เหิมหนัก!! มอดไม้ลักตัดไม้สักทองในป่าชุมชน ชาวบ้านทนไม่ไหวแจ้งทหาร-ตำรวจสนธิกำลัง สกัดจับขณะลำเลียงไม้ออกจากป่า พบไม้ของกลางอื้อ..!!(ชมคลิป)

เมื่อเช้ามืดของวันที่ 24 พฤศจิกายน 60 โดยการอำนวยการสั่งการของนายชูเกียรติ  พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักฯ นายสุเทพ พุทชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด/จับกุม นำโดย นายศิริพงษ์ พรหมจิตต์นักวิชาการป่าไม้ชำนานการ หัวหน้าหน่วยฯ นางสุมาลี เอนกคณา พร้อมกับพวก,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.31 (แม่หวด) โดยการอำนวยการสั่งการของ นายจรัล สะอาดจิตต์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.งาว นำโดย นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภองาวกับพวก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้าผาไท นำโดย นายพีระเมศร์  ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้าผาไท พร้อมกับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.พิบูลย์ เวียงจันทร์ ผกก.4 บก.ปทส.พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธ์ รอง ผกก.4 บก.ปทส.,พ.ต.ต.พากษกรณ์ เจนใจ สว.กก.4 บก.ปทส.พร้อม ด.ต.วสุอนันต์ สารีพันธ์, และ ด.ต.คมชาญ  เหรียญทอง จ้าหน้าที่ทหารกกล.รส.จ.ลำปางโดย รส.ที่ 3 (ร้อย ฝรพ.3 )นำโดย พ.ต.อาทิรัช ปุ๊ดหน่อย ผบ.ค่ายฝึกการรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปลักลอบตัดไม้ในป่าชุมชนบ้านปันพัฒนา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งซ้าย หมู่ 9 ต.ปงเตา อ.งาวจว.ลำปาง โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย  และทราบว่าจะมีชักลากไม้ ขนลำเลียงไม้ออกจากป่าโดยใช้รถยนต์หกล้อบรรทุกขับขี่ออกมาจากป่ามุ่งหน้าเข้ามายังหมู่บ้าน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและจับกุมดำเนินการ 
เมื่อได้รับแจ้ง นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภองาวจึงประสานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.30 (แม่โป่ง)ลป.31 (แม่หวด), เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้าผาไท, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.,เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยรบพิเศษค่ายฝึกประตูผา ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ,ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ฯจึงได้สนธิกำลังกันวางแผนเพื่อจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังกันออกเป็นหลายชุด จัดชุดสายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจลาดตระเวนในป่าชุมชนบ้านปันพัฒนา และตามเส้นทางที่คาดว่ารถไม้คันดังกล่าวจะขับรถผ่านออกมาจากป่า พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจของอาสาสมัครหรือตำรวจบ้านบริเวณถนนในหมู่บ้านปันพัฒนา ปรากฏว่าชุดสายตรวจชุดที่ออกตรวจในป่าเดินทางไปถึงป่าชุมชนบ้านปันพัฒนา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งซ้ายได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ดังกึกก้องในป่า และมองเห็นแสงไฟส่องสว่างในระไกลในป่าคืนเดือนมืด

ขณะเจ้าหน้าที่ฯได้เดินเท้าเข้าไปในป่าเพื่อจับกุมตัว ปรากฏว่าเสียงเลื่อยโซ่ยนต์เงียบเสียงลงและแสงไฟก็ดับหายไป เวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ได้ยินเสียงรถยนต์และลำแสงส่องสว่างหน้ารถขับออกมาจากป่า เจ้าหน้าที่ฯจึงได้วิ่งกลับมาขึ้นรถและขับไล่กวดติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไป รถยนต์คันดังกล่าวได้รีบเร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีไปตามถนน และได้ขับขี่มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านปันพัฒนา ขับขี่เลี้ยวเข้าซอยหลบจุดตรวจที่ชุดอาสาสมัครหรือตำรวจชุมชนตั้งด่านตรวจอยู่ ไล่ติดตามมาถึงถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1 เส้นทาง ลำปาง –พะเยา เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและเรียกให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวหยุดรถและจอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย แต่รถคันดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุดรถขับขี่ต่อไปมุ่งหน้าไปทางจังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่ฯจึงตัดสินใจขับรถยนต์ของทางราชการขึ้นแซงแล้วปาดหน้ารถยนต์คันดังกล่าวพร้อมทั้งบังคับให้หยุดรถชิดขอบทางด้านซ้ายของถนน รวมระยะทางที่ขับไล่กวดติดตามรถยนต์คันดังกล่าวประมาณ 1 กิโลเมตร คณะเจ้าหน้าที่ฯได้เรียกให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวลงมาจากรถ ทราบชื่อต่อมาคือนายศักดา ขันเพชร อายุ 61  ปี ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่และใบอนุญาตขับรถ อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 2 ต.นาแก  อ.งาว จ.ลำปาง เป็นผู้ขับขี่ พบนางปาริฉัตร เทียนใจ อายุ 25 ปี ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ อยู่บ้านเลขที่ 69/2 หมู่ 3 ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง นั่งโดยสารมาด้านหน้าตอนกลางข้างคนขับและพบนายทัดเทพใจหาวัน อายุ 29 ปี ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ อยู่บ้านเลขที่ 88/2 หมู่ 2 ต.นาแก อ.งาว  จ.ลำปาง นั่งโดยสารมาด้านหน้าเบาะซ้ายคู่คนขับติดขับประตู (ฝั่งด้านซ้ายคนขับ) คณะเจ้าหน้าที่ฯตรวจดูที่กระบะบรรทุกพบไม้ท่อนวางอยู่เต็มลำรถ ปลายไม้ยื่นยาวออกมานอกตัวรถ มีฝากระบะปิดไว้คร่าว ๆ เจ้าหน้าที่จึงเปิดฝากระบะท้ายรถออก พบไม้ท่อนขนาดต่างๆวางทับซ้อนกันไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจดูที่ไม้ท่อนพบว่าเป็นไม้ชนิดไม้สักและมีรอยตัดสภาพใหม่ เจ้าหน้าที่ฯจึงได้สอบถามบุคคลทั้ง 3 คน ถึงหลักฐานการได้มาของไม้สักท่อนดังกล่าว บุคคลทั้ง 3 คน ไม่มีหลักฐานใดๆมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯและได้ทำการตรวจค้นภายในรถแล้วก็ไม่พบเอกสารที่ใช้ควบคุมกับกับไม้สักท่อนดังกล่าวอีกแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ฯจึงได้จับกุมและควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 คน มายังสถานีตำรวจภูธรงาว เพื่อตรวจค้นรถและสิ่งของภายในรถโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผลการตรวจค้นกระบะบรรทุกตรวจพบเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อสติล สีสีมขาว จำนวน  1 เครื่อง วางซุกซ่อนอยู่บนไม้สักท่อน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบดูที่เลื่อยโซ่ยนต์ ไม่พบเครื่องหมายการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีหรือปิดแสดงไว้แต่อย่างใด เครื่องจักรกลต้นกำลังไม่ปรากฏ แผ่นบังคับโซ่มีความยาว 18 นิ้วพบเศษขี้เลื่อยของไม้เกาะติดคาอยู่ที่ตัวเครื่อง ฝาครอบเครื่องและร่องโซ่ 

จากการสอบถาม นายศักดาฯกับพวกว่า เลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวมีหลักฐานการครอบครองหรือไม่อย่างไร นายศักดาฯ กับพวก ไม่มีหลักฐานใบอนุญาตหรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาต จึงได้ตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมไม้ของกลาง เป็นไม้สักท่อน จำนวน 24 ท่อนปริมาตร 0.76 ลูกบาศก์เมตร คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 19,000.- บาท เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อสติล สีสีมขาว ขนาดกำลังเครื่องจักรกล -แรงม้า พร้อมบาร์และโซ่ยาว 18  นิ้ว  จำนวน 1เครื่อง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (หกล้อกระบะบรรทุก) ยี่ห้ออีซูซุสี ทะเบียน บพ 747 พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คัน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง ร.ต.อ.สายัน มณีแก้ว พงส.สภ.งาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ/ข่าว.อัมรินทร์ วะนะวิเชียร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดลำปาง.