- 02 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เหตุการณ์รถยนต์นิสสัน Juke เกิดเพลิงไหม้ขึ้น บริเวณหน้าบ้านพักหลังจากนำรถเข้าศูนย์บริการจนเป็นที่มาถึงการเข้าร้องเรียน สคบ. เพื่อขอความเป็นธรรมในการที่ นาย นัฐพล ปั้นเหน่ง เจ้าของรถ ไม่ได้รับการดูแล ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งนาย นัฐพล ปั้นเหน่ง ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า ก่อนอื่นต้องขอเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ก่อนการเคลมอะไหล่ จากประกันก่อนก็คือ รถที่ผมใช้งานอยู่เป็นรถยนต์ รุ่น Juke 1.6 ปี 2014 ออกรถมาพร้อมกับชุดแต่งที่ทางโชว์รูมมีให้ เรียกว่า ชุด Nismo มันมาพร้อมกับไฟหรี่สีขาวนวล ไฟคู่หน้าซีนอนสีขาวออกทองๆ พร้อมทั้งไฟตัดหมอกสีขาวซีนอน เช่นเดียวกัน ด้วยความชอบส่วนตัวจึงตัดสินใจติดตั้งโคมโปรเจคเตอร์ จากร้านภายนอกคือชอบอยากได้ไฟวงแหวน ก็ไปติดตั้งมาร้านดัง แถวโครงการ สิริอุสพลาซ่าย่านลาดพร้าว และอยากประหยัด เลยติดตั้งชุดแก๊สเป็นเชื้อเพลิงเข้าไปด้วย ร้านที่ติดก็ หงษ์... ที่อยู่ย่านนครปฐม ก็ใช้งานรถมาเรื่อยๆประมาน 1 ปี เศษ เกิดชนท้ายรถชาวบ้าน เป็นฝ่ายผิด ครั้งนั้นซ่อมส่วนนหน้าไปค่อนข้างเยอะ เคลมประกันครั้งนั้นเอาเข้าศูนย์บริการที่หนองแขม แถวช่อง 3 พนักงานตรวจเช็ครถละเอียดมาก แจ้งลูกค้าทุกขั้นตอนว่าส่วนไหนที่รถลูกค้าไปตกแต่งเพิ่มเติมมาเช่นไฟหน้า ลูกค้า จะต้องยินยอมให้เอาอุปกรณ์มาตราฐานมาใส่และยินยอมให้ถอด อันที่ไม่เกี่ยวข้องออกทั้งหมดด้วยและไม่คืนชิ้นส่วนที่ถอดไปแล้วเพราะต้องส่งคืนประกัน เราตกลง จากนั้นก็มารับรถตรวจเช็คคุณภาพหลังงานเคลม กับทางศูนย์ ก็ผ่านไปด้วยดีช่างแนะนำและแก้ไขให้เรียบร้อยตามที่ตกลงเอาไว้ หลังจากนั้นออกจากศูนย์บริการได้ไม่กี่วัน ผมก็กลับไปติดตั้ง โคมโปรเจคเตอร์ จากที่เดิมร้านเดิมอุปกรณ์รุ่นเดิม เพราะทางศูนย์ เปลี่นเป็นตัวมาตราฐานของรุ่นรถ Juke มา หลังจากนั้นก็ใช้งานไปเข้าปีที่ 3 คือ ณปัจจุบัน ด้วยความไม่ระวัง ก็ขับไปชนรั้วที่จอดรถทำให้ได้รับความเสียหายจึงไปเคลมกับประกันภัยที่ได้ทำเอาไว้ คราวนี้ส่วนที่เคลมมี รายการประมาณนี้
1. ไฟหน้ารถสองข้างที่ชนกับรั้วมาเป็นลอย แจ้งประกันเปลี่ยนใหม่
2. ไฟตัดหมอก ข้างขวา โดนก้อนหินกระเด็นใส่แตก ประกันแจ้งเปลี่ยนใหม่
3 . ล่องรอย รอบๆคัน เคลมสี ล้อแม็คเป็นลอย อื่นๆ
หลังจากแจ้งประกันเรียบร้อยก็ได้ใบเคลมมา และก็ถึงเวลาเอารถเข้ารับบริการเพื่อแก้ไขจุดเสียหายดังที่กล่าวมา
ต้นเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้ติดต่อศูนย์บริการของนิสสัน แถวบางบัวทอง โดยโทรไปสอบถามว่ารับเคลมประกันของ บริษัทประกันภัยที่เรามีไหม เจ้าหน้าของศูนย์แจ้งว่ารับเคลม เพราะศูนย์ของเรา มีส่วนของงานซ่อมสีตัวถัง โอเค เราจะนำรถเข้าไปเคลม เจ้าหน้าที่ให้เราเอารถไปประเมินความเสียหายก่อนเราตอบตกลงและนำรถเข้าไปตรวจสอบตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งเบื้องต้น
ประมาณวันที่ 10/06/60 เจ้าหน้าที่ทำการถ่ายรูปล่องรอยความเสียหายไว้และนัดให้เอารถเข้ามาแก้ไขรายการทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งเราอยากทิ้งรถไว้เลยจะได้ไม่เสียเวลาอยากใช้รถเร็วๆ เจ้าหน้าที่แจ้งเรากลับมาว่าไม่อยากให้เอารถทิ้งไว้ที่ศูนย์ รออะไหล่เบิกมาครบก่อนแล้วค่อยเอารถมาแก้ไข ลูกค้าก็มีรถใช้ด้วย อ่ะโอเคตามนั้น
ประมาณวันที่ 13/06/60 ได้รับการติดต่อกลับว่า อะไหล่มาครบละ เอารถมาทิ้งไว้แก้ไขได้เลย เราสะดวกเข้าวันที่ 14/06/60 พอดีก็ตอบตกลงไป พอถึงเวลาก็เอารถเข้าไปที่ศูนย์พนักงานเช็คร่องลอยอื่นๆนอกเหนือจากที่แจ้งเคลมไว้ ให้เรารับทราบ จากนั้นแจ้งให้เราทราบว่า ไฟหน้ารถ ที่เป็นโปรเจคเตอร์แบบนี้ทางศูนย์ไม่มีนะ มีแต่ทรงมาตราฐานคู่รถของศูนย์เท่านั้น เราตอบว่าโอเคไม่เป็นไรเอาแบบมาตราฐานได้เลย เจ้าหน้าที่แจ้งต่อว่า ถ้าลูกค้าประสงค์จะติดตั้งโปรเจคเตอร์ของเดิม เดี๋ยววันรับรถผมจะเอาโคมไฟคู่เก่าเก็บไว้ให้ลูกค้า แล้วลูกค้าก็นำไปติดตั้งเองจากร้านข้างนอกเพื่อเอามาใช้งานได้ เราก็ถามกลับไปด้วยความสงสัยว่าแล้วอะไหล่ที่พังไม่ต้องส่งคืนประกันหรอ พนักงานใจใหญ่มาก บอกว่าเด่วผมแจ้งสูญหายไปไม่เป็นไรครับให้ลูกค้าเอากลับได้ เราก็โอเค แต่ไม่คิดจะเอากลับมาใช้อยู่แล้ว ถ้าจะติดคงไปติดตั้งชุดใหม่เลย ก็ตกลงเอารถทิ้งไว้และรับใบรับรถกลับมา แจ้งว่าประมาณ 10 วันรถเสร็จ ก็ประมาณ วันที่ 23/06/60 หรือ 24/06/60 เราบอกว่าอยากให้ทันวันที่ 23 เราจะเดินทางกลับ ต่างจังหวัด ถ้าทันแจ้งเราด้วย
เมื่อถึงวันที่ 22 เราได้ติดต่อไปสอบถามว่าเสร็จทันไหม เจ้าหน้าที่บอกไม่ทันต้องวัน 24 ให้มารับช่วงเช้า เราขอเช้าที่สุดได้ไหมเจ้าหน้าที่รับปากโอเค 7.30 น มารับได้เลยเสร็จแน่นอน
วันที่ 24 เวลา 7.30 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการติดต่อมาแจ้งเราว่าขอเลื่อนรับรถเป็น 12.00 น. เนื่องจากยังติดตั้งชุดกันชนหน้าและไฟเดย์ไลท์ ไม่เรียบร้อย เราก็ได้แต่ตอบไปว่า ครับ พอ 11.00 น. เข้าไปรับรถเจอเจ้าหน้าที่ แจ้งเราเพิ่มเติมว่ารถได้ช้าหน่อยครับกำลังให้ขัดสีทั้งคันอยู่ พอดีว่าละอองสีรถคันอื่นปลิวมาติดสีรถลูกค้า รถลูกค้าสีดำด้วยเห็นชัดเลยเรารับผิดชอบขัดสีรอบคันให้ ถึงตอนนั้นเราก็อึ้งนิ่งไปพักนึงแต่ก็ ยอมเดินขึ้นไปรอในส่วนต้อนรับลูกค้า นั่งรอไปประมาณ เกือบ 2 ชม. เจ้าหน้าที่เดินมาแจ้งรถเรียบร้อยแล้วไปตรวจรับได้
การตรวจรับ เจ้าหน้าที่ทำการขับรถมาจอดและให้เราไปเช็คล่องรอยต่างๆที่ได้แจ้งไว้ ก็มีส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย เช่น คิ้วยางบนหลังคา ยังไม่ได้ใส่เข้าที่เข้าใจว่าตอนทำสีบนหลังคาคงถอดออกแล้วไม่ได้ยัดเข้าที่เดิม , ความสกปรกภายในตัวรถชัดเจนมาก มีคราบดำเป็นจ้ำๆ ตามขอบประตู บริเวณอื่นๆ อีกประปราย
มาถึงส่วนของระบบไฟบ้าง ทำการสตร์าทเครื่อง อ่าวงานมาและ สตาร์ทไม่ติด เรียกเจ้าหน้าที่มาดู เปิดฝากระโปรงหน้ารถได้นั่นไง ไม่ขันขั่วแบตเตอรี่ไว้ปล่อยขั่วแบตเตอรี่ห้อยอยู่ เจ้าหน้าที่ท่านที่เปิดฝากระโปรงพูดขึ้นว่า “พี่คันที่สองแล้วที่ไม่ใส่มาแย่จริงๆ” ผมก็ได้แต่คิดในใจเอาแล้วไงจะมีประเด็นอื่นอีกไหม พอสตร์าทติด ก็ ทดสอบระบบไฟต่อ ไฟหรี่ติด ไฟตัดหมอกเปลี่ยนด้านขวามา โอเค ติด ไฟเดย์ไลท์ ที่ประกอบใหม่ ติด ไฟเลี้ยวติด ไฟหน้าติดไฟสูงใช้งานได้ เอ๋แต่ทำไมไฟด้านขวามันดูสว่างๆกว่าปกติ ถามเจ้าหน้าที่ไป และได้รับคำตอบว่าอาจะเป็นเพราะกลางวัน แสงภายนอกมันกระทบพอดี มุมมันได้เลยเห็นมันสว่างกว่าปกติ เราก็ด้วยความรีบจะไปบ้านต่างจังหวัด ถามกลับไปว่ารายการอื่นที่ไม่เรียบร้อย ผมขอเอาเข้ามาแก้ไขอาทิตย์หน้านะ เขียนลงไปในใบรับรถด้วยรายการไหนบ้างที่ยังไม่จบ พร้อมทั้งทิ้งคำถามไว้ว่า ผมต้องเช็คความปลอดภัยอื่นอีกไหม ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่นอีกไหม เกิดระหว่างผมเดินทางรถผมไปเสียขึ้นมานี่จบเลยนะ เจ้าหน้าที่รับรถพร้อม พนักงานอีกท่านทราบภายหลังว่าเป็นผู้จัดการฝ่าย ซ่อมสีและตัวถังของศูนย์ บอกกับเราอย่างมั่นใจว่าไม่ครับไม่ต้องห่วงปลอดภัยครับ อะโอเค งั้นก่อนออกถ่ายสำเนารายการเคลม ทั้งหมดให้เราด้วยเผื่อเราเจอจุดอื่นไม่เรียบร้อยอีก พนักงานรับรถก็ไปจัดการถ่ายสำเนาให้พร้อมทั้งเปิดท้ายรถเราบอกว่า นี่นะครับไฟเดิมของรถที่เป็นโปรเจคเตอร์สองดวง เราก็มองไปในกล่อง มีสองโคมไฟจริง โคมไฟละกล่อง สังเกตุเห็นว่าในกล่องมีอุปกรณ์น่าจะเรียกว่า บัลลาสต์ (Ballast) สำหรับใช้กับไฟซีนอล ในโคมเดิมที่เสีย เราสงสัยว่าแล้วทำไมมันมีข้างเดียวอีกข้างไปไหนหรือช่างทิ้งไปแล้ว แต่ด้วยความรีบก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็โอเค ขึ้นรถและเดินทางกลับต่างจังหวัดระหว่างเดินทาง สังเกตุเห็นว่าทำไมสถานะไฟมันแสดงว่ามันเปิดตลอดเวลา ทั้งที่แดดเปรี้ยงขนาดนี้ เลยลองปิดก็ดับปกติ ทดลองเปิดมาที่ ระบบไฟ Auto ที่ก้านเปิดปิดไฟของ Juke มันมีระบบ Auto ให้ใช้งาน มันก็เหมือนเดิมติดค้างเลย สงสัยมันคงมืดมั้งหรือเซ็นเซอจะเสียไว้ไปเเจ้งศูนย์ละกัน ก็ขับไปทั้งอย่างนั้น และโทรไปหาเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องไว้ เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวเอาเข้ามาอาทิตย์หน้าเช็คให้ครับ จากนั้นเดินทางถึงบ้านที่กำแพงเพชร ค่ำๆ จอดรถไว้หน้าบ้านดับเครื่องเข้าบ้านตามปกติ
วันที่ 25/06/60 เดินทางออกจากบ้านต่างจังหวัด ประมาณ 17.00 น. เพื่อกลับเข้ากรุงเทพ ตลอดทางฝนตกแรงบ้างเบาบ้าง ไฟรถก็เปิด Auto ไว้มันก็ติดใช้งานได้มาตลอดทาง แต่สังเกตุเวลาจ่อท้ายรถคันอื่นจะเห็นเงาสะท้อนของไฟหน้าด้านขวาชัดมากดูดวงใหญ่มาก จนคิดว่าช่างคงตั้งไฟสูงไปแน่ๆแต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ระหว่างทางแวะพักเติมน้ำมัน เติมแก๊ส ปกติ ขับจนมาถึงบ้านที่ กรุงเทพ ตอน 20.40 น จอดรถดับเครื่องยนต์หน้าบ้านขนของลง เอาเข้าบ้านใช้เวลา 10 -15 นาที จากนั้นย้ายรถไปจอดข้างบ้านติดกำแพงบ้าน ดับเครื่องล๊อครถเดินกลับเข้าบ้านทำธุระในบ้านได้ประมาณ 30 นาที เพื่อนบ้านกดกริ่งรัวๆ ตะโกนบอกเราจากหน้าบ้านว่าไฟกำลังไหม้รถเราอยู่ เรารีบโทรแจ้ง 191 ทันที ตอนนั้นคิดเบอร์ไหนไม่ออกแล้ว ต่อด้วยเบอร์ รปภ. หน้าหมู่บ้าน เบอร์ประกันภัย ให้ช่วยมาดับไฟที่กำลังไหม้อยู่ พอตั้งสติได้ กดถ่ายคลิประหว่างไฟกำลังไหม้ไว้ได้ช่วงสั้นๆ พี่ รปภ.พร้อมเพื่อนบ้านช่วยนำถังดับเพลิงมาดับไฟ ดับได้ก็ติดขึ้นมาใหม่ เลยอาศัยจังหวะนี้ปลดล๊อคประตู เปิดประตูรถฝั่งคนขับและมุดไปเปิดลิ้นชักหน้ารถเอาเอกสารเกี่ยวกับรถทั้งหมดออกมาทัน พร้อมทั้งของมีค่าอื่นๆ จากส่วนท้ายรถออกมาได้ทั้งหมด เพื่อนบ้านพยามห้ามไม่ให้เข้าใกล้รถ เพราะเกรงว่าแก๊ส LPG ที่อยู่ท้ายรถจะระเบิด แต่จนแล้วจนรอดก็เข้าไปเอาของทุกอย่างออกมาได้ก่อนไฟจะไหม้ส่วนหน้าของรถจนหมด ต่อจากนั้น 40 นาทีรถดับเพลิงก็เข้ามาฉีดน้ำดับไฟจนสนิท และทุกหน่วยงาน ตำรวจ ประกัน รถกู้ภัย มาครบเคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย มีแต่ Juke ที่พลีชีพไปในเหตุการณ์นี้ คิดในใจดีนะที่มันไม่ไหม้ตอนกำลังขับรถอยู่ไม่งั้นอาจจะได้พลีชีพ เพราะออกไม่ทันหรือควบคุมรถไม่ได้ตกข้างทางไป บลาๆ และอีกอย่างปกติจะเอาไปจอดในบ้านวันนี้ไม่รู้คิดอะไรเอาไปจอดข้างบ้าน ถ้าจอดไว้ในบ้าน บ้านคงไหม้หมดทั้งหลังไปแล้วแน่ๆ เหตุการต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาซักถาม ทั้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ของประกันภัย มาซักถามสาเหตุ เลขทะเบียนรถยนต์ บลาๆ และทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เข้าใจกันว่าน่าจะเป็นแก๊ส LPG รั่วแน่ๆ คืนนั้นประมาณเที่ยงคืน คุณตำรวจที่เป็นเวรปฏิบัติหน้าที่ติดต่อเรามาให้เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.คลองข่อย เพราะเป็นพื้นที่ของ สน.นี้ดูแลอยู่ เราก็เข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ คุณตำรวจได้ประสานงานแจ้งให้กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนท์บุรี ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการพิสูจน์ ทราบเพื่อหาสาเหตุ เพราะคุณตำตรวจเกรงว่าอาจจะเกิดจากการวางเพลิง เพราะรถมันจอดสนิทดับเครื่องยนต์อยู่ แล้วก็นัดเวลาให้เรารอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาที่เกิดเหตุ เวลา 10.00 น.วันที่ 26/06/60 จะมีเจ้าหน้าที่ จากกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่รถของเรานะ อย่าเคลื่อนย้ายรถ เราก็โอเค คุณตำรวจทำงานรวดเร็วทันใจมาก หันกลับมาที่ประกันภัย คืนนั้นจะขอ ยกรถไปเก็บรักษาสภาพทันทีเลย เราเลยแจ้งขอเลื่อนไปก่อนรอคุณตำรวจมาดำเนินการพิสูจน์ ให้แล้วเสร็จก่อนได้ไหมจึงจะแจ้งให้มายกรถไป ประกันภัยโอเคพร้อมให้เซ็นต์เอกสาร และเล่าเรื่องต่างๆ เพื่อบันทึกไว้ แต่ไม่ได้ให้เอกสารใดๆกับเรามาเลย
จนเช้า ของ วันที่ 26/06/60 เราเฝ้ารอ จน 10.00 น ทำไมคุณตำรวจไม่เห็นมา จึงโทรสอบถามไปยัง สน. คลองข่อย คุณตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เวรเมื่อคืนท่านรับสาย และบอกว่าอ่าวยังไม่เข้าไปอีกเหรอเดี๋ยวผมประสานงานให้ และติดต่อกลับมาหาเราว่า ขอเลื่อนเป็นเที่ยง ตอนนี้ติดงานอื่นยังไม่แล้วเสร็จ เราก็รอจนบ่ายโมง ก็ยังไม่มาตัดสินใจโทรไปยังกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนท์บุรี เพื่อสอบถามว่า ท่านจะเข้ามาวันนี้หรือเปล่าแล้วมากี่โมงได้รับคำตอบว่า เข้าวันนี้แน่นอนแต่อาจะเป็นช่วงเย็นหน่อยเพราะติดงานอื่นยังไม่แล้วเสร็จ โอเค คราวนี้ไม่กำหนดเวลาเราไม่เร่งใจเย็นๆ และแล้วคุณตำรวจก็มาถึงในเวลาไม่นานนัก 17.45 น. ฟ้าใกล้มืด โอเคยังดีที่ท่านมาให้เรา เราคิดว่าคงเลื่อนไปพรุ้งนี้แล้วแน่ๆ แต่ก็มาจริงๆ คำถามแรกที่เจอหน้าเรา หลังจากทราบว่าเราเป็นเจ้าของรถ คือ “สงสัยใครไหม” คือเราไม่สงสัยครับ เราตอบไปตรงๆ แต่เราสงสัยว่ามันไหม้ได้อย่างไร จากนั้นท่านก็ดำเนินการหาสาเหตุ ซักประวัติ บลาๆ และก็สรุปเป็นวลีสั้นๆว่า “ไฟที่ไหม้รถไม่ได้เกิดจากการวางเพลิง ไม่ได้เกิดจากระบบแก๊ส แก๊สยังอยู่ในสภาพดี และต้นเพลิงมาจากส่วนหน้าขวา” และออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่วชาญในการหาสาเหตุการเกิดไฟไหม้ถ้าจะให้มาไล่สายไฟหาสาเหตุตรงจุดคงไม่ได้ และผมก็ไม่สามารถลงบันทึกได้ว่าเป็นความผิดของใคร ถ้าจะเอากระจ่างต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะงานจริงๆมาตรวจสอบ ผมแนะนำครับ รถคันนี้เป็นของบริษัทเค้านิ ให้คนของเค้ามาตรวจสอบหาสาเหตุเลย เค้ามีทีมงานด้านนี้อยู่แล้ว เราก็เพิ่งถึงบางอ้อ เอ่อเราเพิ่งเอารถเข้าศูนย์ เอ่อเเจ้งศูนย์ด้วยให้เข้ามาช่วยเราหาสาเหตุ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จากองพิสูจน์หลักฐาน ก็ได้เสร็จสิ้นภาระกิจในการตรวจสอบ และแจ้งว่าจะส่งบันทึกให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ สน.คลองข่อย ต่อไปภายในวันสองวันนี้ สามารถขอบันทึกการพิสูจน์ได้จาก สน.คลองข่อย ได้ และแจ้งเราไว้ว่าถ้าสามารถหาเจ้าหน้าที่ ที่ชำนาญมาตรวจสอบได้รบกวนแจ้งผมด้วยผมอยากเข้ามาดูการตรวจสอบ และทิ้งเบอร์โทรติดต่อไว้ให้กับเรา เรารับปากทันที่ถ้าเราติดต่อได้เราจะรีบแจ้งให้ท่านทราบด้วย ช่วยกันเรื่องจะได้กระจ่างโดยเร็ว (แต่เอาเข้าจริงเอกสารจะเสร็จอีกเป็นเดือนถึงสองเดือน เพิ่งทราบภายหลังจากที่โทรไปสอบถามผล)
เช้าวันที่ 27/06/60 เวลา 8.00 น. เราติดต่อไปยังศูนย์บริการและแจ้งว่ารถเราเกิดเหตุไฟไหม้ หลังจากนำรถเข้ามารับบริการเคลมอะไหล่ไปเมื่อวันที่ 24/06/60 ที่ผ่านนี้ เราได้ขอให้ทางศูนย์ช่วยประสานงานขอทีมตรวจสอบที่มีความชำนาญมาช่วยหาสาเหตุด้วยและขอให้แจ้งกลับด้วยว่าจะเข้ามาดำเนินการเมื่อไหร่ ระหว่างวันที่เรารอการตอบกลับของทางศูนย์ สติเราเริ่มกลับมาหลังจากตกใจกับเหตุการณ์ ค่อยๆลำดับเรื่องราวทั้งหมด และสงสัยการทำงานของทางช่างที่ดำเนินการแก้ไขระบบไฟของรถเรา เราเลยแจ้งไปยัง Call Center และลูกค้าสัมพันธ์ของรถยนต์ค่ายนี้ เจ้าหน้าที่รับเรื่องและแจ้งว่าจะประสานงานไปยังบริษัทแม่ของค่ายรถ เพื่อให้ทีมวิชาการของค่ายรถมาตรวจสอบหาสาเหตุ หลังจากวางสายไปไม่นานเราโทรกลับไปสอบถามความคืบหน้ากับทางศูนย์รถเพื่อขอทราบว่าคุณได้ติดต่อแจ้งเพื่อขอทีมช่างมาตรวจสอบแล้วหรือยัง ได้รับคำตอบคือ จะมาตรวจสอบให้วันพรุ้งนี้เช้า เวลา 10.00 น. ของวันที่ 28/06/60 เราลางานทันที เพื่ออยู่รอทราบผล และขาดไม่ได้เราโทรรายงานให้ทางคุณตำรวจ สน.คลองข่อย ที่รับเรื่องเราไว้ทราบทันที ท่านตอบรับว่าอาจจะแวะเข้ามาถ้าไม่ติดธุระด่วนหรือสำคัญ หลังจากนั้นขาดไม่ได้คือคุณตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานนนท์บุรีติดต่อท่านไปท่านตอบมาว่าไม่ สะดวก ผมไม่ว่าง ไม่เข้า งานอื่นผมมีอีก บอกตามตรงเราเสียความรู้สึกมากจากการที่ได้ยิน โอเคไม่มาไม่เป็นไร เราคิดต่อว่าแล้วถ้าการตรวจสอบจากทางบริษัทแม่ค่ายรถนี้เค้าไม่โปรงใสละเราจะทำอย่างไรต่อ เลยไปขอความอนุเคราะห์จากทางประกันภัย ให้ช่วยหาหน่วยงานที่สามารถมาพิสูจน์ตรงนี้เพื่อความเป็นกลาง มีไหม คำตอบคือมีแต่อาจะนานหน่อยเพราะคิวค่อนข้างยาวนะ เราตอบตามตรง ณ ตอนนี้ทำได้ก็คือรอ อยากได้ความจริงก็ต้องรอ วางสายไม่นานประกันภัย ติดต่อกลับมาว่า โชคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับทำเคสรถไฟไหม้ว่างพอดีสามารถมาช่วยพิสูจน์ซากได้ เรายังข้องใจกับการสรรหาเจ้าหน้าที่ของประกันภัยอยู่ ทำไมมันถึงโชคดีได้เร็วจัง ก็เลยตอบตกลงไปว่ามาก็มาครับ และก็ไม่พ้นที่เราจะโทรรายงานคุณตำรวจ สน.คลองข่อย ว่าจะมีทีมพิสูจน์หลักฐานของประกันภัยเราเองมาด้วยเป็นเจ้าหน้าที่ ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาร่วมด้วย คุณตำรวจเจ้าของพื้นที่ท่านก็ตอบว่า ผมไม่ทราบเรื่องนะว่าจะมีตำรวจท่านอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยผมไม่ได้รับรายงาน อาจจะมาเองหรือมาทำงานนอกเวลางานหรือเปล่าอันนี้ผมไม่ทราบ เราก็ไม่สบายใจเลยให้ เจ้าหน้าที่ประกันภัยคุยกับคุณตำรวจ สน.คลองข่อย ด้วยตัวเอง ผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของประกันภัยเปลี่ยนใจไม่เข้ามาแล้วเพราะ กองพิสูจน์หลักฐานนนท์บุรีมาทำหน้าที่ไปแล้วประมาณว่าไม่อยากเข้ามาก้าวก่ายหน้าที่กัน สรุปคือ มีแต่ทีมงานของบริษัทแม่ของค่ายรถมาทำหน้าที่เพียงหน่วยงานเดียว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ประกันภัย เข้ามาประเมินและรอเก็บซากรถ
เช้าของวันที่ 28/06/60 ทีมงานของบริษัทแม่ค่ายรถ เจ้าของโชว์รูมรถยนต์พนักงานของศูนย์บริการเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยตัวแทนของประกันภัย เจ้าหน้าที่ทีมวิชาการบริษัทแม่ของค่ายรถได้มาซักถามถึงเรื่องราวต่างๆและเก็บข้อมูลส่วนตัวเราไป และก็เริ่มไปหาสาเหตุที่ตัวรถเก็บข้อมูลกันอยู่ประมาณ สองชั่วโมง ระหว่างนั้นเราถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าของศูนย์บริการ ซึ่งได้คำตอบว่าถ้าผลการตรวจออกมาอย่างไรแล้วเราจะดูและช่วยเหลือเต็มที่ไม่ต้องกังวล ฟังดูเหมือนดีนะ พอตรวจเสร็จเราสอบถามทีมงานของค่ายรถไปว่าได้เรื่องอย่างไรบ้าง แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆออกมา ทราบจากการที่ทีมวิชาการพูดคุยกันเองว่า พบอุปกรณ์แปลกปลอมที่ต่อพ่วงเข้ากับระบบไฟส่องสว่างด้านขวาของรถโดยมีความเสียหายชัดเจน ส่วนไฟทางด้านขวานั้นไม่พบอุปกรณ์ตัวนี้ เราเลยบอกทีมวิชาการไปว่า อุปกรณ์ตัวนี้ผมเข้าใจว่าเป็น บัลลาสต์ (Ballast) ที่ใช้กับโคมไฟตัวเก่าก่อนที่ผมจะเปลี่ยนมาเป็นตัวมาตราฐานที่ช่างของศูนย์เปลี่ยนให้ หลังจากนั้นทีมวิชาการก็พุ่งเป้ามาที่อุปกรณ์ตัวนี้อย่างชัดเจน และสอบถามถึงอีกข้างทำไม่ไม่มีอยู่ในรถ เราแจ้งว่าอีกข้างนั้นช่างของศูนย์ได้ถอดออกมาและใส่กล่องส่งกลับมาให้เราพร้อมกับโคมไฟเก่าที่เสีย แต่ไม่ได้ถอดตัวด้านขวาออกเลยคาดการณ์เองว่าที่ไม่ถอดออกเพราะรีบส่งรถให้เรามาใช้หรือเปล่า แต่โคมไฟเก่าทั้งสองข้างเราหย่อนถังขยะที่บ้านไปแล้วน่ะ (ยังเสียใจอยู่ทุกวันนี้ไม่น่ารีบทิ้งเลย ) และสอบถามกลับไปว่าเราสังเกตุเห็นไฟรถเราด้านขวา มันสว่างมากกว่าปกติ และติดตลอดเวลาถ้าปรับไปตำแหน่งไฟ Auto ทีมวิชาการตอบเราว่าน่าจะเป็นที่สีของฟิล์มติดรถยนต์ มันมืดมากกว่า แต่ก่อนเราเอาเข้าศูนย์เพื่อเคลมรถเราใช้งานระบบไฟปกตินะ ถึงจะ Auto มันก็ดับถ้าออกที่แจ้ง จากนั้นก็ไม่ได้รับคำถามหรือคำตอบใดๆจากทีมวิชาการอีกเลย ส่วนประกันภัย ก็ยังเอารถไปไม่ได้เพราะเราขอไว้ เจ้าหน้าที่ประกันภัย ตอบกับเราว่าถ้าสะดวกจะให้มายกรถวันไหนก็ติดต่อมาครับเรารออยู่ แจ้งไว้เพียงเท่านี้จริงๆไม่มีเอกสารใดๆมาให้เขียนหรือกรอกข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากเสร็จงานตรวจสอบเราอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมตัวแทนประกันกับเจ้าของโชว์รูมรวมถึงพนักงานในโชว์รูมรถ ถึงได้มีความรู้จักคุ้นเคยกันถึงขนาดชวนกันไปทานข้าวต่อได้ อันนี้แอบสงสัย
หลังจากวันนั้นผ่านไปเราไม่ได้รับการติดต่อจากใครหน่วยงานไหนอีกเลยจนกระทั่งเราเริ่มอยู่เฉยๆเพื่อรอผลไม่ได้แล้วเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อขอทราบผล จึงพยามติดต่อไปทั้งศูนย์บริการและทีมวิชาการของบริษัทแม่ และก็ได้ความว่าจะขอเข้ามาเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 07/07/60 ครั้งนี้จะขอเข้ามาตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้ายและจะแจ้งผลให้เราทราบพร้อมกันกับศูนย์บริการ เมื่อถึงวันนัดดังกล่าวทีมวิชาการได้เข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการที่ทราบภายหลังว่าเป็นผู้จัดการศูนย์ เราเลยเล่าถึงความอัดอั้นและความลำบากในการเดินทางไปกลับจากบ้านถึงที่ทำงานว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแถมยังต้องจ่ายงวดรถอีก เพราะเรื่องประกันยังไม่จบก็ยังคืนทุนประกันหรือเคลื่อนย้ายไม่ได้ ผู้จัดการศูนย์รับเรื่องความเดือดร้อนนี้จากเราไป และทีมวิชาการเองก็ทราบด้วยจึงเสนอให้ช่วยจัดหารถมาให้ใช้งานระหว่างรอผลตรวจสอบ ในระหว่างตรวจสอบครั้งนี้ทีมวิชาการพุ่งประเด็นมาที่อุปกรณ์แปลกปลอมตัวนี้อย่างชัดเจน นำมาเรียงร้อยหาความสัมพันการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ที่น่าจะเกี่ยวข้องทั้งหมดของไฟด้านขวา และตรวจสอบไฟด้านซ้ายพร้อมทั้งไฟตัดหมอกทั้งสองข้างด้วยปรากฎว่าที่ไฟด้านซ้ายไม่พบสิ่งแปลกปลอม แต่พบกล่อง บัลลาสต์ (Ballast) จากชุดไฟตัดหมอกที่กันชนหน้าแทนแต่ตัวนี้ไม่ได้รับความเสียหายได้สอบถามเรามาว่าติดตั้งเองหรือเปล่า เราตอบว่าได้มาพร้อมกับตอนซื้อรถไม่ได้ติดตั้งเองเหมือนไฟหน้า หลังจากนั้นก็ตรวจสอบเรื่องระบบแก๊ส ระดับแก๊สในถังยังคงปกติและบอกกับเราว่าไม่ได้เกิดจากแก๊สแน่นอน เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยก็แจ้งเราว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ผลจะออกมาและจะแจ้งให้ทั้งศูนย์ และเราทราบพร้อมกัน และเดินทางกลับ
ประมาณวันที่ 12/07/60 เราได้แจ้งไปยังลูกค้าสัมพันธ์ว่ามีความประส่งอยากให้ทางบริษัทแม่ช่วยเหลือเรื่องรถยนต์กับเราเพราะเราเดินทางลำบากมาก บริษัทแม่แจ้งกลับมายังศูนย์ว่าเช่ารถไว้ให้เราแล้วและจะนำรถมาส่งที่ศูนย์บริการที่บางบัวทองในวันที่ 13/07/60 ลูกค้าไปรับรถนำมาใช้งานได้เลยไม่มีค่าใช้จ่าย เราดีใจมากที่การร้องขอของเราสำเร็จก็ยังดีที่เค้าเข้าใจเราและยื่นมือมาช่วยเหลือบ้างถึงแม้จะช้าไปบ้างก็เถอะ เราสะดวกไปรับรถวันที่ 13/07/60 แต่ทางผู้จัดการศูนย์บริการแจ้งให้เราทราบว่ารถน่าจะมาเย็นๆ ให้เราเข้าไปรับวันที่ 14/07/60 จะดีกว่าเราก็ตอบตกลงไป และไปรับรถพร้อมลงชื่อขอใช้รถเป็นเวลา 7 วันไว้ก่อนเบื้องต้นถ้าผลยังไม่ออกก็ให้ใช้ต่อไปก่อนจนกว่าผลจะออกหรือทางบริษัทแม่จะเรียกรถคืน
วันที่ 21/07/60 เราสอบถามไปยังบริษัทแม่ได้คำตอบว่าผลออกแล้วจะแจ้งให้ทราบในวันจันทร์ที่ศูนย์บริการบางบัวทอง แต่ไม่ได้โทรแจ้งเราเพราะจะเป็นการแจ้งให้ศูนย์ทราบเท่านั้น เราได้ยินแบบนี้เลยไม่สบายใจเลยขอเข้าไปร่วมฟังการชี้แจงด้วยพร้อมทั้งซักถาม ทางบริษัทแม่ก็รับปากให้เราสามารถเข้าร่วมฟังด้วยได้
วันที่ 24/07/60 เป็นไปตามคาดทางบริษัทแม่ ชี้แจงว่าสาเหตุเกิดจาก อุปกรณ์แปลกปลอมที่ลูกค้าได้ทำการติดตั้งจากข้างนอกมาเอง ก่อนที่จะเข้ารับการเปลี่ยนอุปกรณ์จากทางศูนย์บริการ ซึ่งทางศูนย์บริการมีหน้าที่ติดตั้งชุดโคมไฟมาตราฐานเข้ากับตัวรถเท่านั้นจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกค้าได้ติดตั้งอะไรมาเพิ่มเติมจากมาตราฐานบ้าง และโชว์เอกสารที่ไม่สามารถให้ถ่ายรูปหรือสำเนาให้เราดูประกอบไปด้วย ทีมงานของบริษัทแม่ที่ดูแลควบคุมงานบริการด้านซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ชี้แจงกับเราว่า โดยปกติแล้วเราจะไม่รับรถของลูกค้าที่มีการดัดแปลงสภาพรถให้ผิดไปจากมาตราฐานเดิมของทางบริษัทที่ผลิต โดยรถของลูกค้ามีการดัดแปลงในหลายจุด จากรูปที่อยู่ในเอกสารนั้นประกอบไปด้วย ระบบเชื้อเพลิงใช้แก๊ส ระบบไฟหน้ารถใช้ไฟซีนอนที่ติดตั้งมาจากภายนอก ไฟตัดหมอก ไฟหรี่ ไฟเดย์ไลท์ (ทั้งหมดที่บอกว่าเราดัดแปลงนั้นมีแค่แก๊ส กับไฟหน้ารถซ้ายและขวาที่เราทำเองจากภายนอกหลังจากซื้อรถคันนี้ ส่วนอื่นมันมาพร้อมทั้งหมดจากโชว์รูมที่ออกรถแล้ว) ถ้าจะนำรถเข้ารับบริการในส่วนใดตามที่กล่าว ลูกค้าต้องปรับเปลี่ยนให้รถอยู่ในสภาพเดิมเท่านั้น ทางศูนย์จึงจะให้บริการดังนั้นบริษัทแม่จึงไม่รับผิดชอบต่อเหตุการที่เกิดขึ้น เราจึงได้ถามกลับไปว่า เราไม่ทราบเลยว่าทางศูนย์บริการมีลักษณะการให้บริการแบบนี้ และพนักงานก็ไม่ได้แจ้งเราให้ทราบถึงข้อมูลดังกล่าวและนำรถของเราไปซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ทั้งหมดตามรายการโดยไม่สอบถามเราแม้แต่นิดเดียวและเราจะทราบได้อย่างไรว่าต้องเอากลับสู่สภาพเดิมก่อนแล้วถึงจะมีสิทธิ์เข้ารับบริการ และเราสอบถามถึงงานบริการของทางช่างของศูนย์ไปว่าทำไมถึงไม่ถอด บัลลาสต์ (Ballast) ที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งมดนี้ออกให้หมดทั้งสองข้าง ทำไมจึงถอดออกเพียงข้างซ้ายข้างเดียว เราเชื่อมั่นในศูนย์บริการว่าเรานำรถเข้ามารับบริการกับทางศูนย์เราจะได้อะไหล่ที่ได้มาตรฐานมีการรับรองคุณภาพ ที่สำคัญคือความปลอดภัย หรือว่าทีมช่างที่ประกอบอะไหล่เข้ารถเรา ทางศูนย์ให้ช่างที่ไม่มีประสพการณ์ ไม่มีความรู้ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า ยอมปล่อยให้ยังคงเหลืออุปกรณ์ดังกล่าวทิ้งไว้โดยเจตตนา หรือเกิดจากความสะเพร่า ของช่าง ร่วมถึงทีม QC ก่อนส่งมอบให้ลูกค้า แสดงว่าไม่มีความจริงใจในการให้บริการไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้ใช้รถคันนี้เลย ถ้าเพียงบอกเราหรือปฏิเสธ หรือติดต่อเราทางไหนก็ได้ผ่านเจ้าหน้าที่รับรถหรือหัวหน้าฝ่ายของทีมงานท่านให้ประสานงานมายังลูกค้า เพื่อจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์ลงไปในตัวรถปฏิเสธงานซ่อมเคสนี้ไปเลยก็ได้ แต่ยังงานไปโดยไม่คิดถึง ผลที่ออกมาจะทำให้รถเกิดเพลิงไหม้ ทำให้เราต้องเดือดร้อนและเสียรถคันนี้ไป เราในฐานะผู้เสียหายเราจึงอยากทราบว่าเราจะได้รับการชดเชยจากทางศูนย์บริการอย่างไร ณ วันนั้นเจ้าหน้าที่ที่เข้ารับฟังเป็นเพียงผู้จัดการฝ่าย ซ่อมสีและตัวถัง ของศูนย์บริการเท่านั้น ส่วนท่านเจ้าของโชว์รูมท่านไม่เข้ามาพบเราและอ้างผ่านพนักงานให้มาตอบเราว่า ติดประชุม ซึ่งทาง ทีมที่มาจากบริษัทแม่นั้นได้ขอให้ทาง ศูนย์บริการไปดำเนินการตรวจสอบมาว่าใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และให้นัดลูกค้ามาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดพร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าจะรับผิดชอบ หรือไม่ ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นก็แยกย้าย เรามีติดต่อมายังผู้จัดการฝ่ายซ่อมสีและตัวถังของศูนย์เพื่อขอให้ชี้แจงเราภายในวันศุกร์ที่ 28/07/60 หรือเร็วกว่านั้นจะดีมาก เพราะเราลางานบ่อยมากจากเหตุการณ์นี้ ไม่อยากลางานอีกแล้ว
เมื่อถึงวันที่ 27/07/60 เราพยายามติดต่อไปยังศูนย์บริการเพื่อขอทราบนัดหมายว่าจะนัดเราเข้าไปพูดคุยกันในวันที่ 28 นี้กี่โมง พนักงานจึงตอบเรากลับมาทันทีว่า “เจ้านายเราเคาะมาแล้วค่ะว่าไม่รับผิดชอบใดๆต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรถลูกค้าค่ะ” เรานี่ไปต่อไม่เป็นเลยด้วยความขับข้องใจอย่างมากจึงพูดจาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ และขอให้ติดต่อกับเจ้าของโชว์รูมมาคุยสาย แต่แล้วพนักงานเลือกที่จะตัดสายเราและไม่รับสายเราอีกเลยถึงแม้จะโทรไปกี่ครั้งก็ตาม เราจึงติดต่อไปยังผู้จัดการโชว์รูมให้ช่วยติดต่อกับทางเจ้าของโชว์รูมให้ติดต่อกลับมาหาเราด้วยเราอยากสอบถามข้อมูลให้กระจ่างมากกว่านี้และอยากทราบกระบวนการทำงานของศูนย์บริการของท่านว่าใครได้มีส่วนเกี่ยวข้องและดำเนินการกับรถเราอย่างไรบ้าง ได้รับคำตอบเพียงว่าผมจะแจ้งนายให้ทราบนะครับ ช่วงบ่ายโมงของวันนี้ เราได้รับ mail จากบริษัทแม่ของค่ายรถและมีการลงนามชี้แจงว่าบริษัทแมม่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ได้ เราจึงเข้านำหลักฐานที่เราหาได้ทั้งหมดรวบรวมและนำไปร้องเรียนยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อหวังว่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ และลงท้ายคำร้องไปเพื่อขอให้ทางศูนย์บริการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำของพนักงานในศูนย์บริการของท่านที่ทำกับรถของเรา
เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้นในวันเดียวกันเราได้รับการติดต่อจาก ตัวแทนประกันภัยว่าจะไม่คืนทุนประกันเต็มจำนวนให้กับเราอีกฐานที่เราดึงรถไว้ไม่ยอมให้นำรถไปเก็บรักษาสภาพ เราเองไม่มีเจตนาที่จะไม่ส่งมอบรถคันนี้ให้กับบริษัทประกันภัย เราขอให้ผู้ที่มาทำการตรวจสอบหาสาเหตุทำหน้าที่ให้แล้วเสร็จก่อนเท่านั้น และ ตัวแทนของประกันภัยเองก็ไม่ได้แจ้งให้เราทราบถึงระยะเวลาและข้อจำกัดดังกล่าวด้วย และยังไม่เคยเอาเอกสารใดๆมาให้เซ็นนอกจากใบแจ้งเรื่องในคืนเกิดเหตุ กลายเป็นเราเปิดศึกสองด้านไปโดยไม่รู้ตัว หลังจากได้รับการติดต่อมาเราก็ยินดีที่จะไปดำเนินการให้ ประกันภัยมาขนซากรถไปและเข้าไปกรอกเอกสารกับประกันภัย เราเองก็พยามหาข้อมูลเรื่องการคืนทุนประกันว่าสามารถลดทอนได้ตามที่ พนักงานประกันภัย กล่าวอ้างไว้หรือไม่ ก็ได้สอบถามไปยัง คปภ. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยไปได้ความว่า หน้ากรมธรรม์รถยนต์ แสดงทุนประกันที่ทำไว้เท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น ถ้าจ่ายน้อยกว่าหรือไม่ครบสามารถร้องเรียนเพื่อเอาผิดกับประกันภัยที่เราทำไว้ได้ ทราบแบบนี้ก็เหมือนจะอุ่นใจว่ายังไงก็น่าจะได้คืนเต็มจำนวนคงไม่ต้องถึงขั้นร้องเรียนกันอีกแล้วให้ยืดยาวไม่จบสิ้น
ณ วันนี้คงต้องรอ ให้กระบวนการที่ได้ดำเนินการร้องเรียนไปยัง สคบ. ช่วยเหลือเราเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้ และเอาผิดกับศูนย์บริการที่ปล่อยให้เกิดเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น
สุดท้ายเราเต็มใจรับความช่วยเหลือจากทุกช่องทางที่สามารถทำได้ และขอบคุณที่ได้อ่านเรื่องราวของเรามาจนจบ เราไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบไป และอยากให้เป็นเคสตัวอย่างกับใครหลายๆคนที่กำลังประสพปัญหาแบบเราอยู่ หรือเป็นข้อมูลไว้ใช้ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ผลักภาระความรับผิดชอบ แบบที่เราได้จากเหตุการณ์นี้
ภาพ/ สิงห์ทอง นามมาลา ข่าว/ อัมรินทร์ จีนอิ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.กรุงเทพมหานคร