เละเป็นโจ๊ก!! "หนุ่มโพสต์เดือด" ถามหาสำนึกผู้บริหารสนามบินดัง หลังรุ่นพี่วูบหัวฟาดพื้น จนท.ช่วยเหลือช้า แถม2มาตรฐาน ซัดไร้ค่ายิ่งกว่าสุนัข!!

 

วันที่ 4 ก.พ.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บนโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ข้อความสุดดุเดือด ซึ่งโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ได้ตำหนิการทำงานของผู้บริหารสนามบินภูเก็ต ภายหลังรุ่นพี่ของหนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ เกิดอาการวูบ ล้มลงศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง ภายในอาคารผู้โดยสารภายนอกประเทศ สนามบินภูเก็ต ขณะกำลังเดินทางไปร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 แต่กลับไม่มีหน่วยพยาบาลของท่าอากาศยานประจำที่อาคารผู้สารภายในประเทศ ทำให้รุ่นพี่ของเขาได้รับการช่วยเหลือล่าช้า โดยใช้เวลานานถึง 30 นาทีเลยทีเดียว ทำให้คณะที่ร่วมเดินทางต้องช่วยกันปฐมพยาบาลหนุ่มเคราะห์ร้ายคนดังกล่าวในเบื้องต้น พร้อมกับได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานของร้านค้าต่างๆที่อยู่ในสนามบิน ที่หยิบยื่นน้ำใจมาให้ ทั้งกระดาษทิชชู่ ผ้าขนหนูผืนเล็ก และยาดม

 

นอกจากนี้  ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ยังได้โพสต์ฝากไปถึงผู้บริหารสายการบินภูเก็ตถึงคุณภาพและมาตรฐานของสนามบิน โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน โดยมีเนื้อหาทำนองผู้บริหารสายการบินภูเก็ตรักคนต่างชาติมากกว่ารักคนไทยด้วยกันเองหรือ? หรือได้ปฏิบัติกับคนไทยจนดูไร้คุณค่า ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี เช่นนี้...

 

วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2560) ผมตื่นตี 3 เดินทางไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต...เที่ยวบิน FD 3009 ไปลงดอนเมือง เพื่อที่จะเข้าร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

 

แต่...การเดินทางวันนี้ต้องจบลง...ด้วยเหตุบังเอิญเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซะก่อน...เจ้าหน้าที่ที่เป็นรุ่นพี่ที่ผมให้ความเคารพนับถือท่านหนึ่งได้ประสบอุบัติเหตุในขณะที่กำลังเดินย้ายจากประตู 5 เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ประตู 81 ได้เกิดอาการวูบ ล้มลง...ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง...ผมต้องช่วยปฐมพยาบาลและเพื่อนอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ไปด้วยกันคอยประสานงานแก้ปัญหา...แล้วนำไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตโดยรถพยาบาลของท่าอากาศยาน(ตอนนี้อาการอยู่ในขั้นปลอดภัย)

 

...จากเหตุการณ์ในครั้งนี้มันได้สอนให้ผมได้เรียนรู้ว่าคนที่เกิดอาการแบบนี้ เป็นสาเหตุมาจากหลายประการ สาเหตุอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ "การพักผ่อน" ที่ไม่เพียงพอ และกอรปกับสาเหตุอื่นๆที่มาประกอบเข้าด้วยกัน เช่น วัย การดื่ม เป็นต้น...และมันบอกผมว่า "ต้องระวังและดูแลเรื่องสุขภาพให้มากขึ้น" และถ้าผมเจอใครก็ตามที่มีอาการแบบนี้อีก ถ้าผมเห็นเขาและอยู่ใกล้ตัวเขา...ผมจะต้อง(พยายาม)หาทางช่วยอย่าให้เขาล้มศีรษะฟาดพื้น...วันนี้ผมเสียใจ...ที่ผมไม่อาจช่วยเขาได้ทันครับ

 

...แต่อย่างไรก็ตาม...อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากก็คือ อุบัติเหติครั้งนี้มันได้สะท้อนถ่ายให้เห็นถึงปัญหาสังคมไทยได้เป็นอย่างดีก็คือ ปัญหาของชนชั้นระดับผู้นำในเรื่องความมักง่าย หละหลวม ไม่เอาใจใส่ ไรความเอาจริงเอาจัง ต่อผู้โดยสารที่มาใช้บริการในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งอาคารฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่มาใช้บริการ...กล่าวคือ จากการที่ผมได้ยินมาจากน้องๆที่เป็นพนักงานขายของร้านค้าต่างๆภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศของท่าอากาศยานแห่งนี้ เล่าให้ฟังว่า...หน่วยพยาบาลของท่าอากาศยานแห่งนี้จะมีอยู่เฉพาะที่อาคารผู้โดยสารภายนอกประเทศ ซึ่งจะมีชาวต่างชาติมาใช้บริการเป็นส่วนใหญ่...ส่วนที่อาคารผู้สารภายในประเทศกลับไม่มีหน่วยพยาบาลของท่าอากาศยานประจำที่อาคารแห่งนี้...

 

 

ผมจึงไม่แปลกใจว่า...เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏท่านหนึ่งที่เดินทางไปกับผมได้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว กว่าจะได้รับการปฐมพยาบาลจากหน่วยพยาบาลของท่าอากาศยาน...ใช้เวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง...ทั้งที่ที่ตั้งระยะห่างของอาคารผู้โดยสารทั้งสองไม่ได้ห่างกันมาก เชื่อมต่อกันก็ว่าได้...แต่ทำไมถึงช้าขนาดนี้...มิทราบ...นี่โชคดีนะพี่ชายของผมที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บไม่เป็นอะไรมาก...ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าหากว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้มันมีความรุนแรงกว่าที่เป็นนี้...แล้วอะไรจะเกิดขึ้นสิ่งที่ผมต้องตกใจก็คือ น้องๆพนักงานประจำร้านแถวนั้นเล่าให้ฟังว่า...เมื่อไม่กี่วันก่อนได้มีคนไทยที่มีอาการแบบเดียวกันนี้ล้มลงหัวฟาดพื้น...แล้วรอหมอและหรือพยาบาลประจำท่าอากาศยานมาดูแลอาการ...และเจ้าหน้าที่มาถึงช้า(แบบที่มาให้บริการในวันนี้)คนบาดเจ็บไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงที...สุดท้ายคนไทยคนนั้นได้เสียชีวิตลง

 

มันน่าเศร้าไม๊ครับ?!!!....เกิดเป็นคนไทยนี่(แมร่ง)ชีวิตมันช่างดูไร้ค่ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน...มีค่าน้อยกว่าหมาตัวหนึ่ง...ดูเหมือนว่าไร้คุณค่า ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรีกว่าไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวเสียนี่กระไร...ขอเรียกร้องให้ไอ้ผู้บริหารมันมีมโนธรรมสำนึกที่ดีกว่านี้หน่อยนะ...

 

 

...และมาถึงตรงนี้...ผมอยากจะถามหน่อยเถอะ...ว่า...!!!!

1.ทำไมทางท่าอากาศยานภูเก็ตถึงไม่จัดหน่วยแพทย์พยาบาลไว้ประจำภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ?

 

2.พวกXXในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ตเห็นว่าคนไทยที่ไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานภูเก็ตมีความต่ำต้อย ไร้คุณค่ากว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติหรืออย่างไร?

3.พวกXXผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ตรักคนต่างชาติมากกว่ารักคนไทยด้วยกันเองหรือ?

 

4.(ถ้าอ้างว่างบไม่พอในการให้บริการ)...ก้อจะถามว่าพวกXXผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ตและผู้บริหารท่าอากาศยานไทยยอมลดเงินเดือน สวัสดิการและผลประโยชน์ต่างๆลงมาหน่อยมา เพื่อที่จะนำเงินมาใช้ในการบริหารจัดการเรื่องสวัสดิการและความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที่เป็นคนไทยด้วยกันได้หรือไม่(อย่าเห็นแก่ตัวกันนักเลย)

 

ปล. ขอขอบคุณน้องๆที่เป็นสุภาพสตรีพนักงานของร้านค้าแถวนั้น(ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานภูเก็ต)ที่มีนำ้ใจมาช่วยดูและให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งมอบกระดาษทิชชู่ ผ้าขนหนูผืนเล็ก และยาดมให้ผมมาใช้ในการปฐมพยาบาลพี่ชายผมในครั้งนี้...(น้องๆเค้ายังเคืองคนที่รับผิดชอบเรื่องการบริการด้านสวัสดิการและความปลอดภัยของผู้โดยสารแทนพวกกระผมด้วยนะครับ...อยากจะบอกว่า "น่ารักมากๆ")...ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีนะครับ!!!

 

เรียบเรียง เนื้อหา : พัทธนันท์ สำนักข่าวทีนิวส์