- 16 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมเรียกคนขับรถโดยสารสองแถวรับส่งนักท่องเที่ยวขึ้นภูทับเบิก ที่สตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะขัดเกียร์และล็อคกันขโมยที่เบรกไว้ จนทำให้รถไหลลงหุบเขาลึกกว่า 30 เมตร นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 คน มาเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ฐานที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร นอกเหนือจากที่ทางตำรวจตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท
จากกรณีที่เกิดเหตุ รถยนต์โดยสารสองแถวรับส่งนักท่องเที่ยว ไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0261 เพชรบูรณ์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนั่งอยู่ที่กระบะหลังรถราว 10 คน ที่จอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถวิสาหกิจชุมชน จุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ไหลลงเนินไปเฉี่ยวชนรถยนต์ อีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว ทะเบียน กม 9146 อุดรธานี ของนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่ใกล้กัน ก่อนพุ่งตกลงไปในหุบเขาด้านล่างลึกกว่า 30 เมตร เดชะบุญที่รถคันดังกล่าวได้ไหลไปติดป่ากล้วย จึงทำให้รถหยุดสงบนิ่งลงได้ แต่นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นคณะครูจากโรงเรียนท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นั่งโดยสารอยู่ที่กระบะด้านหลังรถ ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด จำนวน 9 คน และมีอาการสาหัส 2 คน ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสาเหตุในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนขับรถคันดังกล่าว ได้บิดกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยลืมไปว่าได้ขัดเกียร์ และล็อคกันขโมยที่เบรกรถไว้ จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถเหยียบเบรกบังคับรถในขณะที่รถไหลลงเขาได้ และเกือบทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายธีรศักดิ์ เหมทานนท์ ขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากกรณีที่รถโดยสารไม่ประจำทาง ซึ่งวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวในเขตอำเภอเขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล ภูเรือ และ ภูกระดึง ซึ่งเป็นรถที่ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อนุญาตให้นำมาใช้ในการขนส่งรับส่งนักท่องเที่ยวที่จำเป็นต้องขึ้นภูเขาสูงๆ หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถนำรถขนาดใหญ่ขึ้นไปได้ มาตรการที่ทางขนส่งจังหวัดได้วางเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแรก คือ รถทุกคันจะต้องดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ขับรถจะต้องผ่านการอบรมจากสำนักงานขนส่งจังหวัดที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ แต่จะต้องมีความรู้มีความสามารถในการดูแลผู้โดยสาร ซึ่งตามกฎหมายที่ขนส่งได้บังคับไว้แล้วว่า ผู้ที่จะขอทดสอบเพื่อขออนุญาตขับรถตามกฎหมายขนส่งได้นั้น จะต้องผ่านการอบรมไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรที่มากกว่าคนที่ขออนุญาตภาคปรกติทั่วๆไป ส่วนมาตรการที่ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดนอกจากอบรมแล้ว ก็จะเป็นการทำความเข้าใจกับคนขับรถ คอยเน้นย้ำปลูกฝังจิตสำนึกในเวลามีการอบรมต่างๆ หรือแม้แต่มีการตั้งด่านทุกครั้งก็จะคอยเตือนสติคนขับว่า อย่าประมาท ดูแลผู้โดยสารให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข นี่คือมาตรการที่สำคัญที่สำนักงานขนส่งจังหวัดได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ผู้ขับรถจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายขนส่งที่ได้บัญญัติไว้ว่า คนขับรถรับส่งผู้โดยสารจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาทางสำนักงานขนส่งจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจะต้องมีหนังสือแจ้งไปเรียกตัวคนขับรถ ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นทั้งคนขับรถและเป็นเจ้าของรถด้วย ก็จะต้องเอามาลงโทษตามกฎหมายที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ว่าด้วยความปลอดภัยในการรับส่งผู้โดยสาร
สำหรับการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ รถที่จดทะเบียนตามกฎหมายขนส่ง หมวด 30 จะต้องมีประกันคุ้มครองผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ในส่วนนี้ทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ จะต้องประสานกับบริษัทประกันเพื่อให้มารับผิดชอบเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลในการดูแลอาการบาดเจ็บของผู้โดยสารทุกคน
ส่วนผู้ขับรถจะต้องมารับผิดชอบ มาถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ฐานที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งการลงโทษนี้นอกเหนือไปจากที่ทางตำรวจได้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา ซึ่งถ้าหากมีผู้เสียชีวิตก็จะต้องถอนใบอนุญาต และรถก็จะต้องถูกเพิกถอนด้วย แต่ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมีแต่ผู้บาดเจ็บเล็กน้อยก็เลยไม่ถึงขั้นที่จะต้องเพิกถอนทะเบียนรถ และในขณะนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งด่านตรวจสอบรถที่จดทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเข้มงวดต่อไป
นายอารีย์ สีแก้ว นายพันคำ เทศประสิทธิ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์เพชรบูรณ์