แฉเที่ยวบินนรก!! ขบวนการค้ายา หันมาส่งยาทางเครื่องบิน แทนรถยนต์ ระบุออกแบบและผลิต "ถุงฟลอด์บรรจุยา" เครื่องสแกนตรวจไม่พบ (มีคลิป)

จากกรณีที่ ร.ต.อ.สมชาย ขวดทอง  มือปราบยาเสพติด หัวหน้าชุด ปปส.กก.ตชด.42 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช วางแผนจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดที่ส่งยาเสพติดทางคาร์โก้ บริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้ผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วยนายจักรกฤษณ์  อ่อนเคร็ง หรือ “ปอ  ดอนตรอ” อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.ดอนตรอ  อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช และนายศรศักดิ์ ดวงฤทธิ์ หรือ “โค้ก ไต้หล้า” อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 2 ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช  พร้อมยาไอซ์ 1.02 กก. ที่บรรจุในพัสดุสีน้ำตาลที่ส่งผ่านสายการบินนกแอร์  พร้อมยึด รถ จยย.และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 1 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา              

                (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดที่ใช้ช่องทางการส่งยาเสพติดทางเครื่องบินได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 9 ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 คนที่ไปรับยาเสพติดที่ส่งมาทางเครื่องบินนกแอร์ จับกุมได้บริเวณท่าอากาศยานหาดใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 22,000 เม็ด และไอซ์ 600 กรัม  และจากการขยายผลและประสานงานเจ้าหน้าที่ ปปส.สามารถจับกุมนายอรรถกร รัตนวิบูลย์ หรือโอ๊ก อายุ 31 ปี ชาวกรุงเทพฯเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในกรุงเทพ และเป็นผู้ส่งยาให้ลูกค้าผ่านทางเครื่องบินของสายการบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ  จับกุมได้พร้อมยาบ้าและไอซ์ที่บรรจุในห่อและกล่องพัสดุลักษณะเดียวกัน พร้อมถุงที่ฟอลยด์ที่สั่งผลิตขึ้นมาเป็นการเฉพาะ และเครื่องซีลถุงพร้อมวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก

โดยหลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวได้เข้าไปชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง  และเชื่อว่าในปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดเมืองไทย ได้เปลี่ยนรูปแบบการส่งยาเสพติดจากทางรถยนต์มาส่งทางเครื่องบินแทน เนื่องจากสะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย และยังเยงต่อการถูกจับกุมน้อยกว่าอีกด้วย  ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นเพียงเด็กที่รับจ้างมารับของได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท โดยทำมาแล้วถึง 10 ครั้ง ๆ ละ 1 – 5 กก. คาดว่ารับส่งยาเสพติดสำเร็จมาแล้วทั้งยาไอซ์และยาบ้าน้ำหนักรวมกว่า 30 กก. ก่อนจะถูกจับกุมกล่าว

 

ทางด้าน ร.ต.อ.สมชาย ขวดทอง หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตนพร้อม ปปส.ภาค 8 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พรหมคีรี ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ใน ต.ทอนหงส์  อ.พรหมคีรี แก๊งของนายสมศักดิ์ ปานมาศ อายุ 39 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม “ ก๊อก ทอนหงส์” หัวหน้าแก๊งค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ อ.พรหมคีรี  เมือง ท่าศาลา สิชล และ อ.ลานสกา และมีการยิงต่อสู้กันหลายครั้งจนสามารถจับกุมลูกน้องของนายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” หลายคน ยึดยาบ้า ยาไอซ์ จำนวนมาก  พร้อมอาวุธปืนสงครามหลายกระบอก  แต่นายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” สามารถหลบหนีไปได้ทุกครั้ง ในปัจจุบันมีหมายจับนายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” ถึง 2 หมาย  และตนได้พบกล่องพัสดุ และเศษกระดาษที่ระบุการส่งพัสดุทางสายการบิน จึงเชื่อว่าแก๊งค้ายาในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะ นายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” มีการส่งยาเสพติดทางเครื่องบินมานานแล้วเก็บไว้เป็นหลักฐาน

                จากนั้นได้สืบสวนและแกะรอยติดตามแก๊งค่ายาเสพติดทางเครื่องบิน จนพบว่ามีต้นทางมาจาก นายอรรถกร รัตนวิบูลย์ หรือโอ๊ก  โดยแก๊งนี้จะลงมุนออกแบบถุงบรรจุยาบ้า ยาไอซ์ แบบพิเศษเป็นถุงฟลอยด์ก่อนจะว่าจ้างผลิตถุงฟอลยด์บรรจุยาเสพติดจำนวนมาก เมื่อลุกค่าสั่งฬิ้อยาเสพติดก็จะนำบาเสพติดมาบรรจุลงในถุงฟอลยด์ใช้เครื่องซีลปากถุงก่อนจะแพ็คลงกล่องพัสดุ นำมาส่งที่คาร์โก้สนามบิน  โดยหลายฝ่ายสงสัยว่าทำไมกล่องพัสดุยาเสพติดที่ผ่านเครื่องสแกนได้  ตนได้ทดลองนำถุงฟลอยด์บรรจุยาเสพติดไปสแกนกับเครื่องสแกนของท่าอากาศยานพบว่าเครื่องสแกนจะจับไม่ได้ เพราะภาพที่ปรากฏหน้าจอจะสะท้อนออกมาเป็นวัตถุสีน้ำตาลและผ่านการสแกนอย่างง่ายดาย โดยไม่สามารถมองเห็นได้ว่าภายในกล่องพัสดุมียาเสพติดอยู่  เชื่อว่าสาเหตุสำคะฯที่เครื่องสแกนจับไม่ได้อยู่ที่ถุงฟอลยด์บรรจุยานั้นเอง 

จึงมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ปสส.อย่างใกล้ชิด ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ทำการตรวจสอบข้อมูล จนกระทั้งตนได้รับแจ้งจากสายที่ถูกจับกุมยาเสพติดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2560 ต้องการช่วยทางราชการเพื่อขอลดโทษในคดีค้ายาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตร 100/2 ว่าจะมีการส่งยาเสพติดใส่กล่องพัสดุส่งมาทางเครื่องบินนกแอร์  ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ในเวลา 17.15 น. มาให้นายฉัตร หรือ “วรฉัตร” (ขอสงวนนามสกุล) เอเยนต์ค้ายาเสพติดรายสำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช จ่าหน้าซองถึงนายจักรกฤษณ์ อ่อนเคร็ง  และนายจักรกฤษณ์ จะไปรับกล่องพัสดุดังกล่าว  จึงประสานเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 ให้ประสาน ปปส.กรุงเทพสางแผนจับกุมผู้ส่งจากต้นทางนำไปสู่การบุกจับกุมนายอรรถกร รัตนวิบูลย์ หรือโอ๊ก อายุ 31 ปี เอเยนต์ใหญ่ในกรุงเทพฯ พร้อมพวกและของกลางจำนวนมาก และจากการตรวจสอบพบว่ามีการส่งกล่องพัสดุยาเสพติดมาให้ลูกค้าที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา และท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทางตำรวจภาค 9  จึงวางแผนจับกุมผู้ต้องหาที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้า ยาไอซ์จำนวนมากดังกล่าว ในขณะที่ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พรหมคีรี วางแผนจับกุมที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาไอซ์ 1.02 กก.ดังกล่าว

ร.ต.อ.สมชาย ขวดทอง กล่าวอีกว่าในการประชุม กอ.รมน.นครศรีธรรมราชเดือน ส.ค.นี้ตนจะเสนอเรื่องแก๊งค้ายาเสพติดหันมาส่งยาเสพติดทางเครื่องบินสายการบินต่าง ๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อหามาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งผู้ต้องหาค้ายาที่มีหมายจับหลายคนอาทินายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” และนายวรฉัตรหรือ “ฉัตร เสาเภา”  เจ้าของยาไอซ์ที่เป็นเอเยนต์ค้ายาเสติดใน ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นับวันจะมีอิทธิพลบารมีและเครือข่ายกว้างขวางทำให้ยากแก่การจับกุม ซึ่งเป็นอันตรายกับสังคมและเจ้าหน้าที่ที่ไล่ล่าจับกุมมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ นายยุทธนา ชูแก้ว หรือ "เสือเหลี้ยม ทุ่งโพธิ์"และนายธีรยุทธ ชูแก้ว หรือฉายา “เสือมุ้ย ร่อนพิบูลย์”สองพี่น้อง ที่หลบหนีการจับกุมมาตลอด เคยปะทะกับทหาร ตำรวจจนฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง แม้จะเคยจับกุมนายธีรยุทธ ชูแก้ว หรือฉายา “เสือมุ้ย ร่อนพิบูลย์” ถูกควบคุมตัวในทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช แต่นายธีรยุทธ หรือ “เสือมุ้ย ร่อนพิบูลย์” ได้แหกคุก หลบหนีไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อวันที่ที่ 16 ก.ย.2559 และจึงก่อเหตุบุกยิงนายชัยณรงค์ ชูสงคราม พลเมืองดีสายของตำรวจ เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมในสวนยางเมื่อเช้าวันที่ 18 ก.ค. 2560 ดังกล่าว

หากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมนายสมศักดิ์ หรือ “ก๊อก ปานมาศ” และ  นายวรฉัตรหรือ “ฉัตร เสาเภา”  เจ้าของยาไอซ์ที่เป็นเอเยนต์ค้ายาเสติดใน ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้บุคคลทังสองจะสั่งสมบารมี อิทธิพลขยายออกไปอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทำให้ติดตามจับกุมยากเป็นอันตรายไม่แพ้สองเสื้อพี่น้อง นายยุทธนา ชูแก้ว หรือ "เสือเหลี้ยม ทุ่งโพธิ์"และนายธีรยุทธ ชูแก้ว หรือฉายา “เสือมุ้ย ร่อนพิบูลย์”สองพี่น้องมือปืนและนักค้ายาลำดับต้นๆ ของภาค 8 อย่างแน่นอน.

 

ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.นครศรีธรรมราช