- 14 ต.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสด บขส.ตะกั่วป่า พบนางสุจินต์ พูลสุข อายุ 45 ปี 6/5 ม.9 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และนางปราณี ปัตตานี อายุ 40 ปี 35/5 ม.1 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทราบว่าทั้งสองมีอาชีพขายผักบริเวณหน้าตลาดสด กำลังนั่งเอามือเท้าคาง สีหน้าอาการเศร้าๆเหมือนคนเบื่อโลก จึงได้เข้าไปสอบถามเป็นอะไรไม่สบายรึเปล่า ถ้าไม่สบายก็รีบไปหาหมอนะอย่าปล่อยไว้เดี๋ยวจะมีโรคอื่นแทรก
โดยที่แม่ค้าขายผักทั้งสองคนกล่าวกับผู้สื่อข่าวเหมือนลักษณะบ่นให้ฟังว่า ทุกวันนี้ขายของยากมาก ผักที่นำมาขายแต่ละวันมีทั้งรับมาจากแม่ค้าส่ง และผักตามบ้านๆเช่นบวบ มะเขือ ขิง ข่า ตะไคร้ หัวปลีกล้วย เห็ด ยอดกระถิน ชะอม ผักสวนครัวรั้วกินได้ เมื่อก่อนขายผักแบกะดินได้วันละ100-300 บาท แต่มาทุกวันนี้ขายของยากขึ้นทุกวัน จะให้ได้กำไรซักวันละ 100 บาท เลือดตาแทบกระเด็น ไหนจะค่ากับข้าว ไหนจะให้ลูกๆกินขนม ลูกไปโรงเรียน ค่าโดยสารรถมาขายผัก ใช้จ่ายสารพัด ยิ่งทุกวันนี้มาเจอสภาพอากาศฝนตกตลอดทั้งปี ลูกค้าก็ไม่มีสตางค์ซื้อของ ทุกวันนี้แทบไม่มีเงินเหลือกลับบ้านได้มาก็ซื้อกับข้าวกลับบ้านหมด จนต้องหมุนเงินโดยการไปกู้นายทุนมาขัดดอกไปก่อน จะคิดดอกเท่าไหร่ก็ต้องยอมไปตายเอาดาบหน้า แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ส่วนที่รัฐบาลช่วยเหลือขณะนี้เช่นโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ก็ได้ไปลงทะเบียนไว้ แต่บอกตามตรงว่ามีปัญหาเยอะมาก กว่าจะไปลงทะเบียน เสร็จแล้วได้บัตรมาก็ใช้ยากเพราะร้านธงฟ้ามีน้อย เท่าที่ทราบตอนนี้อำเภอตะกั่วป่ามีแค่ห้างซุปเปอร์ชิบแห่งเดียว และไกลหลายสิบกิโลเมตร วงเงินที่ใช้ได้แค่ 200-300 บาท ไหนจะค่าโดยสารรถไป กลับอีก จะเหลือเงินซื้อของกลับบ้านเท่าไหร่กัน จึงอยากให้รัฐจัดให้มีสวัสดิการร้านธงฟ้าให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลด้วย และในขณะเดียวกันอยากให้สนับสนุนเงินทุนแบบไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำๆ ผ่อนน้อยๆ และให้มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบมาสำรวจความต้องการของแม่ค้าโดยตรง ความเหมาะสมของเงินทุนและมาเก็บเงินที่แม่ค้าโดยตรงทุกวันแม้วันละน้อยๆแต่ก็จะได้เงินต้นและดอกเบี้ยกลับคืนไปแบบรัฐไม่สูญเงินเปล่าๆแน่ แม่ค้าทั้งสองกล่าว
ภาพข่าว นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดพังงา