- 17 ก.ค. 2563
กำลังการผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น เน้นกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยงเป็นลำดับแรก
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากปัญหาสถานการณ์กลุ่มทหารอียิปต์ มาปฏิบัติภารกิจทางทหาร และกรณีเด็กหญิง อายุ 9 ขวบ เดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวคณะทูต และตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งทำให้ประชาชนตื่นตัวในการป้องกันและหาซื้อหน้ากากอนามัยมากขึ้น อาจทำให้มีการกักตุนและส่งผลให้หน้ากากอนามัยขาดแคลนอีกครั้งนั้น กรมการค้าภายในขอชี้แจงว่า ในช่วงที่ผ่านมาที่สถานการณ์โควิด-19 รุนแรง มีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ในประเทศเพียง 9 ราย ผลิตได้ 1.2 ล้านชิ้น/วัน และผู้ผลิตได้มีการปรับไลน์การผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน และปัจจุบันมีผู้ผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นเป็น 17 ราย (กำลังการผลิต 3.6 ล้านชิ้นต่อวัน) และมีผู้ที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนมีแผนเปิดโรงงานอีก 10 ราย รวมทั้งสิ้น 27 ราย คาดว่าจะมีกำลังการผลิตรวม 4.70 ล้านชิ้นต่อวัน ทั้งนี้ในการจัดสรรหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด รัฐบาลได้ดูแลโดยให้โรงงานผู้ผลิตในประเทศจัดส่งให้กับรัฐทั้งหมด และกำหนดราคาจำหน่ายปลีก ไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท โดยกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยงเป็นลำดับแรก คือ กระทรวงสาธารณสุขกระจายให้กับบุคลาการทางการแพทย์ 1.8 ล้านชิ้น/วัน และกระทรวงมหาดไทย กระจายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด 1.2 ล้านชิ้น/วัน (สำหรับ 2 แสนชิ้นเป็นการกระจายให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ) ดังนั้น จะมีหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ส่วนเหลือ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้หน่วยงานเอกชน และกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ รวมทั้งประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของประชาชนทั่วไป กระทรวงสาธารณสุขประชาสัมพันธ์ให้ใช้หน้ากากทางเลือก เช่น หน้ากากผ้า หรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองนั้น ปัจจุบันหน้ากากทางเลือกมีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งได้มีการดูแลราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ดังนั้น หากพบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร หรือมีการกักตุนสินค้า สามารถแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ