- 02 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจเมืองเชียงรายพยายามจะเข้าจับกุมตัวนายธนกร เพิ่มพันธ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 9 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ไปเช่ารถจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแล้วนำส่งไปขายต่อในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ระหว่างการขอสอบสวนปรากฎว่านายธนกรได้ชักอาวุธปืนยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่รวม 3 นัดก่อนจะซ่อนตัวอยู่ภายในห้องของโรงแรมคานาอัน เพลส เลขที่ 373/5 หมู่ 19 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักเกลี้ยกล่อมให้นายธนกรมอบตัว
โดยทาง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าทำการปิดล้อมบริเวณพื้นที่โดยรอบเพื่อกันนายธนกรหลบหนีซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนอื่นเพราะนายธนกรมีอาวุธปืน จากนั้นได้เชิญตัวทางพี่สาวและ น.ส.กนกพร ขัดแก้ว อายุ 24 ปี ชาว จ.น่าน อดีตแฟนสาวที่นายธนกรต้องการพบตัวมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม ซึ่งใช้เจรจาพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์นานกว่า 3 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผลนายธนกรยังไม่ยอมมอบตัว แต่ได้มีท่าทีอ่อนลงโดยได้ยอมมอบเครื่องกระสุนปืนซึ่งติดอยู่ในซองปืนติดเข็มขัดและกระสุนที่อยู่ภายให้กับเจ้าหน้าที่รวม 30 นัด แต่นายธนกรยังเก็บอาวุธปืนพกสั้นและเครื่องกระสุนอีกบางส่วนไว้กับตัวเอง โดยพยายามใช้อาวุธปืนจ่อคอตัวเองตลอดเวลาเมื่อมีเจ้าหน้าที่หรือบุคคลภายนอกเข้าไปใกล้หรือเข้าไปพูดคุยด้วย
กระทั่งในเวลา 15.00 น. นายธนกรมีท่าทีอ่อนลงอีกครั้งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากจะดูแลเรื่องคดีให้และยอมที่จะให้พบพุดคุยกับแฟนสาวได้ นายธนกรจึงยินดีให้ความร่วมมือโดยให้รถเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจ เชียงราย เข้าไปรับตัวที่ด้านหน้าโรงแรมและยอมเดินออกมาจากห้องแต่โดยดีแต่ในมือยังถืออาวุธปืนจ่อที่คอตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงขับรถพาตัวออกไปนอกย่านชุมชนไปยังสนามกีฬากลางเชียงรายซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะจับกุมตัวโดยทำการแย่งปืนจากมือแต่นายธนกรพยายามต่อสุ้ขัดขืนทำให้ปืนเกิดลั่นจำนวน 1 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือพยายามวิ่งกรูเข้าไปปิดกั้นเส้นทางและล้อมรถเอาไว้ไม่ให้หลบหนี ก่อนจะสามารถตะคลุบตัวไว้ได้อย่างชุลมุน โดยทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บเล็กน้อยและนายธนกรเองก็มีรอยถลอกที่บริเวณใบหน้า จึงควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพและไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายต่อไป
โดยทาง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นทางตำรวจจะมีการแจ้งข้อหามีและใช้เครื่องอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาติ พาอาวุธปืน มีด ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนคดีอื่นๆจะมีการสอบสวนปากคำก่อนซึ่งอาจมีการแจ้งความในข้อยักยอกทรัพย์ซึ่งจะเป็นคนละคดีกัน แต่เบื้องต้นก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีการยักยอกทรัพย์โดยเช่ารถไปแล้วนำไปในทางทุจริตจึงติดตามรถยนต์คันดัวงกล่าวมา กระทั่งสายตรวจมาติดตามตัวก็มีการยิงปืนข่มขู่และขังตัวเองไว้ในห้องพักดังกล่าว ซึ่งจะได้มีสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.กนกพร กล่าวว่าตนได้เพิ่งคบหากับนายธนกรมาได้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น โดยมารู้จักขณะทำงานอยู่ที่เทศบาลตำบลแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ซึ่งนายธนกรได้มาบอกตนว่าจะดูแลตน โดยบอกว่าจะมีการซื้อรถยนต์เก๋งให้ และให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคาร แต่เวลาผ่านไปหลายเดือนกลับไม่มีการทำตามคำพูด อีกทั้งยังมาใช้ชื่อตนมาซื้อจักรยานยนต์อีก 1 คัน โดยซื้อเป็นชื่อของตนและจะใช้ชื่อนายธนกรเป็นผู้ค้ำ แต่หลังซื้อนายธนกรได้เอารถไปเมื่อตรวจสอบกับบริษัทสินเชื่็อก็พบว่ามีชื่อตนซื้อเพียงรายเดียวโดยไม่มีคนค้ำ ประการสำคัญระยะหลังนายธนกรเป็นคนอารมณ์โมโหร้ายชอบด่าทอตนเป็นประจำ ทำให้ไม่สบายใจจึงได้ตีตัวออกห่างและเลิกรากันไป กระทั่งมาทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายธนกรมาก่อเหตุและอยากพบตนจึงเข้ามาช่วยเจรจา ซึ่งตนไม่ได้เคยได้รับเงินหรือทรัพย์สินจากนายธนกรตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะตนไม่เคยเรียกร้องอะไรจากนายธนกรด้วย
ข่าว/ภาพ เหรียญชัย จันทร์สุภาเสน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เชียงราย