์นี้เป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นชื่อที่ปัจจุบันใช้เรียกพระเจ้าเจิ้ง แห่งเมืองฉิน มีความหมายตรงตัวว่า "ปฐมจักรพรรดิฉิน" พระองค์ทรงสถาปนาราชวงศ์ฉินเมื่อปีที่ 220 ก่อนคริสตกาล และทรงผนวกดินแดนจีนสำเร็จในปีที่ 221 ก่อนคริสตกาล เป็นอันสิ้นสุดยุครณรัฐพระองค์ไม่ทรงใช้ตำแหน่ง "หฺวัง" (ราชา) ดังที่เคยใช้กันมาในสมัยราชวงศ์ซางและราชวงศ์โจว แต่ทรงใช้ตำแหน่ง "หฺวังตี้" (ราชาธิราช หรือนิยมแปลกันว่า จักรพรรดิ) จึงถือกันว่า ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกแห่งประเทศจีน ตำแหน่ง "หฺวังตี้" นี้พระเจ้าแผ่นดินจีนทรงใช้สืบต่อกันมาอีกสองพันปี
ในรัชสมัยของพระองค์ แม่ทัพนายกองของพระองค์มีบทบาทอย่างยิ่งในการขยายแว่นแคว้น การรบกับเผ่าเยฺว่ทางใต้เมืองฉู่ทำให้ดินแดนไป่เยฺว่ของเมืองหูหนานและกวั่งตงตกเป็นของเมืองฉิน ส่วนการรบกับพวกซฺยงหนูในเอเชียตอนกลางส่งผลให้เมืองฉินได้ดินแดนเอ้อเอ่อร์ตัวซือของกลุ่มซฺยงหนู แม้ที่สุดแล้วจะเป็นเหตุให้มั่วตู๋ ฉันยฺหวี ผู้นำซฺยงหนู สามารถผนวกดินแดนได้บ้างก็ตาม พระองค์ยังได้อำมาตย์ราชเสวกหลายคน เช่น หลี่ ซือ เจ้าพระยามหาอุปราช มาช่วยปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจเพื่อจัดระเบียบประเพณีอันหลากหลาย เป็นเหตุให้ทรงเผาตำรา ฝังบัณฑิต
พระองค์ยังทรงรวมกำแพงเมือง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปนั้นเข้าเป็นกำแพงเมืองจีน สร้างถนนหนทางระบบใหม่เป็นการใหญ่ และสร้างสุสานหลวงโดยมีรูปปั้นองครักษ์ขนาดเท่าคนจริงคอยพิทักษ์อยู่ ระหว่างที่เสด็จอยู่ในราชสมบัตินั้น พระองค์ทรงเสาะแสวงหาน้ำอมฤตมาตลอด แต่สุดท้ายก็สวรรคตเมื่อปีที่ 210 ก่อนคริสตกาล
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ Education.National Museum Bangkok เที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร