- 20 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ตามที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจในการขึ้นค่าแรง ประเทศไทยที่มีอัตราแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด สำหรับที่จังหวัดแพร่มีอัตราการ ขึ้นในกลุ่ม 22 จังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 10 บาท เป็น 310 บาท จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป ในส่วนของผู้ประกอบการ มีความรู้สึกพอใจกับการตัดสินใจของรัฐบาลนี้ ไม่เหมือนเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมามีการขึ้นค่าแรงแบบก้าวกระโดดและจังหวัดแพร่มีอัตราค่าแรงเท่ากับจังหวัดใหญ่ ๆแต่วงรอบของธุรกิจมีน้อยกว่า ทำให้หลายกิจการต้องปิดตัวเองเนื่องจากสู้ค่าแรงไม่ไหว แต่การขึ้นค่าแรงในครั้งนี้มีผลกระทบแต่ไม่มาก รับได้กับประกาศขึ้นค่าแรงดังกล่าว
นายปัญจพล ประสิทธิ์โสภิณ รองประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ และเจ้าของกิจการบริษัทแพร่ บีพี กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การขึ้นค่าแรงมีผลกระทบไหม ก็ต้องตอบว่ามี แต่การขึ้นค่าแรงครั้งนี้ผู้ประกอบการในจังหวัดแพร่รับได้ เพราะจะมีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งทั้งการเพิ่มค่าแรงและภาระผูกพันอาทิ การประกันสังคมหรือส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มตามอัตราของการขึ้นค่าแรง ผู้ประกอบการในจังหวัดแพร่เป็นที่พอใจ ส่วนนายพงศธร ประเดชบุญ หจก.วินัยการช่าง 2014 กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางร้านฯได้ทำเกี่ยวกับการเคาะพ่นสีรถรถยนต์ทุกชนิด และรับงานของบริษัทประกันทุกบริษัท ฯ ตามที่ทางรัฐบาลประกาศขึ้นค่าแรง โดยเพิ่มขึ้นอีก 10 บาท เป็น 310 บาท นั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ดีกับแรงงาน สำหรับที่ทางร้านคนงานหรือแรงงานส่วนมากจะเป็นแรงงานที่มีฝีมือ ค่าแรงก็จะได้มากกว่าขึ้นต่ำอยู่แล้ว จากการสอบถามเรื่องการขึ้นค่าแรงในครั้งนี้ ทางแรงงานของ หจก.วินัยการช่าง 2014 ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีผลเพราะทุกคนได้ค่าจ้างมากกว่าค่าแรงขึ้นต่ำอยู่แล้ว
นายบุญธรรม พร้อมพงษ์ ลูกจ้างกิจการ บี คลีน ไบค์ แอนด์ คาร์แคร์ ที่ถนนเหมืองหิต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เครือข่ายผู้ใช้แรงงานในจังหวัดแพร่ กล่าวเกี่ยวกับการขึ้นค่าแรงในครั้งนี้ว่า การปรับขึ้นค่าแรงของรัฐเป็นความหวังของลูกจ้างทุกคน ซึ่งการขึ้นค่าแรงครั้งนี้ขึ้นไม่มาก และนานมาแล้วที่จะมีการปรับค่าแรง ในส่วนตัวแล้วก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องดูสภาวะทางเศรษฐกิจด้วย ถ้าการขึ้นค่าแรงในปริมาณสูงมาก ก็จะทำให้ผู้ประกอบการก็จะอยู่ไม่ได้ สำหรับสิ่งที่ลูกจ้างต้องการขณะนี้ อยากให้รัฐให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบ และ นอกระบบ โดยควรมีการประเมินค่าครองชีพทุกสิ้นไป แล้วจัดให้มีการขึ้นค่าแรงตามความจำเป็น อาจไม่มากแต่เป็นขวัญและกำลังใจของผู้ใช้แรงงาน และผู้ใช้แรงงานในจังหวัดแพร่ หรือจังหวัดที่มีธุรกิจเล็ก ๆก็จะไม่หนีเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ ที่มีค่าแรงสูงแต่ค่าครองชีพก็สูงด้วยเช่นกัน
ธีรพงษ์ ธงออน สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดแพร่